คณะรัฐมนตรีเห็นชอบนโยบายการขอคืนที่ดินราชพัสดุเพื่อนำมาให้เกษตรกรเช่าทำการเกษตร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. ให้กระทรวงต่าง ๆ และส่วนราชการสำรวจและส่งคืนที่ราชพัสดุที่ครอบครองไว้เกินความจำเป็นและหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์และสามารถทำเกษตรกรรมได้ ให้ได้โดยประมาณไม่ต่ำกว่า 1 ล้านไร่ ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนที่ดินราชพัสดุ
2. เมื่อได้รับคืนที่ราชพัสดุจากส่วนราชการ/หน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ไปตกลงร่วมกันในการกำหนดแนวทางดำเนินการเพื่อให้มีการนำที่ดินดังกล่าวไปใช้ในพื้นที่เกษตรกรรมได้อย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรม เช่น กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการ กำหนดจำนวนพื้นที่ที่จะจัดให้เกษตรกรแต่ละครอบครัวเช่า กำหนดจำนวนพื้นที่ที่จะเพาะปลูกพืชไร่และพืชทดแทนพลังงานให้สมดุลและเหมาะสม สนับสนุนต้นกล้าสำหรับพืชไร่และพืชทดแทนพลังงานที่มีสายพันธุ์ดี เพื่อเพิ่ม ผลผลิต สนับสนุนและดูแลการจัดให้มีการพัฒนาดินและแหล่งน้ำให้เหมาะสมแก่การเกษตรแต่ละประเภท
กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. ที่ดินราชพัสดุที่กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์บริหารจัดการทั่วประเทศมีเนื้อที่ประมาณ 12.5 ล้านไร่ แยกเป็น
1.1 ที่ดินที่ใช้ประโยชน์ในราชการเนื้อที่ประมาณ 12.337 ล้านไร่ หรือประมาณร้อยละ 98.70 ดังนี้
การใช้ประโยชน์ เนื้อที่ประมาณ (ล้านไร่)
เพื่อเป็นที่ทำการ/สำนักงาน 3.554
เพื่อการศึกษา 0.566
เพื่อสังคมและสาธารณะ 0.357
เพื่อการสาธารณกุศล 0.048
เพื่อการคมนาคม 0.106
เพื่อใช้ราชการทหาร 3.962
เพื่อการอื่น ๆ เช่น บ้านพัก 0.692
เพื่อความลับเกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงของประเทศ 3.052
(ยังไม่นำส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ)
1.2 ที่ดินที่เหลือประมาณ 0.163 ล้านไร่ หรือประมาณร้อยละ 1.30 เป็นที่ดินเพื่อใช้จัดหาประโยชน์ในเชิงสังคมและพาณิชยกรรม ดังนี้
การใช้ประโยชน์ เนื้อที่ประมาณ (ล้านไร่)
เพื่ออยู่อาศัย 0.036
เพื่อการเกษตร 0.057
เพื่อเชิงพาณิชยกรรมและอื่น ๆ 0.07
1.3 ที่ดินราชพัสดุจำนวน 12.5 ล้านไร่ อยู่ในความครอบครองรวม 24 หน่วยงาน โดยมีส่วนราชการ/หน่วยงานที่ครอบครองเนื้อที่ตามลำดับ ดังนี้
ส่วนราชการ/หน่วยงาน เนื้อที่ (ล้านไร่) ร้อยละ
กระทรวงกลาโหม 7.014 56
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1.748 14
กระทรวงศึกษาธิการ 0.63 5
กระทรวงการคลัง 0.394 3
รัฐวิสาหกิจ 0.334 3
ส่วนราชการอื่น ๆ รวม 19 หน่วยงาน 2.38 19
1.4 ที่ตั้งที่ราชพัสดุอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ตามลำดับจำนวนพื้นที่ ดังนี้ (ไม่รวมที่ดินทหารที่ใช้ในราชการเพื่อความลับและความมั่นคง เนื้อที่ 3.052 ล้านไร่)
จังหวัด เนื้อที่ (ล้านไร่)
กาญจนบุรี 3.474
สุราษฎร์ธานี 1.032
ราชบุรี 0.534
นครราชสีมา 0.498
กาฬสินธุ์ 0.306
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด 3.604
