คณะรัฐมนตรีพิจารณารายงานการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน
9 แห่ง แล้วมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอทั้ง 5 ข้อ ดังนี้
1. รับทราบผลการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 9 แห่ง และการส่งคืนเงิน
งบประมาณอุดหนุนของรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเงินงบประมาณอุดหนุน
ต่อไป
2. เห็นชอบให้กระทรวงเจ้าสังกัดและคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจเร่งรัดและติดตามการเบิกจ่าย
งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นประจำทุกเดือน และรายงานกระทรวงการคลัง เพื่อรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมทั้งให้คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาประสิทธิภาพของผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ
นั้น ๆ ด้วย
3. เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจจัดทำแผนการทำงาน (Work plan) ของการลงทุนต่าง ๆ เป็นรายเดือน
ให้ชัดเจน ส่งให้กระทรวงการคลังภายในเดือนตุลาคม 2548
4. เห็นชอบให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนการทำงานตามข้อ 3. ตาม
หลัก Cash Flow
5. เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งรายงานผลการดำเนินงานตามข้อ 3. และ 4. ให้กระทรวงการคลัง
ทราบเป็นประจำทุกเดือน
ทั้งนี้ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม-
แห่งชาติและสำนักงบประมาณไปประกอบการดำเนินการด้วย
กระทรวงการคลังรายงานว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ วันที่ 5 กรกฎาคม 2548 กระทรวง
การคลังได้เชิญรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ การเคหะ
แห่งชาติ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด มาประชุมหารือเพื่อ
เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 และได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบแล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรี
วันที่ 12 กรกฎาคม 2548 และต่อมาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 กระทรวงการคลังได้เชิญกระทรวงมหาดไทย
การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือร่วมกัน
ผลการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 9 แห่ง (ในจำนวนนี้มี
รัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงินงบประมาณอุดหนุนเป็นรายจ่ายลงทุน จำนวน 4 แห่ง) สรุปได้ดังนี้
1. ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุน
หน่วย : ล้านบาท
รายการ งบลงทุนรวม ส่วนที่ได้รับเงิน ส่วนที่เป็น
งบประมาณอุดหนุน Import Content
(1) วงเงินลงทุนทั้งปี 149,450.61 23,441.74 27,627.26
(2) เบิกจ่ายถึง 31 พ.ค. 48 40,428.83 9,227.04 8,064.23
(3) คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ มิ.ย.- ก.ย. 48 48,205.54 7,117.03 12,308.38
(4) รวมคาดว่าจะเบิกจ่ายจริงทั้งปี 88,634.37 16,344.07 20,398.22
(2) + (3)
หน่วย : ล้านบาท
รายการ งบลงทุนรวม ส่วนที่ได้รับเงิน ส่วนที่เป็น
งบประมาณอุดหนุน Import Content
(5) คงเหลือที่เบิกจ่ายไม่ได้ (1) — (4) 60,816.24 7,097.67 7,229.04
(6) อัตราการเบิกจ่ายจริงทั้งปี (ร้อยละ)
(4) / (1)
2. ปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข
2.1 ปัญหาอุปสรรค จากการที่ได้เชิญรัฐวิสาหกิจทั้ง 9 แห่ง มาประชุมร่วมกันพบว่า มีปัญหา
อุปสรรคที่ทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวล่าช้าหลายประการ ดังนี้
(1) ความล่าช้าของการลงนามในสัญญาเนื่องจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจ
รวมทั้งการเปลี่ยนมาใช้วิธี E — auction ทำให้ต้องมีการประกวดราคาหลายครั้ง
(2) รัฐวิสาหกิจได้รับเงินงบประมาณอุดหนุนบางส่วนล่าช้า ทำให้ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้
