คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทน ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ และสิทธิประโยชน์อื่นของประธานกรรมการและกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทน ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ และสิทธิประโยชน์อื่นของประธานกรรมการและกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้ประธานกรรมการและกรรมการได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน เป็นเงิน 250,000 บาท และ 200,000 บาท และผลประโยชน์อื่นอีกร้อยละ 25 ของเงินเดือน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง (ร่างมาตรา 4)
2. ให้ประธานกรรมการและกรรมการมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลหรือการประกันสุขภาพที่จ่ายจริงในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งออกตามความในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่ค่ารักษาพยาบาลของประธานกรรมการและกรรมการตามพระราชกฤษฎีกานี้โดยอนุโลม (ร่างมาตรา 5)
3. ให้ประธานกรรมการและกรรมการมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน และให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการและระเบียบกระทรวงการคลังซึ่งออกตามความในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานของประธานกรรมการและกรรมการตามพระราชกฤษฎีกานี้โดยอนุโลม (ร่างมาตรา 8)
4. ให้ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 1 ปีบริบูรณ์มีสิทธิได้รับบำเหน็จตอบแทนเป็นเงินซึ่งจ่ายครั้งเดียวเมื่อพ้นตำแหน่ง ทั้งนี้ การคำนวณบำเหน็จตอบแทนนั้น ให้นำอัตราค่าตอบแทนที่เป็นรายเดือนคูณด้วยระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งและสิทธิในบำเหน็จตอบแทนนั้นเป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนไม่ได้ (ร่างมาตรา 9)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มิถุนายน 2551--จบ--
ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทน ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าที่ และสิทธิประโยชน์อื่นของประธานกรรมการและกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ให้ประธานกรรมการและกรรมการได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือน เป็นเงิน 250,000 บาท และ 200,000 บาท และผลประโยชน์อื่นอีกร้อยละ 25 ของเงินเดือน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง (ร่างมาตรา 4)
2. ให้ประธานกรรมการและกรรมการมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลหรือการประกันสุขภาพที่จ่ายจริงในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี และให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลและระเบียบกระทรวงการคลัง ซึ่งออกตามความในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่ค่ารักษาพยาบาลของประธานกรรมการและกรรมการตามพระราชกฤษฎีกานี้โดยอนุโลม (ร่างมาตรา 5)
3. ให้ประธานกรรมการและกรรมการมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงาน และให้นำพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการและระเบียบกระทรวงการคลังซึ่งออกตามความในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมาใช้บังคับแก่ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติงานของประธานกรรมการและกรรมการตามพระราชกฤษฎีกานี้โดยอนุโลม (ร่างมาตรา 8)
4. ให้ประธานกรรมการและกรรมการซึ่งดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า 1 ปีบริบูรณ์มีสิทธิได้รับบำเหน็จตอบแทนเป็นเงินซึ่งจ่ายครั้งเดียวเมื่อพ้นตำแหน่ง ทั้งนี้ การคำนวณบำเหน็จตอบแทนนั้น ให้นำอัตราค่าตอบแทนที่เป็นรายเดือนคูณด้วยระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งและสิทธิในบำเหน็จตอบแทนนั้นเป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนไม่ได้ (ร่างมาตรา 9)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มิถุนายน 2551--จบ--