คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่องการจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ และพิธีสาร ค.ศ.2002 และเตรียมการเปิดโรงเรียนพระราชทานฯ อย่างเป็นทางการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. อนุมัติการลงนามในพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการโรงเรียนพระราชทานในราชอาณาจักรกัมพูชา โดยให้สมุหราชองครักษ์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนในการลงนามในพิธีสารแก้ไขฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับร่างพิธีสารแก้ไข ฯ ที่มิใช่สาระสำคัญ ขอให้กรมราชองครักษ์หารือ กระทรวงการต่างประเทศแล้วดำเนินการต่อไปได้
2. อนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการระดับกระทรวงในการเตรียมการสำหรับพิธีเปิดโรงเรียนพระราชทานฯ อย่างเป็นทางการ
เกี่ยวกับเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงว่า เดิมกรมราชองครักษ์กับกระทรวงศึกษาธิการเยาวชนและการกีฬาของกัมพูชาได้จัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดตั้งโรงเรียนปราสาทซ็อมโบร์ จังหวัดกำปงธม ราชอาณาจักรกัมพูชาลงนามเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2544 และต่อมา ได้มีการจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ ดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2545 ใน 3 ประเด็น คือ 1. เปลี่ยนชื่อโรงเรียนปราสาทซ็อมโปร์ เป็น “วิทยาลัยกำปงเชอเตียล” 2. ให้มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการของทั้ง 2 ฝ่าย และ 3. ขยายอายุความตกลงโครงการฯ ออกไปอีกเป็น 4 ปี (มีผลทำให้ความตกลงโครงการฯ จะหมดอายุลงในวันที่ 13 สิงหาคม 2548)
ดังนั้นก่อนที่ความตกลงโครงการฯ จะหมดอายุลงในวันที่ 13 สิงหาคม 2548 ฝ่ายไทย โดยคณะกรรมการดำเนินการฯ และคณะกรรมการฝ่ายกัมพูชา จึงเห็นชอบร่วมกันที่จะต้องจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ และแก้ไขพิธีสาร ค.ศ.2002 อีกครั้งหนึ่ง โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้การก่อสร้างโรงเรียนและพื้นที่โดยรอบเป็นไปตามแบบของฝ่ายกัมพูชา
2. เมื่อการก่อสร้างโรงเรียนเสร็จสิ้นแล้ว คณะกรรมการดำเนินการฯ จะได้ขอพระราชทานความช่วยเหลือในการพัฒนาโรงเรียนด้านการศึกษาต่อไป
3. ให้พิธีสารแก้ไขฉบับนี้มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010)
ทั้งนี้ คณะกรรมการดำเนินการโครงการโรงเรียนพระราชทานในราชอาณาจักรกัมพูชา กรมราชองครักษ์ได้เข้าหารือกับรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2548 เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ และพิธีสาร ค.ศ.2002 และเตรียมการเปิดโรงเรียนพระราชทานฯ อย่างเป็นทางการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 กรกฎาคม 2548--จบ--
1. อนุมัติการลงนามในพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการโรงเรียนพระราชทานในราชอาณาจักรกัมพูชา โดยให้สมุหราชองครักษ์ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนในการลงนามในพิธีสารแก้ไขฯ ทั้งนี้ หากมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใด ๆ เกี่ยวกับร่างพิธีสารแก้ไข ฯ ที่มิใช่สาระสำคัญ ขอให้กรมราชองครักษ์หารือ กระทรวงการต่างประเทศแล้วดำเนินการต่อไปได้
2. อนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการระดับกระทรวงในการเตรียมการสำหรับพิธีเปิดโรงเรียนพระราชทานฯ อย่างเป็นทางการ
เกี่ยวกับเรื่องนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงว่า เดิมกรมราชองครักษ์กับกระทรวงศึกษาธิการเยาวชนและการกีฬาของกัมพูชาได้จัดทำความตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการจัดตั้งโรงเรียนปราสาทซ็อมโบร์ จังหวัดกำปงธม ราชอาณาจักรกัมพูชาลงนามเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2544 และต่อมา ได้มีการจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ ดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2545 ใน 3 ประเด็น คือ 1. เปลี่ยนชื่อโรงเรียนปราสาทซ็อมโปร์ เป็น “วิทยาลัยกำปงเชอเตียล” 2. ให้มีการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการของทั้ง 2 ฝ่าย และ 3. ขยายอายุความตกลงโครงการฯ ออกไปอีกเป็น 4 ปี (มีผลทำให้ความตกลงโครงการฯ จะหมดอายุลงในวันที่ 13 สิงหาคม 2548)
ดังนั้นก่อนที่ความตกลงโครงการฯ จะหมดอายุลงในวันที่ 13 สิงหาคม 2548 ฝ่ายไทย โดยคณะกรรมการดำเนินการฯ และคณะกรรมการฝ่ายกัมพูชา จึงเห็นชอบร่วมกันที่จะต้องจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ และแก้ไขพิธีสาร ค.ศ.2002 อีกครั้งหนึ่ง โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1. ให้การก่อสร้างโรงเรียนและพื้นที่โดยรอบเป็นไปตามแบบของฝ่ายกัมพูชา
2. เมื่อการก่อสร้างโรงเรียนเสร็จสิ้นแล้ว คณะกรรมการดำเนินการฯ จะได้ขอพระราชทานความช่วยเหลือในการพัฒนาโรงเรียนด้านการศึกษาต่อไป
3. ให้พิธีสารแก้ไขฉบับนี้มีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2553 (ค.ศ.2010)
ทั้งนี้ คณะกรรมการดำเนินการโครงการโรงเรียนพระราชทานในราชอาณาจักรกัมพูชา กรมราชองครักษ์ได้เข้าหารือกับรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2548 เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดทำพิธีสารแก้ไขความตกลงโครงการฯ และพิธีสาร ค.ศ.2002 และเตรียมการเปิดโรงเรียนพระราชทานฯ อย่างเป็นทางการ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 26 กรกฎาคม 2548--จบ--