(3) การก่อสร้างล่าช้าเนื่องจากผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง
(4) คดีฟ้องร้องยังอยู่ในชั้นศาล ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินได้
(5) ความล่าช้าเนื่องจากวิธีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธี Barter Trade
2.2 แนวทางแก้ไข ที่ประชุมได้พิจารณาและกำหนดแนวทางเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของ
รัฐวิสาหกิจ ดังนี้
(1) ให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการก่อสร้าง และการเบิกจ่ายเงินให้รวดเร็วขึ้น
(2) ให้รัฐวิสาหกิจเปลี่ยนแปลงรายการก่อสร้างที่สามารถเบิกจ่ายได้เร็วมาทดแทน
โครงการที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
(3) ให้รัฐวิสาหกิจประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณูปโภค เพื่อให้สามารถ
ดำเนินโครงการได้ตามแผน
(4) ให้รัฐวิสาหกิจจัดทำแผนการทำงาน (Work Plan) ของโครงการลงทุนต่าง ๆ ให้
ชัดเจน เพื่อให้สามารถติดตามการดำเนินงานได้อย่างใกล้ชิด และในปีต่อ ๆ ไปจะสามารถเพิ่มอัตราการเบิกจ่าย
งบลงทุนได้สูงขึ้น
3. ผลการเร่งรัด จากการประชุมสามารถเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2548
ได้ดังนี้
รัฐวิสาหกิจ อัตราการเบิกจ่าย (ร้อยละ)
เดิม ใหม่
การเคหะแห่งชาติ 32.96 33.2
การรถไฟแห่งประเทศไทย 42.72 51.26
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 66.95 85.14
การประปาส่วนภูมิภาค 77.83 80.12
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพฯ 79.22 ร้อยละ 100
ภายใน ธ.ค. 48
การประปานครหลวง 78.25 80
บมจ. ทีโอที (ปีปฏิทิน) 59.43 71.51
การท่าเรือแห่งประเทศไทย 36.41 24.49
โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง 8.21 8.2
จากผลดังกล่าวจะทำให้ภาพรวมอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 ของรัฐวิสาหกิจ 18 แห่ง
ใหญ่ ๆ (ซึ่งมีงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายคิดเป็นร้อยละ 99 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งหมด)
เพิ่มจากร้อยละ 75.88 เป็นร้อยละ 77.09
3. จากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 จำนวน 9 แห่ง มีรัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงิน
อุดหนุนจากเงินงบประมาณเป็นรายจ่ายลงทุน จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ การรถไฟแห่งประเทศไทย
การประปาส่วนภูมิภาค และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนเป็นดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รายการ การเคหะ การรถไฟแห่ง การทางพิเศษแห่ง การประปา รวมทั้งสิ้น
แห่งชาติ ประเทศไทย ประเทศไทย ส่วนภูมิภาค
(1) เงินงบประมาณอุดหนุนที่ได้รับ ทั้งสิ้น (รวมผูกพันจากปีก่อน) 10,464.40 7,622.19 3,041.00 2,314.15 23,441.74
(2) เบิกจ่ายได้ในปี 2548 :
(2.1) 1 ต.ค.47 — 31 พ.ค.48 5,013.83 1,449.21 1,700.57 1,063.43 9,227.04
(2.2) ประมาณการเบิกจ่าย 3,174.31 1,817.65 1,233.63 891.44 7,117.03
1 มิ.ย. — 30 ก.ย. 48
(3) รวมเบิกจ่ายจริงถึง 30 ก.ย.48 8,188.14 3,266.86 2,934.20 1,954.87 16,344.07
(2.1) + (2.2)
(4) เบิกไม่ได้ถึง 30 ก.ย.48 (1)-(3) 2,276.26 4,355.33 106.8 359.28 7,097.67
(5) เงินงบประมาณอุดหนุนที่ส่งคืนได้ - 299.46 106.8 - 406.26
(6) ขอผูกพันไปปี 2549 (4) — (5) 2,276.26 4,055.87 - 359.28 6,691.41
(7) ประมาณการเบิกจ่าย 1,395.79 1,439.58 - 223.85 3,059.22
1 ต.ค. — 31 ธ.ค. 48
(8) ประมาณการเบิกจ่าย 880.47 2,616.29 - 135.42 3,632.18
ม.ค. — ก.ย. 49 * (6) — (7)
หมายเหตุ *งบอุดหนุนที่ขอผูกพันไปดำเนินการในปี 2549 จำนวน 3,632.18 ล้านบาท ประกอบด้วย
งบประมาณส่วนที่ก่อหนี้ผูกพันถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 จำนวน 1,842.25 ล้านบาท
และส่วนที่จะก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 อีกจำนวน 1,789.93 ล้านบาท