2. ในปีงบประมาณ 2549 กระทรวงการคลังมีนโยบายขอคืนที่ราชพัสดุจากส่วนราชการและ หน่วยงานให้ได้ ประมาณ 800,000-1,000,000 ไร่ และได้ให้กรมธนารักษ์สำรวจที่ดินราชพัสดุเพื่อเจรจากับส่วนราชการเพื่อส่งคืน ผลการสำรวจที่ดินทั่วประเทศ ดังนี้
2.1 ที่ดินว่างทั้งแปลง หรือเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์ไม่เหมาะสมหรือเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์ ไม่เต็มพื้นที่ จำนวน 3,199 แปลง รวมเนื้อที่ 295,258 ไร่เศษ
2.2 ที่ดินแปลงใหญ่ที่ใช้เพื่อเกษตรกรรมที่มีราษฎรถือครองอยู่เนื้อที่ประมาณ 584,062 ไร่เศษรวมที่ดินที่ทำการสำรวจเพื่อขอคืนทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 879,320 ไร่
3. ในปีงบประมาณ 2550-2551 กระทรวงการคลังได้จัดประชุมเจรจาขอคืนที่ดินจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงกลาโหม ได้รับคืนที่ดินราชพัสดุจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม และส่วนราชการ/หน่วยงานอื่น ๆ จำนวน 503 แปลง เนื้อที่ 266,539 ไร่เศษ หรือคิดเป็นร้อยละ 30.31 ของที่ดินที่ทำการสำรวจ
4. การดำเนินการของกระทรวงการคลัง หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2551 มีดังนี้
4.1 การจัดหาพื้นที่รองรับโครงการตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการคลังนำที่ดินราชพัสดุที่ส่วนราชการ/หน่วยงานครอบครองเกินความจำเป็นและหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยมีการประมาณการเบื้องต้นไว้เนื้อที่ประมาณ 1 ล้านไร่ มาเพื่อให้เกษตรกรเช่าทำการเกษตรนั้น กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินเบื้องต้นและคัดเลือกที่ดินแปลงที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 1,000 ไร่ขึ้นไปพบว่า มีที่ดินในความครอบครองของส่วนราชการ/หน่วยงานที่จะนำมารองรับโครงการแยกตามหน่วยงานได้ ดังนี้
ลำดับที่ ส่วนราชการ จำนวน เนื้อที่ใช้ประโยชน์
แปลง ไร่ งาน วา
1 กระทรวงกลาโหม 119 4 ,275,518 1 48.48
2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ 2 21,501 1 20
มั่นคงของมนุษย์
3 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 57 695,101 0 0.48
4 กระทรวงคมนาคม 10 18,962 3 13.56
5 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ 1 1,328 2 71
การสื่อสาร
6 กระทรวงมหาดไทย 4 6,821 1 31.4
7 กระทรวงยุติธรรม 7 29,202 1 19.4
8 กระทรวงวัฒนธรรม 2 41,500 0 0
9 กระทรวงศึกษาธิการ 30 71,913 2 92.53
10 กระทรวงสาธารณสุข 4 24,154 1 0.6
11 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 7 13,441 3 81.3
12 สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) 1 3,290 0 6
รวม 244 5,202,735 2 84.75
4.2 กระทรวงการคลังได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง ๆ และส่วนราชการที่ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเป็นจำนวนมากตามข้อมูลในข้อ 1 เพื่อขอให้ส่งคืนที่ราชพัสดุที่ครอบครองไว้เกินความจำเป็นหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์และสามารถทำเกษตรกรรมได้ให้กรมธนารักษ์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ได้รับหนังสือหรือวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มิถุนายน 2551--จบ--
