คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยประสานการปฏิบัติงานกับจังหวัดที่มีสภาวะฝนตกหนัก และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสรุปการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน (ข้อมูลถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2551) ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ระว่างวันที่ 10 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2551)
1.1 สาเหตุการเกิด เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่าน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมทะเลอันดามัน บริเวณอ่าวไทย และประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในบางจังหวัด ประชาชนประสบความเดือดร้อน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
1.2 พื้นที่ประสบภัย รวม 8 จังหวัด 32 อำเภอ 156 ตำบล 518 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา
1.3 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 143,172 คน 28,208 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 195 หลัง ถนน 458 สาย สะพาน 19 แห่ง ฝาย 9 แห่ง ท่อระบายน้ำ 83 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ทำนบกั้นน้ำ 14 แห่ง บ่อปลา 120 บ่อ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 301,033 ไร่
1.4 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 172,610,732 บาท
1.5 สถานการณ์ภัยปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยทุกพื้นที่ ได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
อนึ่ง ระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน 2551 ได้เกิดฝนตกหนักที่อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณฝนวัดได้ที่ 92.5 มม. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรที่บ้านห้วยยศ หมู่ที่ 4 ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก ทำให้ทางระบายน้ำล้น ของอ่างเก็บน้ำห้วยยศชำรุดสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหาย ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2551 แล้ว
1.6 การให้ความช่วยเหลือของจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วย เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
2) กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย ตามจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง
2. การตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2551 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายสิทธิชัย โควสุรัตน์) ได้เดินทางไปตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ณ เขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหว จากผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้อำนวยการเขื่อนครีนครินทร์ จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสาธารณภัยรวมทั้งตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนศรีนครินทร์
3. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 5 — 11 มิถุนายน 2551
3.1 คณะทำงานติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ปี 2551 ของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำฯ ตามแนวพระราชดำริ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2551 ณ ห้องประชุมศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายจริย์ ตุลยานนท์ ที่ปรึกษาสำนักงาน กปร. ผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ซึ่งที่ประชุมได้วิเคราะห์สถานการณ์น้ำในช่วงระหว่างวันที่ 3 - 6 มิถุนายน 2551 ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร นครพนม และกาฬสินธุ์ จะมีฝนตกหนัก เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าว ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
3.2 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศในช่วงระหว่างวันที่ 5 - 11 มิถุนายน 2551 ว่าร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนบนยังมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง และในช่วงวันที่ 8-11 มิถุนายน 2551 ร่องความกดอากาศต่ำจะมีกำลังอ่อนลง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลงทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนลดน้อยลง
3.3 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มิถุนายน 2551--จบ--
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัย (ระว่างวันที่ 10 พฤษภาคม - 6 มิถุนายน 2551)
1.1 สาเหตุการเกิด เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่าน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกของประเทศไทย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามาปกคลุมทะเลอันดามัน บริเวณอ่าวไทย และประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมในบางจังหวัด ประชาชนประสบความเดือดร้อน และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
1.2 พื้นที่ประสบภัย รวม 8 จังหวัด 32 อำเภอ 156 ตำบล 518 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา
1.3 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 143,172 คน 28,208 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 195 หลัง ถนน 458 สาย สะพาน 19 แห่ง ฝาย 9 แห่ง ท่อระบายน้ำ 83 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ทำนบกั้นน้ำ 14 แห่ง บ่อปลา 120 บ่อ พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 301,033 ไร่
1.4 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 172,610,732 บาท
1.5 สถานการณ์ภัยปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยทุกพื้นที่ ได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
อนึ่ง ระหว่างวันที่ 3-4 มิถุนายน 2551 ได้เกิดฝนตกหนักที่อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ ปริมาณฝนวัดได้ที่ 92.5 มม. ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่การเกษตรที่บ้านห้วยยศ หมู่ที่ 4 ตำบลม่วงเจ็ดต้น อำเภอบ้านโคก ทำให้ทางระบายน้ำล้น ของอ่างเก็บน้ำห้วยยศชำรุดสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหาย ซึ่งสถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2551 แล้ว
1.6 การให้ความช่วยเหลือของจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วย เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
2) กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัย ตามจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 4 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง
2. การตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2551 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายสิทธิชัย โควสุรัตน์) ได้เดินทางไปตรวจติดตามการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ณ เขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขผลกระทบจากสถานการณ์แผ่นดินไหว จากผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้อำนวยการเขื่อนครีนครินทร์ จากนั้นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยได้มอบนโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านสาธารณภัยรวมทั้งตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนศรีนครินทร์
3. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 5 — 11 มิถุนายน 2551
3.1 คณะทำงานติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ปี 2551 ของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำฯ ตามแนวพระราชดำริ ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2551 ณ ห้องประชุมศูนย์ประสานและติดตามสถานการณ์น้ำ กรมชลประทาน โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย นายจริย์ ตุลยานนท์ ที่ปรึกษาสำนักงาน กปร. ผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร ซึ่งที่ประชุมได้วิเคราะห์สถานการณ์น้ำในช่วงระหว่างวันที่ 3 - 6 มิถุนายน 2551 ว่า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน บริเวณจังหวัดหนองคาย สกลนคร นครพนม และกาฬสินธุ์ จะมีฝนตกหนัก เนื่องจากร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยของจังหวัดดังกล่าว ระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
3.2 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศในช่วงระหว่างวันที่ 5 - 11 มิถุนายน 2551 ว่าร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนบนยังมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง และในช่วงวันที่ 8-11 มิถุนายน 2551 ร่องความกดอากาศต่ำจะมีกำลังอ่อนลง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมประเทศไทยจะมีกำลังอ่อนลงทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนลดน้อยลง
3.3 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม จากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อม เพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มิถุนายน 2551--จบ--