สำหรับเงินงบประมาณอุดหนุนที่ยังเบิกไม่ได้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2548 จำนวน 7,097.67 ล้านบาท
มีรัฐวิสาหกิจสามารถส่งคืนเงินงบประมาณอุดหนุนได้ 2 แห่ง รวมเป็นเงิน 406.26 ล้านบาท คือ
3.1 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) สามารถส่งคืนเงินงบประมาณอุดหนุนได้ จำนวน
106.80 ล้านบาท โดยเป็นเงินงบประมาณอุดหนุนในโครงการทางด่วน ขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1 (ทางพิเศษสาย
อาจณรงค์ — บางนา) ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้รับจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจของปี 2545 จำนวน 3,041
ล้านบาท ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ดำเนินโครงการเสร็จแล้ว และมีเงินเหลือจ่ายที่จะส่งคืนได้
3.2 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สามารถส่งคืนเงินงบประมาณอุดหนุนได้จำนวน 299.46
ล้านบาท เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในปีงบประมาณ 2548 และจะขอ
เปลี่ยนแปลงรายการไปดำเนินโครงการใหม่ รวม 3 โครงการ คือ งานจัดซื้อรางของฝ่ายการช่างโยธา จำนวน
159.29 ล้านบาท งานจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนน จำนวน 85 ล้านบาท และงานเปลี่ยนโครงสร้างทาง
หลีกย่านสถานีหาดใหญ่ จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นว่า งานทั้ง 3
โครงการดังกล่าวไม่ได้อยู่ในแผนงานประจำปี 2548 ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย และคาดว่าการรถไฟ
แห่งประเทศไทยจะไม่สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้ทันภายในเดือนกันยายน 2548 นอกจากนี้การรถไฟแห่ง
ประเทศไทยยังมีเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากการจัดซื้อจัดจ้างอีกจำนวน 25.17 ล้านบาท ที่สามารถส่งคืนได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 สิงหาคม 2548--จบ--
9 แห่ง แล้วมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอทั้ง 5 ข้อ ดังนี้
1. รับทราบผลการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 9 แห่ง และการส่งคืนเงิน
งบประมาณอุดหนุนของรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ ให้สำนักงบประมาณดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเงินงบประมาณอุดหนุน
ต่อไป
2. เห็นชอบให้กระทรวงเจ้าสังกัดและคณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจเร่งรัดและติดตามการเบิกจ่าย
งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจเป็นประจำทุกเดือน และรายงานกระทรวงการคลัง เพื่อรวบรวมนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
พร้อมทั้งให้คณะกรรมการของรัฐวิสาหกิจใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาประสิทธิภาพของผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ
นั้น ๆ ด้วย
3. เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจจัดทำแผนการทำงาน (Work plan) ของการลงทุนต่าง ๆ เป็นรายเดือน
ให้ชัดเจน ส่งให้กระทรวงการคลังภายในเดือนตุลาคม 2548
4. เห็นชอบให้สำนักงบประมาณจัดสรรเงินงบประมาณให้สอดคล้องกับแผนการทำงานตามข้อ 3. ตาม
หลัก Cash Flow
5. เห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งรายงานผลการดำเนินงานตามข้อ 3. และ 4. ให้กระทรวงการคลัง
ทราบเป็นประจำทุกเดือน
ทั้งนี้ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม-
แห่งชาติและสำนักงบประมาณไปประกอบการดำเนินการด้วย
กระทรวงการคลังรายงานว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ วันที่ 5 กรกฎาคม 2548 กระทรวง
การคลังได้เชิญรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ การเคหะ
แห่งชาติ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และบริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ จำกัด มาประชุมหารือเพื่อ
