คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ประเทศไทยให้สัตยาบันกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
กระทรวงคมนาคมรายงานว่า
1. จากการประชุมรัฐมนตรีด้านการขนส่งอาเซียน (ASEAN Transport Ministers Meeting-ATM) ครั้งที่ 1
ระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคม 2539 ณ ประเทศอินโดนีเซีย ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการดำเนินการเพื่อพัฒนาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบและการอำนวยความสะดวกทางการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยให้ประเทศไทยเป็นผู้จัดการประชุมคณะทำงานอาเซียนในเรื่องดังกล่าวและจัดทำร่างกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
2. ในการประชุมรัฐมนตรีด้านการขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2548 ณ กรุงเวียงจันทน์
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม (นายมหิดล จันทรางกูร) เป็นผู้ลงนามในกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบร่วมกับ รัฐมนตรีด้านการขนส่งของประเทศอาเซียน ภายหลังจากการลงนามกรอบความตกลงฯ ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องดำเนินการให้สัตยาบันต่อกรอบความตกลงฯ เนื่องจากกรอบความตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อครบ 30 วัน หลังจากประเทศภาคี 2 ประเทศขึ้นไปให้สัตยาบันและจะมีผลใช้บังคับเฉพาะประเทศที่ให้สัตยาบันเท่านั้น ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะให้สัตยาบันกรอบความตกลงดังกล่าวแล้ว
3. การให้สัตยาบันกรอบความตกลงนี้ เอื้ออำนวยให้มีการเปิดเส้นทางการขนส่งระหว่างภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นทำให้ผู้ใช้บริการมีโอกาสเลือกผู้ให้บริการ เส้นทางและราคาที่เหมาะสมตลอดจนจะช่วยเปิดตลาดให้ผู้ประกอบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มีศักยภาพของประเทศไทยสามารถขยายการประกอบกิจการไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ได้ โดยประเทศไทยอาจพัฒนาตนเองเป็นศูนย์กลางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ มีที่ตั้งอยู่กลางคาบสมุทรอินโดจีน และเป็นเส้นทางผ่านจากสหภาพพม่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา ไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ ได้ กระทรวงคมนาคมจึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2551--จบ--
กระทรวงคมนาคมรายงานว่า
1. จากการประชุมรัฐมนตรีด้านการขนส่งอาเซียน (ASEAN Transport Ministers Meeting-ATM) ครั้งที่ 1
ระหว่างวันที่ 17-19 มีนาคม 2539 ณ ประเทศอินโดนีเซีย ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการดำเนินการเพื่อพัฒนาการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบและการอำนวยความสะดวกทางการค้าในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยให้ประเทศไทยเป็นผู้จัดการประชุมคณะทำงานอาเซียนในเรื่องดังกล่าวและจัดทำร่างกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ
2. ในการประชุมรัฐมนตรีด้านการขนส่งอาเซียน ครั้งที่ 11 เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2548 ณ กรุงเวียงจันทน์
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม (นายมหิดล จันทรางกูร) เป็นผู้ลงนามในกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบร่วมกับ รัฐมนตรีด้านการขนส่งของประเทศอาเซียน ภายหลังจากการลงนามกรอบความตกลงฯ ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องดำเนินการให้สัตยาบันต่อกรอบความตกลงฯ เนื่องจากกรอบความตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อครบ 30 วัน หลังจากประเทศภาคี 2 ประเทศขึ้นไปให้สัตยาบันและจะมีผลใช้บังคับเฉพาะประเทศที่ให้สัตยาบันเท่านั้น ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงคมนาคมพร้อมที่จะให้สัตยาบันกรอบความตกลงดังกล่าวแล้ว
3. การให้สัตยาบันกรอบความตกลงนี้ เอื้ออำนวยให้มีการเปิดเส้นทางการขนส่งระหว่างภูมิภาคเพิ่มมากขึ้นทำให้ผู้ใช้บริการมีโอกาสเลือกผู้ให้บริการ เส้นทางและราคาที่เหมาะสมตลอดจนจะช่วยเปิดตลาดให้ผู้ประกอบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบที่มีศักยภาพของประเทศไทยสามารถขยายการประกอบกิจการไปยังประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ได้ โดยประเทศไทยอาจพัฒนาตนเองเป็นศูนย์กลางการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ เนื่องจากประเทศไทยมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ มีที่ตั้งอยู่กลางคาบสมุทรอินโดจีน และเป็นเส้นทางผ่านจากสหภาพพม่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา ไปยังมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฯลฯ ได้ กระทรวงคมนาคมจึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2551--จบ--