คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2548 (ม.ค. — ก.พ.) ดังนี้
1. การส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 7,745.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 ขยายตัวต่อเนื่อง แต่อัตราขยายตัวชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นช่วงต้นปี ซึ่งการส่งออกจะขยายตัวไม่สูง ทำให้การส่งออกในระยะ 2 เดือนแรกของ ปี 2548 (ม.ค. — ก.พ.) มีมูลค่า 15,621.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1
2. การนำเข้าเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 8,270.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 ชะลอตัวลงจากเดือนมกราคม เนื่องจากการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่ชะลอตัวลงมาก โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.2 เนื่องจากราคานำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 ขณะที่ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 1.9 ทำให้การนำเข้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2548 (ม.ค. — ก.พ.) มีมูลค่า 17,487.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.8
สินค้าสำคัญที่นำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงและส่งผลทำให้ดุลการค้าขาดดุล ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็กกล้า ทองคำ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรมและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ และสินแร่และโลหะอื่น ๆ
3. ดุลการค้าเดือนกุมภาพันธ์ ขาดดุลมูลค่า 525.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนมกราคมค่อนข้างมาก ทำให้ดุลการค้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2548 (ม.ค. — ก.พ.) ขาดดุลมูลค่า 1,866.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4. ตลาดส่งออกสำคัญ ตลาดใหม่ยังขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 15.2 อันเป็นผลจากการดำเนินมาตรการเชิงรุกในการเจาะตลาดใหม่ ทั้ง Trade Commando ส่งนักรบทางการตลาดไปขายสินค้า ตลาดที่ขยายตัวในอัตราสูง ได้แก่ อินเดีย (ร้อยละ 107.1) แอฟริกา (ร้อยละ 56.0) ลาตินอเมริกา (ร้อยละ 31.3) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 27.0) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 24.2) ยุโรปตะวันออก (ร้อยละ 18.6) และออสเตรเลีย (ร้อยละ 18.2)
ตลาดหลักชะลอตัวลงโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 ตามการชะลอตัวของการส่งออกไปสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและอาเซียน ขณะที่การส่งออกไปญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4
5. การส่งออกสินค้าสำคัญ สินค้าส่วนใหญ่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ปลากระป๋อง ผัก ผลไม้ ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งไก่แปรรูปซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 100.0
สินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลง ได้แก่ มันสำปะหลังลดลงร้อยละ 26.3 เป็นผลจากผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ และธัญพืชในสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการมันสำปะหลังจากไทยลดลง กุ้งแช่แข็งและแปรรูปลดลงร้อยละ 30.7 เนื่องจากการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ มาก ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ปี 2547 เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการ AD ของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มในเดือนมีนาคม 2547 ไก่สดแช่แข็งลดลงร้อยละ 99.0 จากปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก แผงวงจรไฟฟ้าลดลงร้อยละ 16.0 จากปัญหาการแข่งขันด้านราคากับเกาหลีใต้ และยางพาราลดลงร้อยละ 1.9 เนื่องจากจีนลดการนำเข้าตามนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--
1. การส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 7,745.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.5 ขยายตัวต่อเนื่อง แต่อัตราขยายตัวชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นช่วงต้นปี ซึ่งการส่งออกจะขยายตัวไม่สูง ทำให้การส่งออกในระยะ 2 เดือนแรกของ ปี 2548 (ม.ค. — ก.พ.) มีมูลค่า 15,621.17 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.1
2. การนำเข้าเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 8,270.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.0 ชะลอตัวลงจากเดือนมกราคม เนื่องจากการนำเข้าสินค้าเชื้อเพลิงที่ชะลอตัวลงมาก โดยเฉพาะน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.2 เนื่องจากราคานำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 ขณะที่ปริมาณนำเข้าลดลงร้อยละ 1.9 ทำให้การนำเข้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2548 (ม.ค. — ก.พ.) มีมูลค่า 17,487.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.8
สินค้าสำคัญที่นำเข้าเพิ่มขึ้นในอัตราสูงและส่งผลทำให้ดุลการค้าขาดดุล ได้แก่ น้ำมันดิบ เหล็กกล้า ทองคำ เครื่องจักรใช้ในอุตสาหกรรมและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ และสินแร่และโลหะอื่น ๆ
3. ดุลการค้าเดือนกุมภาพันธ์ ขาดดุลมูลค่า 525.1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขาดดุลต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง ปรับตัวดีขึ้นจากเดือนมกราคมค่อนข้างมาก ทำให้ดุลการค้าในระยะ 2 เดือนแรกของปี 2548 (ม.ค. — ก.พ.) ขาดดุลมูลค่า 1,866.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4. ตลาดส่งออกสำคัญ ตลาดใหม่ยังขยายตัวต่อเนื่องร้อยละ 15.2 อันเป็นผลจากการดำเนินมาตรการเชิงรุกในการเจาะตลาดใหม่ ทั้ง Trade Commando ส่งนักรบทางการตลาดไปขายสินค้า ตลาดที่ขยายตัวในอัตราสูง ได้แก่ อินเดีย (ร้อยละ 107.1) แอฟริกา (ร้อยละ 56.0) ลาตินอเมริกา (ร้อยละ 31.3) ตะวันออกกลาง (ร้อยละ 27.0) อินโดจีนและพม่า (ร้อยละ 24.2) ยุโรปตะวันออก (ร้อยละ 18.6) และออสเตรเลีย (ร้อยละ 18.2)
ตลาดหลักชะลอตัวลงโดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 ตามการชะลอตัวของการส่งออกไปสหรัฐฯ สหภาพยุโรปและอาเซียน ขณะที่การส่งออกไปญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.4
5. การส่งออกสินค้าสำคัญ สินค้าส่วนใหญ่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่สำคัญ ได้แก่ ข้าว ปลากระป๋อง ผัก ผลไม้ ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ พลาสติก วัสดุก่อสร้าง อัญมณี ผลิตภัณฑ์ยาง เฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งไก่แปรรูปซึ่งเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 100.0
สินค้าสำคัญที่ส่งออกลดลง ได้แก่ มันสำปะหลังลดลงร้อยละ 26.3 เป็นผลจากผลผลิตข้าวโพดของสหรัฐฯ และธัญพืชในสหภาพยุโรปที่เพิ่มขึ้นทำให้ความต้องการมันสำปะหลังจากไทยลดลง กุ้งแช่แข็งและแปรรูปลดลงร้อยละ 30.7 เนื่องจากการเร่งส่งออกไปสหรัฐฯ มาก ในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ ปี 2547 เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการ AD ของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มในเดือนมีนาคม 2547 ไก่สดแช่แข็งลดลงร้อยละ 99.0 จากปัญหาการระบาดของไข้หวัดนก แผงวงจรไฟฟ้าลดลงร้อยละ 16.0 จากปัญหาการแข่งขันด้านราคากับเกาหลีใต้ และยางพาราลดลงร้อยละ 1.9 เนื่องจากจีนลดการนำเข้าตามนโยบายลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 5 เมษายน 2548--จบ--