คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านแรงงาน ครั้งที่ 20 และการประชุมที่เกี่ยวข้องตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้
สาระสำคัญของเรื่องเป็นการสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านแรงงาน ครั้งที่ 20 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ
กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2551 ดังนี้
1. การประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนเป็นการประชุมระดับนโยบายที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศสมาชิก โดยเฉพาะเรื่องความร่วมมือด้านแรงงานให้มีความใกล้ชิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และในปีนี้มีประเด็นที่ทุกประเทศให้ความสนใจและร่วมอภิปรายกันอย่างกว้างขวางคือ เรื่อง การส่งเสริมการมีงานทำที่มีคุณค่าแก่กลุ่มแรงงานที่ด้อยโอกาส/เสียเปรียบ ซึ่งนำไปสู่การกำหนดกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก รวมทั้งการจัดทำแผนงาน/กิจกรรม/ โครงการที่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และเรื่องความปลอดภัยในการทำงานและสุขอนามัย (OSH) โดยในที่สุดที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้คณะทำงาน “Ad- Hoc Working Group on Progressive Labour Practices to Enhancing Competitiveness in ASEAN” ซึ่งเสนอโดยสิงคโปร์เป็นคณะทำงานถาวร เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมปรึกษาหารือเชิงนโยบายระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อหาแนวทางตั้งรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลกและประเด็นสืบเนื่องจากการที่อาเซียนได้ให้การรับรองปฏิญญาว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงานต่างด้าวซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบการจัดตั้งคณะทำงาน (Establishment of the ASEAN Committee on the Implementation of the ASEAN Declaration on the protection and promotion of the Rights of Migrant Workers) เพื่อติดตามการดำเนินงานตามปฏิญญาข้างต่อไป
2. ผลการประชุมก่อให้เกิดฉันทามติในเรื่องสำคัญหลายเรื่อง ทั้งด้านแรงงานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งที่ประชุมได้ย้ำถึงจุดยืนในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของอาเซียน โดยเฉพาะการดำเนินการโครงการภายใต้วิสัยทัศน์และ ภารกิจของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญโครงการด้านการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ และการติดตามตลาดแรงงาน การพัฒนาฝีมือแรงงานและการฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมการบูรณาการด้านเศรษฐกิจความก้าวหน้าในการไปสู่ชุมชนทางสังคมและแรงงานอาเซียน กฎบัตรอาเซียนที่จะมีการลงนามในปลายปีนี้การจัดทำร่างความร่วมมือทางด้านสังคมและวัฒนธรรมภายใต้กฎบัตรอาเซียน ความร่วมมือกับประเทศ +3 รวมทั้งความเป็นไปได้ในการมีความร่วมมือกับประเทศนอกกรอบอาเซียน เช่น OECD G8 หรือองค์การระหว่างประเทศ เช่น ILO
3. ประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนถือได้ว่าเป็นการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญที่ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของอาเซียนในการส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นประจำทุกสองปีโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงทางด้านแรงงาน ซึ่งจะมีโอกาสแสดงนโยบายและวิสัยทัศน์ในการบริหารแรงงานต่อที่ประชุม และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นตลอดจนรับทราบความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านแรงงานของประเทศสมาชิก อันจะเป็นผลต่อการเสริมสร้างภาพพจน์ของประเทศไทยต่อเวทีประชุมระหว่างประเทศต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2551--จบ--
สาระสำคัญของเรื่องเป็นการสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านแรงงาน ครั้งที่ 20 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ
กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 6-8 พฤษภาคม 2551 ดังนี้
1. การประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนเป็นการประชุมระดับนโยบายที่ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศสมาชิก โดยเฉพาะเรื่องความร่วมมือด้านแรงงานให้มีความใกล้ชิดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และในปีนี้มีประเด็นที่ทุกประเทศให้ความสนใจและร่วมอภิปรายกันอย่างกว้างขวางคือ เรื่อง การส่งเสริมการมีงานทำที่มีคุณค่าแก่กลุ่มแรงงานที่ด้อยโอกาส/เสียเปรียบ ซึ่งนำไปสู่การกำหนดกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก รวมทั้งการจัดทำแผนงาน/กิจกรรม/ โครงการที่นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายดังกล่าว และเรื่องความปลอดภัยในการทำงานและสุขอนามัย (OSH) โดยในที่สุดที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้คณะทำงาน “Ad- Hoc Working Group on Progressive Labour Practices to Enhancing Competitiveness in ASEAN” ซึ่งเสนอโดยสิงคโปร์เป็นคณะทำงานถาวร เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมปรึกษาหารือเชิงนโยบายระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อหาแนวทางตั้งรับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของโลกและประเด็นสืบเนื่องจากการที่อาเซียนได้ให้การรับรองปฏิญญาว่าด้วยการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงานต่างด้าวซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบการจัดตั้งคณะทำงาน (Establishment of the ASEAN Committee on the Implementation of the ASEAN Declaration on the protection and promotion of the Rights of Migrant Workers) เพื่อติดตามการดำเนินงานตามปฏิญญาข้างต่อไป
2. ผลการประชุมก่อให้เกิดฉันทามติในเรื่องสำคัญหลายเรื่อง ทั้งด้านแรงงานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งที่ประชุมได้ย้ำถึงจุดยืนในความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของอาเซียน โดยเฉพาะการดำเนินการโครงการภายใต้วิสัยทัศน์และ ภารกิจของรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้ความสำคัญโครงการด้านการวางแผนทรัพยากรมนุษย์ และการติดตามตลาดแรงงาน การพัฒนาฝีมือแรงงานและการฝึกอบรมเพื่อส่งเสริมการบูรณาการด้านเศรษฐกิจความก้าวหน้าในการไปสู่ชุมชนทางสังคมและแรงงานอาเซียน กฎบัตรอาเซียนที่จะมีการลงนามในปลายปีนี้การจัดทำร่างความร่วมมือทางด้านสังคมและวัฒนธรรมภายใต้กฎบัตรอาเซียน ความร่วมมือกับประเทศ +3 รวมทั้งความเป็นไปได้ในการมีความร่วมมือกับประเทศนอกกรอบอาเซียน เช่น OECD G8 หรือองค์การระหว่างประเทศ เช่น ILO
3. ประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีแรงงานอาเซียนถือได้ว่าเป็นการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญที่ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของอาเซียนในการส่งผู้แทนเข้าร่วมเป็นประจำทุกสองปีโดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารระดับสูงทางด้านแรงงาน ซึ่งจะมีโอกาสแสดงนโยบายและวิสัยทัศน์ในการบริหารแรงงานต่อที่ประชุม และได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดเห็นตลอดจนรับทราบความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านแรงงานของประเทศสมาชิก อันจะเป็นผลต่อการเสริมสร้างภาพพจน์ของประเทศไทยต่อเวทีประชุมระหว่างประเทศต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มิถุนายน 2551--จบ--