คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงพลังงานเสนอให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE รวม 4 ประเภท ในวงเงินรวม 9,000 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 ภายใต้เงื่อนไขเดิม ประกอบด้วย กู้เบิกเงินเกินบัญชี ตั๋วสัญญาใช้เงิน การทำ TRUST RECEIPT (T/R) และการทำสัญญากู้เงินเมื่อทวงถาม (CALL LOAN) กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ/หรือธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ โดยจะพิจารณาทำสัญญากู้เงินตามที่ธนาคารแต่ละแห่งเสนอในรูปแบบที่มีต้นทุนที่ต่ำสุดตามอัตราดอกเบี้ยตลาด ยกเว้นการกู้เบิกเงินเกินบัญชีที่ต้องทำสัญญากู้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพียงแห่งเดียว โดยกระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงินดังกล่าว
กระทรวงพลังงานรายงานว่า
1. กฟผ. ได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ กฟผ. 921101/23126 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 เสนอเรื่อง การขอต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE จำนวน 9,000 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 ให้กระทรวงพลังงานพิจารณาให้ความเห็นชอบและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 43 (4) ที่กำหนดให้ กฟผ. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการกู้ยืมเงินเกิน 40 ล้านบาท
2. กฟผ. ขอต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นเนื่องจากเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE จะหมดอายุในวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 แต่ กฟผ. ยังมีความจำเป็นจะต้องใช้วงเงินกู้จำนวนดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องและช่วยให้การบริหารสภาพคล่องมีประสิทธิภาพ สำหรับเงินทุนหมุนเวียนของ กฟผ. ที่สูงมาก กล่าวคือ ในปี 2551 กฟผ. จะมีต้นทุนในการขายประมาณ 335,671.223 ล้านบาท นอกจากนี้ ช่วงเวลาการรับเงินค่ากระแสไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายของต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกันบางรายการเป็นจำนวนเงินที่ กฟผ. ต้องจ่ายจำนวนสูงมาก ไม่สัมพันธ์กัน โดย กฟผ. ต้องจ่ายค่าก๊าซที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ทุกวันที่ 30 ของทุกเดือน ในขณะที่รายรับค่าขายกระแสไฟฟ้า กฟผ. จะได้รับในต้นเดือนถัดไป ดังนั้น การมีวงเงินกู้ระยะสั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อใช้รองรับปัญหาการขาดสภาพคล่องและเป็นการบริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ
กระทรวงพลังงานพิจารณาแล้วเห็นควรให้ กฟผ. ต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE ตามที่เสนอ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 มิถุนายน 2551--จบ--
กระทรวงพลังงานรายงานว่า
1. กฟผ. ได้มีหนังสือด่วนมาก ที่ กฟผ. 921101/23126 ลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2551 เสนอเรื่อง การขอต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE จำนวน 9,000 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2552 ให้กระทรวงพลังงานพิจารณาให้ความเห็นชอบและนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 43 (4) ที่กำหนดให้ กฟผ. ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนดำเนินการกู้ยืมเงินเกิน 40 ล้านบาท
2. กฟผ. ขอต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นเนื่องจากเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE จะหมดอายุในวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 แต่ กฟผ. ยังมีความจำเป็นจะต้องใช้วงเงินกู้จำนวนดังกล่าวเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องและช่วยให้การบริหารสภาพคล่องมีประสิทธิภาพ สำหรับเงินทุนหมุนเวียนของ กฟผ. ที่สูงมาก กล่าวคือ ในปี 2551 กฟผ. จะมีต้นทุนในการขายประมาณ 335,671.223 ล้านบาท นอกจากนี้ ช่วงเวลาการรับเงินค่ากระแสไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายของต้นทุนการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกันบางรายการเป็นจำนวนเงินที่ กฟผ. ต้องจ่ายจำนวนสูงมาก ไม่สัมพันธ์กัน โดย กฟผ. ต้องจ่ายค่าก๊าซที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ทุกวันที่ 30 ของทุกเดือน ในขณะที่รายรับค่าขายกระแสไฟฟ้า กฟผ. จะได้รับในต้นเดือนถัดไป ดังนั้น การมีวงเงินกู้ระยะสั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อใช้รองรับปัญหาการขาดสภาพคล่องและเป็นการบริหารเงินให้มีประสิทธิภาพ
กระทรวงพลังงานพิจารณาแล้วเห็นควรให้ กฟผ. ต่ออายุสัญญาเงินกู้ระยะสั้นแบบ CREDIT LINE ตามที่เสนอ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 17 มิถุนายน 2551--จบ--