1. ให้กระทรวงต่าง ๆ และส่วนราชการสำรวจและส่งคืนที่ราชพัสดุที่ครอบครองไว้เกินความจำเป็นและหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์และสามารถทำเกษตรกรรมได้ ให้ได้โดยประมาณไม่ต่ำกว่า 1 ล้านไร่ ภายใน 3 เดือน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ส่งคืนที่ดินราชพัสดุ
2. เมื่อได้รับคืนที่ราชพัสดุจากส่วนราชการ/หน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน และกระทรวงอุตสาหกรรม ไปตกลงร่วมกันในการกำหนดแนวทางดำเนินการเพื่อให้มีการนำที่ดินดังกล่าวไปใช้ในพื้นที่เกษตรกรรมได้อย่างเหมาะสมและเป็นรูปธรรม เช่น กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการ กำหนดจำนวนพื้นที่ที่จะจัดให้เกษตรกรแต่ละครอบครัวเช่า กำหนดจำนวนพื้นที่ที่จะเพาะปลูกพืชไร่และพืชทดแทนพลังงานให้สมดุลและเหมาะสม สนับสนุนต้นกล้าสำหรับพืชไร่และพืชทดแทนพลังงานที่มีสายพันธุ์ดี เพื่อเพิ่ม ผลผลิต สนับสนุนและดูแลการจัดให้มีการพัฒนาดินและแหล่งน้ำให้เหมาะสมแก่การเกษตรแต่ละประเภท
กระทรวงการคลังรายงานว่า
1. ที่ดินราชพัสดุที่กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์บริหารจัดการทั่วประเทศมีเนื้อที่ประมาณ 12.5 ล้านไร่ แยกเป็น
1.1 ที่ดินที่ใช้ประโยชน์ในราชการเนื้อที่ประมาณ 12.337 ล้านไร่ หรือประมาณร้อยละ 98.70 ดังนี้
การใช้ประโยชน์ เนื้อที่ประมาณ (ล้านไร่)
เพื่อเป็นที่ทำการ/สำนักงาน 3.554
เพื่อการศึกษา 0.566
เพื่อสังคมและสาธารณะ 0.357
เพื่อการสาธารณกุศล 0.048
เพื่อการคมนาคม 0.106
เพื่อใช้ราชการทหาร 3.962
เพื่อการอื่น ๆ เช่น บ้านพัก 0.692
เพื่อความลับเกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงของประเทศ 3.052
(ยังไม่นำส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ)
1.2 ที่ดินที่เหลือประมาณ 0.163 ล้านไร่ หรือประมาณร้อยละ 1.30 เป็นที่ดินเพื่อใช้จัดหาประโยชน์ในเชิงสังคมและพาณิชยกรรม ดังนี้
การใช้ประโยชน์ เนื้อที่ประมาณ (ล้านไร่)
เพื่ออยู่อาศัย 0.036
เพื่อการเกษตร 0.057
เพื่อเชิงพาณิชยกรรมและอื่น ๆ 0.07
1.3 ที่ดินราชพัสดุจำนวน 12.5 ล้านไร่ อยู่ในความครอบครองรวม 24 หน่วยงาน โดยมีส่วนราชการ/หน่วยงานที่ครอบครองเนื้อที่ตามลำดับ ดังนี้
ส่วนราชการ/หน่วยงาน เนื้อที่ (ล้านไร่) ร้อยละ
กระทรวงกลาโหม 7.014 56
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1.748 14
กระทรวงศึกษาธิการ 0.63 5
กระทรวงการคลัง 0.394 3
รัฐวิสาหกิจ 0.334 3
ส่วนราชการอื่น ๆ รวม 19 หน่วยงาน 2.38 19
1.4 ที่ตั้งที่ราชพัสดุอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ ตามลำดับจำนวนพื้นที่ ดังนี้ (ไม่รวมที่ดินทหารที่ใช้ในราชการเพื่อความลับและความมั่นคง เนื้อที่ 3.052 ล้านไร่)
จังหวัด เนื้อที่ (ล้านไร่)
กาญจนบุรี 3.474
สุราษฎร์ธานี 1.032
ราชบุรี 0.534
นครราชสีมา 0.498
กาฬสินธุ์ 0.306
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด 3.604