เร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 และได้รายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบแล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรี
วันที่ 12 กรกฎาคม 2548 และต่อมาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2548 กระทรวงการคลังได้เชิญกระทรวงมหาดไทย
การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือร่วมกัน
ผลการเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 ของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 9 แห่ง (ในจำนวนนี้มี
รัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงินงบประมาณอุดหนุนเป็นรายจ่ายลงทุน จำนวน 4 แห่ง) สรุปได้ดังนี้
1. ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุน
หน่วย : ล้านบาท
รายการ งบลงทุนรวม ส่วนที่ได้รับเงิน ส่วนที่เป็น
งบประมาณอุดหนุน Import Content
(1) วงเงินลงทุนทั้งปี 149,450.61 23,441.74 27,627.26
(2) เบิกจ่ายถึง 31 พ.ค. 48 40,428.83 9,227.04 8,064.23
(3) คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ มิ.ย.- ก.ย. 48 48,205.54 7,117.03 12,308.38
(4) รวมคาดว่าจะเบิกจ่ายจริงทั้งปี 88,634.37 16,344.07 20,398.22
(2) + (3)
หน่วย : ล้านบาท
รายการ งบลงทุนรวม ส่วนที่ได้รับเงิน ส่วนที่เป็น
งบประมาณอุดหนุน Import Content
(5) คงเหลือที่เบิกจ่ายไม่ได้ (1) — (4) 60,816.24 7,097.67 7,229.04
(6) อัตราการเบิกจ่ายจริงทั้งปี (ร้อยละ)
(4) / (1)
2. ปัญหาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข
2.1 ปัญหาอุปสรรค จากการที่ได้เชิญรัฐวิสาหกิจทั้ง 9 แห่ง มาประชุมร่วมกันพบว่า มีปัญหา
อุปสรรคที่ทำให้การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจดังกล่าวล่าช้าหลายประการ ดังนี้
(1) ความล่าช้าของการลงนามในสัญญาเนื่องจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐวิสาหกิจ
รวมทั้งการเปลี่ยนมาใช้วิธี E — auction ทำให้ต้องมีการประกวดราคาหลายครั้ง
(2) รัฐวิสาหกิจได้รับเงินงบประมาณอุดหนุนบางส่วนล่าช้า ทำให้ไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้
(3) การก่อสร้างล่าช้าเนื่องจากผู้รับเหมาขาดสภาพคล่อง
(4) คดีฟ้องร้องยังอยู่ในชั้นศาล ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินได้
(5) ความล่าช้าเนื่องจากวิธีการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธี Barter Trade
2.2 แนวทางแก้ไข ที่ประชุมได้พิจารณาและกำหนดแนวทางเพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนของ
รัฐวิสาหกิจ ดังนี้
(1) ให้รัฐวิสาหกิจเร่งรัดการก่อสร้าง และการเบิกจ่ายเงินให้รวดเร็วขึ้น
(2) ให้รัฐวิสาหกิจเปลี่ยนแปลงรายการก่อสร้างที่สามารถเบิกจ่ายได้เร็วมาทดแทน
โครงการที่ยังไม่สามารถดำเนินการได้
(3) ให้รัฐวิสาหกิจประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสาธารณูปโภค เพื่อให้สามารถ
ดำเนินโครงการได้ตามแผน
(4) ให้รัฐวิสาหกิจจัดทำแผนการทำงาน (Work Plan) ของโครงการลงทุนต่าง ๆ ให้
ชัดเจน เพื่อให้สามารถติดตามการดำเนินงานได้อย่างใกล้ชิด และในปีต่อ ๆ ไปจะสามารถเพิ่มอัตราการเบิกจ่าย
งบลงทุนได้สูงขึ้น
3. ผลการเร่งรัด จากการประชุมสามารถเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2548
ได้ดังนี้
รัฐวิสาหกิจ อัตราการเบิกจ่าย (ร้อยละ)
เดิม ใหม่
การเคหะแห่งชาติ 32.96 33.2
การรถไฟแห่งประเทศไทย 42.72 51.26
การทางพิเศษแห่งประเทศไทย 66.95 85.14
การประปาส่วนภูมิภาค 77.83 80.12
บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพฯ 79.22 ร้อยละ 100
ภายใน ธ.ค. 48
การประปานครหลวง 78.25 80
บมจ. ทีโอที (ปีปฏิทิน) 59.43 71.51
การท่าเรือแห่งประเทศไทย 36.41 24.49
โรงงานยาสูบ กระทรวงการคลัง 8.21 8.2
จากผลดังกล่าวจะทำให้ภาพรวมอัตราการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 ของรัฐวิสาหกิจ 18 แห่ง
