เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร เป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... (การกำหนดมาตรการนำเข้าภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร)
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร เป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... (การกำหนดมาตรการนำเข้าภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงพาณิชย์เสนอว่า โดยที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ได้เพิ่มเติมสินค้าภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหารในร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแจ้งว่า มาตรการนำเข้าภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร ตามร่างประกาศฯ ดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานภายในประเทศ อาจขัดกับความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ได้ กระทรวงพาณิชย์จึงได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์แก้ไขร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องนี้โดยกำหนดค่าปริมาณสารตะกั่วและ
สารแคดเมียมที่ละลายออกมาจากภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และไม่ให้ขัดกับความตกลง WTO จึงได้เสนอร่างประกาศดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยสาระสำคัญของร่างประกาศมีดังนี้
1. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ร่างข้อ 2)
2. ให้ภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบตามประกาศนี้ที่ใช้บรรจุอาหารที่มีปริมาณสารตะกั่วหรือสารแคดเมียมละลายออกมา ดังต่อไปนี้ เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
2.1 ภาชนะแบบแบนที่มีปริมาณสารตะกั่วละลายออกมาเกินกว่า 7 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือมีสารแคดเมียมละลายออกมาเกินกว่า 0.7 มิลลิกรัมต่อลิตร
2.2 ภาชนะแบบลึกขนาดเล็กที่มีปริมาณสารตะกั่วละลายออกมาเกินกว่า 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือมีสารแคดเมียมละลายออกมาเกินกว่า 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร
2.3 ภาชนะแบบลึกขนาดใหญ่ที่มีปริมาณสารตะกั่วละลายออกมาเกินกว่า 2.5 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือมีสารแคดเมียมละลายออกมาเกินกว่า 0.25 มิลลิกรัมต่อลิตร (ร่างข้อ 5)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤษภาคม 2551--จบ--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร เป็นสินค้าที่ต้องห้ามหรือเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... (การกำหนดมาตรการนำเข้าภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงพาณิชย์เสนอว่า โดยที่คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ได้เพิ่มเติมสินค้าภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหารในร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหลักการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาและสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแจ้งว่า มาตรการนำเข้าภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร ตามร่างประกาศฯ ดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานภายในประเทศ อาจขัดกับความตกลงองค์การการค้าโลก (WTO) ได้ กระทรวงพาณิชย์จึงได้จัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์แก้ไขร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ในเรื่องนี้โดยกำหนดค่าปริมาณสารตะกั่วและ
สารแคดเมียมที่ละลายออกมาจากภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบที่ใช้บรรจุอาหาร เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และไม่ให้ขัดกับความตกลง WTO จึงได้เสนอร่างประกาศดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยสาระสำคัญของร่างประกาศมีดังนี้
1. ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ร่างข้อ 2)
2. ให้ภาชนะเซรามิกและภาชนะโลหะเคลือบตามประกาศนี้ที่ใช้บรรจุอาหารที่มีปริมาณสารตะกั่วหรือสารแคดเมียมละลายออกมา ดังต่อไปนี้ เป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร
2.1 ภาชนะแบบแบนที่มีปริมาณสารตะกั่วละลายออกมาเกินกว่า 7 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือมีสารแคดเมียมละลายออกมาเกินกว่า 0.7 มิลลิกรัมต่อลิตร
2.2 ภาชนะแบบลึกขนาดเล็กที่มีปริมาณสารตะกั่วละลายออกมาเกินกว่า 5.0 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือมีสารแคดเมียมละลายออกมาเกินกว่า 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร
2.3 ภาชนะแบบลึกขนาดใหญ่ที่มีปริมาณสารตะกั่วละลายออกมาเกินกว่า 2.5 มิลลิกรัมต่อลิตร หรือมีสารแคดเมียมละลายออกมาเกินกว่า 0.25 มิลลิกรัมต่อลิตร (ร่างข้อ 5)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 พฤษภาคม 2551--จบ--