2. ในปีงบประมาณ 2549 กระทรวงการคลังมีนโยบายขอคืนที่ราชพัสดุจากส่วนราชการและ หน่วยงานให้ได้ ประมาณ 800,000-1,000,000 ไร่ และได้ให้กรมธนารักษ์สำรวจที่ดินราชพัสดุเพื่อเจรจากับส่วนราชการเพื่อส่งคืน ผลการสำรวจที่ดินทั่วประเทศ ดังนี้
2.1 ที่ดินว่างทั้งแปลง หรือเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์ไม่เหมาะสมหรือเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์ ไม่เต็มพื้นที่ จำนวน 3,199 แปลง รวมเนื้อที่ 295,258 ไร่เศษ
2.2 ที่ดินแปลงใหญ่ที่ใช้เพื่อเกษตรกรรมที่มีราษฎรถือครองอยู่เนื้อที่ประมาณ 584,062 ไร่เศษรวมที่ดินที่ทำการสำรวจเพื่อขอคืนทั้งสิ้นจำนวนประมาณ 879,320 ไร่
3. ในปีงบประมาณ 2550-2551 กระทรวงการคลังได้จัดประชุมเจรจาขอคืนที่ดินจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงกลาโหม ได้รับคืนที่ดินราชพัสดุจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม และส่วนราชการ/หน่วยงานอื่น ๆ จำนวน 503 แปลง เนื้อที่ 266,539 ไร่เศษ หรือคิดเป็นร้อยละ 30.31 ของที่ดินที่ทำการสำรวจ
4. การดำเนินการของกระทรวงการคลัง หลังจากคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2551 มีดังนี้
4.1 การจัดหาพื้นที่รองรับโครงการตามที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงการคลังนำที่ดินราชพัสดุที่ส่วนราชการ/หน่วยงานครอบครองเกินความจำเป็นและหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์ โดยมีการประมาณการเบื้องต้นไว้เนื้อที่ประมาณ 1 ล้านไร่ มาเพื่อให้เกษตรกรเช่าทำการเกษตรนั้น กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้กรมธนารักษ์ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินเบื้องต้นและคัดเลือกที่ดินแปลงที่มีเนื้อที่ตั้งแต่ 1,000 ไร่ขึ้นไปพบว่า มีที่ดินในความครอบครองของส่วนราชการ/หน่วยงานที่จะนำมารองรับโครงการแยกตามหน่วยงานได้ ดังนี้
ลำดับที่ ส่วนราชการ จำนวน เนื้อที่ใช้ประโยชน์
แปลง ไร่ งาน วา
1 กระทรวงกลาโหม 119 4 ,275,518 1 48.48
2 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ 2 21,501 1 20
มั่นคงของมนุษย์
3 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 57 695,101 0 0.48
4 กระทรวงคมนาคม 10 18,962 3 13.56
5 กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและ 1 1,328 2 71
การสื่อสาร
6 กระทรวงมหาดไทย 4 6,821 1 31.4
7 กระทรวงยุติธรรม 7 29,202 1 19.4
8 กระทรวงวัฒนธรรม 2 41,500 0 0
9 กระทรวงศึกษาธิการ 30 71,913 2 92.53
10 กระทรวงสาธารณสุข 4 24,154 1 0.6
11 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 7 13,441 3 81.3
12 สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) 1 3,290 0 6
รวม 244 5,202,735 2 84.75
4.2 กระทรวงการคลังได้มีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่าง ๆ และส่วนราชการที่ครอบครองใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเป็นจำนวนมากตามข้อมูลในข้อ 1 เพื่อขอให้ส่งคืนที่ราชพัสดุที่ครอบครองไว้เกินความจำเป็นหรือไม่ได้ใช้ประโยชน์และสามารถทำเกษตรกรรมได้ให้กรมธนารักษ์ภายใน 3 เดือนนับแต่วันที่ได้รับหนังสือหรือวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มิถุนายน 2551--จบ--