ใหญ่ ๆ (ซึ่งมีงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายคิดเป็นร้อยละ 99 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายทั้งหมด)
เพิ่มจากร้อยละ 75.88 เป็นร้อยละ 77.09
3. จากการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2548 จำนวน 9 แห่ง มีรัฐวิสาหกิจที่ได้รับเงิน
อุดหนุนจากเงินงบประมาณเป็นรายจ่ายลงทุน จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ การเคหะแห่งชาติ การรถไฟแห่งประเทศไทย
การประปาส่วนภูมิภาค และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ซึ่งมีผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนเป็นดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รายการ การเคหะ การรถไฟแห่ง การทางพิเศษแห่ง การประปา รวมทั้งสิ้น
แห่งชาติ ประเทศไทย ประเทศไทย ส่วนภูมิภาค
(1) เงินงบประมาณอุดหนุนที่ได้รับ ทั้งสิ้น (รวมผูกพันจากปีก่อน) 10,464.40 7,622.19 3,041.00 2,314.15 23,441.74
(2) เบิกจ่ายได้ในปี 2548 :
(2.1) 1 ต.ค.47 — 31 พ.ค.48 5,013.83 1,449.21 1,700.57 1,063.43 9,227.04
(2.2) ประมาณการเบิกจ่าย 3,174.31 1,817.65 1,233.63 891.44 7,117.03
1 มิ.ย. — 30 ก.ย. 48
(3) รวมเบิกจ่ายจริงถึง 30 ก.ย.48 8,188.14 3,266.86 2,934.20 1,954.87 16,344.07
(2.1) + (2.2)
(4) เบิกไม่ได้ถึง 30 ก.ย.48 (1)-(3) 2,276.26 4,355.33 106.8 359.28 7,097.67
(5) เงินงบประมาณอุดหนุนที่ส่งคืนได้ - 299.46 106.8 - 406.26
(6) ขอผูกพันไปปี 2549 (4) — (5) 2,276.26 4,055.87 - 359.28 6,691.41
(7) ประมาณการเบิกจ่าย 1,395.79 1,439.58 - 223.85 3,059.22
1 ต.ค. — 31 ธ.ค. 48
(8) ประมาณการเบิกจ่าย 880.47 2,616.29 - 135.42 3,632.18
ม.ค. — ก.ย. 49 * (6) — (7)
หมายเหตุ *งบอุดหนุนที่ขอผูกพันไปดำเนินการในปี 2549 จำนวน 3,632.18 ล้านบาท ประกอบด้วย
งบประมาณส่วนที่ก่อหนี้ผูกพันถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2548 จำนวน 1,842.25 ล้านบาท
และส่วนที่จะก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในวันที่ 30 กันยายน 2548 อีกจำนวน 1,789.93 ล้านบาท
สำหรับเงินงบประมาณอุดหนุนที่ยังเบิกไม่ได้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2548 จำนวน 7,097.67 ล้านบาท
มีรัฐวิสาหกิจสามารถส่งคืนเงินงบประมาณอุดหนุนได้ 2 แห่ง รวมเป็นเงิน 406.26 ล้านบาท คือ
3.1 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) สามารถส่งคืนเงินงบประมาณอุดหนุนได้ จำนวน
106.80 ล้านบาท โดยเป็นเงินงบประมาณอุดหนุนในโครงการทางด่วน ขั้นที่ 3 สายใต้ ตอน S1 (ทางพิเศษสาย
อาจณรงค์ — บางนา) ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้รับจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจของปี 2545 จำนวน 3,041
ล้านบาท ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทยได้ดำเนินโครงการเสร็จแล้ว และมีเงินเหลือจ่ายที่จะส่งคืนได้
3.2 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สามารถส่งคืนเงินงบประมาณอุดหนุนได้จำนวน 299.46
ล้านบาท เนื่องจากการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในปีงบประมาณ 2548 และจะขอ
เปลี่ยนแปลงรายการไปดำเนินโครงการใหม่ รวม 3 โครงการ คือ งานจัดซื้อรางของฝ่ายการช่างโยธา จำนวน
159.29 ล้านบาท งานจัดหาและติดตั้งเครื่องกั้นถนน จำนวน 85 ล้านบาท และงานเปลี่ยนโครงสร้างทาง
หลีกย่านสถานีหาดใหญ่ จำนวน 30 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นว่า งานทั้ง 3
โครงการดังกล่าวไม่ได้อยู่ในแผนงานประจำปี 2548 ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย และคาดว่าการรถไฟ
แห่งประเทศไทยจะไม่สามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้ทันภายในเดือนกันยายน 2548 นอกจากนี้การรถไฟแห่ง
ประเทศไทยยังมีเงินงบประมาณเหลือจ่ายจากการจัดซื้อจัดจ้างอีกจำนวน 25.17 ล้านบาท ที่สามารถส่งคืนได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 สิงหาคม 2548--จบ--