คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชี้แจงข่าวกรณีการให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่อ ทำนาปลูกข้าวในประเทศไทย ดังนี้
ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีมีกลุ่มนักธุรกิจซาอุดิอาระเบียสนใจที่จะมาร่วมลงทุนทำนาในประเทศไทย และส่งผลผลิตออกไปยังประเทศของตน เพราะเล็งเห็นถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้น โดยเห็นว่าถ้ามีการจัดการอย่างเป็นระบบตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งออก การลงทุนจะคุ้มค่า และเนื้อหาในข่าวระบุว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งบริษัท รวมใจชาวนาขึ้นมา โดยมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกข้าว และเกษตรกร ร่วมเป็นกรรมการ จุดประสงค์ก็เพื่อรับจ้างทำนาทั่วประเทศ ในฐานะผู้มีประสบการณ์ คิดค่าจ้าง 1 ไร่ 5,000 บาท และบริษัท รวมใจชาวนา นี้จะทำงานรองรับการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าไม่เห็นด้วย นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอชี้แจงแนวคิดและเหตุผลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนี้
สภาพปัญหา เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ได้มองเห็นถึงปัญหาวิกฤตอาหารและพลังงาน นักธุรกิจชาวต่างชาติจึงหันมาสนใจการลงทุนสินค้าภาคเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะข้าวของประเทศไทย ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่มีชื่อเสียงและเป็นสินค้าที่ส่งออกได้เป็นอันดับหนึ่งของโลก และจะเป็นสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นในอนาคต ประกอบกับต่างประเทศไม่มีศักยภาพด้านภูมิศาสตร์เพียงพอที่จะปลูกข้าวได้ การให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่อทำนาปลูกข้าวและส่งผลผลิตออกไปยังประเทศของตน เป็นนโยบายที่เป็นอันตรายต่อชาติ และกระทบต่อวัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวนาไทย อีกทั้งเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
ปัญหาข้อกฎหมาย
1. พระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กำหนดไว้ดังนี้
มาตรา 8 ภายใต้บังคับมาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 10 และมาตรา 12
(1) ห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อาจอนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง
(2) ...ฯลฯ...
2. บัญชีหนึ่งท้ายพระราชบัญญัติ กำหนดดังนี้
ธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษ
(1) ...ฯ...
(2) การทำนา ทำไร่ หรือทำสวน
(3) ...ฯ...
(มาตรา 6 มาตรา 7 บัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติของตัวบุคคลที่เป็นคนต่างด้าว มาตรา 10 บัญญัติเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไทย หรือ โดยสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคี หรือมีความผูกพันตามพันธกรณี มาตรา 12 บัญญัติเกี่ยวกับธุรกิจของคนต่างด้าวซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมาย และตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติที่นอกเหนือจากบัญชีหนึ่ง)
บทกำหนดโทษ ตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542
มาตรา 36 ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราขบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ โดยคนต่างด้าวนั้น มิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือ ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ...ฯลฯ...
มาตรา 37 คนต่างด้าวผู้ใดประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืน ...ฯลฯ... มาตรา 8 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ...ฯลฯ ...
ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเห็นว่า แนวคิดเกี่ยวกับการให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนทำนาปลูกข้าวในประเทศไทย จะก่อให้เกิดผลกระทบบต่อวัฒนธรรม และวิถีชีวิตในการประกอบอาชีพทำนาของชาวนาไทย รวมทั้งยังเป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติข้างต้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่อาจเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และจำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนรวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2551--จบ--
ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวเกี่ยวกับกรณีมีกลุ่มนักธุรกิจซาอุดิอาระเบียสนใจที่จะมาร่วมลงทุนทำนาในประเทศไทย และส่งผลผลิตออกไปยังประเทศของตน เพราะเล็งเห็นถึงรายได้ที่จะเกิดขึ้น โดยเห็นว่าถ้ามีการจัดการอย่างเป็นระบบตั้งแต่การผลิตจนถึงการส่งออก การลงทุนจะคุ้มค่า และเนื้อหาในข่าวระบุว่า ขณะนี้ได้มีการตั้งบริษัท รวมใจชาวนาขึ้นมา โดยมีนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกข้าว และเกษตรกร ร่วมเป็นกรรมการ จุดประสงค์ก็เพื่อรับจ้างทำนาทั่วประเทศ ในฐานะผู้มีประสบการณ์ คิดค่าจ้าง 1 ไร่ 5,000 บาท และบริษัท รวมใจชาวนา นี้จะทำงานรองรับการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียด้วย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่าไม่เห็นด้วย นั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอชี้แจงแนวคิดและเหตุผลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดังนี้
สภาพปัญหา เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ได้มองเห็นถึงปัญหาวิกฤตอาหารและพลังงาน นักธุรกิจชาวต่างชาติจึงหันมาสนใจการลงทุนสินค้าภาคเกษตรมากขึ้น โดยเฉพาะข้าวของประเทศไทย ซึ่งเป็นสินค้าเกษตรที่มีชื่อเสียงและเป็นสินค้าที่ส่งออกได้เป็นอันดับหนึ่งของโลก และจะเป็นสินค้าที่มีราคาสูงขึ้นในอนาคต ประกอบกับต่างประเทศไม่มีศักยภาพด้านภูมิศาสตร์เพียงพอที่จะปลูกข้าวได้ การให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่อทำนาปลูกข้าวและส่งผลผลิตออกไปยังประเทศของตน เป็นนโยบายที่เป็นอันตรายต่อชาติ และกระทบต่อวัฒนธรรม รวมทั้งวิถีชีวิตของชาวนาไทย อีกทั้งเป็นการต้องห้ามตามกฎหมาย
ปัญหาข้อกฎหมาย
1. พระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กำหนดไว้ดังนี้
มาตรา 8 ภายใต้บังคับมาตรา 6 มาตรา 7 มาตรา 10 และมาตรา 12
(1) ห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อาจอนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง
(2) ...ฯลฯ...
2. บัญชีหนึ่งท้ายพระราชบัญญัติ กำหนดดังนี้
ธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษ
(1) ...ฯ...
(2) การทำนา ทำไร่ หรือทำสวน
(3) ...ฯ...
(มาตรา 6 มาตรา 7 บัญญัติเกี่ยวกับคุณสมบัติของตัวบุคคลที่เป็นคนต่างด้าว มาตรา 10 บัญญัติเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลไทย หรือ โดยสนธิสัญญาที่ประเทศไทยเป็นภาคี หรือมีความผูกพันตามพันธกรณี มาตรา 12 บัญญัติเกี่ยวกับธุรกิจของคนต่างด้าวซึ่งได้รับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมาย และตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติที่นอกเหนือจากบัญชีหนึ่ง)
บทกำหนดโทษ ตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542
มาตรา 36 ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราขบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ โดยคนต่างด้าวนั้น มิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว โดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือ ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตาม พระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ...ฯลฯ...
มาตรา 37 คนต่างด้าวผู้ใดประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืน ...ฯลฯ... มาตรา 8 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ...ฯลฯ ...
ดังนั้น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเห็นว่า แนวคิดเกี่ยวกับการให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนทำนาปลูกข้าวในประเทศไทย จะก่อให้เกิดผลกระทบบต่อวัฒนธรรม และวิถีชีวิตในการประกอบอาชีพทำนาของชาวนาไทย รวมทั้งยังเป็นการต้องห้ามตามพระราชบัญญัติข้างต้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่อาจเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว และจำเป็นต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนรวมทั้งผู้เกี่ยวข้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2551--จบ--