คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานได้ให้การช่วยเหลือประชาชนโดยใช้น้ำมันราคาถูกจากโรงกลั่นในบางสาขาอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. การจัดหาน้ำมัน กระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือจาก 4 โรงกลั่นในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้แก่ โรงกลั่นน้ำมันพีทีทีเออาร์ โรงกลั่นไออาร์พีซี โรงกลั่นไทยออยส์ และโรงกลั่นบางจาก ซึ่งได้ร่วมกันจัดสรรน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในปริมาณ 122 ล้านลิตรต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน (มิถุนายน — พฤศจิกายน 2551) รวม 732 ล้านลิตร ในราคาที่ต่ำกว่าราคาดีเซลหมุนเร็วปกติ 3 บาท ต่อลิตร รวมเป็นมูลค่า 2,196 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากได้รับรายงานจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ว่าส่วนต่างของราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วสำเร็จรูปกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (ค่าการกลั่น) สูงขึ้นกว่าระดับปกติ เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มประชาชนหรือสาขาอาชีพที่มีรายได้ต่ำและได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เป็นผู้พิจารณาจัดสรรให้การช่วยเหลือกลุ่มประชาชนหรือสาขาอาชีพที่มีรายได้ต่ำและได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประมง กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มผู้ใช้รถโดยสารประจำทาง เป็นต้น โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ประสานงานกับโรงกลั่นทั้ง 4 แห่งในการจัดหาน้ำมันดังกล่าว
2. กระทรวงคมนาคม ได้ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานพิจารณาช่วยเหลือลดราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วให้กับรถหมวด 1 (รถโดยสารในเมือง เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมบริการ) และหมวด 4 (รถโดยสารในเขตจังหวัด (ชานเมือง)) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 14,636 คัน ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วประมาณ 1 ล้านลิตรต่อวัน โดยผ่านจุดจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการหยุดเดินรถประท้วง อันเนื่องมาจากศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งทุเลาปรับค่าโดยสารชั่วคราว ซึ่งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม โดยให้ความช่วยเหลือลดราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วซึ่งมีราคาถูกกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตร ให้กับรถหมวด 1 และหมวด 4 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วประมาณ 1 ล้านลิตรต่อวันเป็นระยะเวลา 6 เดือนโดยผ่านจุดจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการ ขสมก. ทั้งนี้จนกว่าจะได้ข้อยุติของศาลปกครองในกรณีการขอปรับขึ้นค่าโดยสาร หรือจนกว่าน้ำมันที่ได้รับการจัดสรรประมาณ 180 ล้านลิตรหมดลง แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้พิจารณาช่วยเหลือสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย (รถบรรทุก) และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพง ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานตามขั้นตอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. แนวทางการช่วยเหลือในอนาคต คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้มีมติกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือกลุ่มต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง โดยพิจารณาการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
3.1 ให้กลุ่มผู้เดือดร้อนทำหนังสือร้องขอความช่วยเหลือผ่านกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากลั่นกรองและเสนอความเห็นต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานพิจารณาต่อไป
3.2 ผู้ที่สมควรได้รับความช่วยเหลือ ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการที่ถูกรัฐบาลควบคุมรายได้จนไม่สามารถปรับราคาได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันแพงได้ และกลุ่มที่มีรายได้ต่ำและได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
3.3 ต้องแสดงวิธีการจัดสรรน้ำมันให้ชัดเจนว่าน้ำมันราคาถูกจะต้องส่งผ่านไปถึงผู้เดือดร้อนจริงไม่รั่วไหลไปทางอื่น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มิถุนายน 2551--จบ--
1. การจัดหาน้ำมัน กระทรวงพลังงานได้ขอความร่วมมือจาก 4 โรงกลั่นในเครือบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้แก่ โรงกลั่นน้ำมันพีทีทีเออาร์ โรงกลั่นไออาร์พีซี โรงกลั่นไทยออยส์ และโรงกลั่นบางจาก ซึ่งได้ร่วมกันจัดสรรน้ำมันดีเซลหมุนเร็วในปริมาณ 122 ล้านลิตรต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน (มิถุนายน — พฤศจิกายน 2551) รวม 732 ล้านลิตร ในราคาที่ต่ำกว่าราคาดีเซลหมุนเร็วปกติ 3 บาท ต่อลิตร รวมเป็นมูลค่า 2,196 ล้านบาท ทั้งนี้เนื่องจากได้รับรายงานจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ว่าส่วนต่างของราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วสำเร็จรูปกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (ค่าการกลั่น) สูงขึ้นกว่าระดับปกติ เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มประชาชนหรือสาขาอาชีพที่มีรายได้ต่ำและได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยมอบให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธาน เป็นผู้พิจารณาจัดสรรให้การช่วยเหลือกลุ่มประชาชนหรือสาขาอาชีพที่มีรายได้ต่ำและได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประมง กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มผู้ใช้รถโดยสารประจำทาง เป็นต้น โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ประสานงานกับโรงกลั่นทั้ง 4 แห่งในการจัดหาน้ำมันดังกล่าว
2. กระทรวงคมนาคม ได้ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานพิจารณาช่วยเหลือลดราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วให้กับรถหมวด 1 (รถโดยสารในเมือง เช่น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมบริการ) และหมวด 4 (รถโดยสารในเขตจังหวัด (ชานเมือง)) ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 14,636 คัน ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วประมาณ 1 ล้านลิตรต่อวัน โดยผ่านจุดจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการหยุดเดินรถประท้วง อันเนื่องมาจากศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งทุเลาปรับค่าโดยสารชั่วคราว ซึ่งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้ให้ความเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงคมนาคม โดยให้ความช่วยเหลือลดราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็วซึ่งมีราคาถูกกว่าปกติ 3 บาทต่อลิตร ให้กับรถหมวด 1 และหมวด 4 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งมีปริมาณการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วประมาณ 1 ล้านลิตรต่อวันเป็นระยะเวลา 6 เดือนโดยผ่านจุดจำหน่ายน้ำมันของสถานีบริการ ขสมก. ทั้งนี้จนกว่าจะได้ข้อยุติของศาลปกครองในกรณีการขอปรับขึ้นค่าโดยสาร หรือจนกว่าน้ำมันที่ได้รับการจัดสรรประมาณ 180 ล้านลิตรหมดลง แล้วแต่เหตุการณ์ใดจะเกิดขึ้นก่อน และคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้พิจารณาช่วยเหลือสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย (รถบรรทุก) และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากราคาน้ำมันแพง ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงานตามขั้นตอนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
3. แนวทางการช่วยเหลือในอนาคต คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานได้มีมติกำหนดแนวทางในการช่วยเหลือกลุ่มต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง โดยพิจารณาการให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
3.1 ให้กลุ่มผู้เดือดร้อนทำหนังสือร้องขอความช่วยเหลือผ่านกระทรวงที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณากลั่นกรองและเสนอความเห็นต่อกระทรวงพลังงาน เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานพิจารณาต่อไป
3.2 ผู้ที่สมควรได้รับความช่วยเหลือ ได้แก่ ผู้ประกอบกิจการที่ถูกรัฐบาลควบคุมรายได้จนไม่สามารถปรับราคาได้ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันแพงได้ และกลุ่มที่มีรายได้ต่ำและได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น
3.3 ต้องแสดงวิธีการจัดสรรน้ำมันให้ชัดเจนว่าน้ำมันราคาถูกจะต้องส่งผ่านไปถึงผู้เดือดร้อนจริงไม่รั่วไหลไปทางอื่น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 24 มิถุนายน 2551--จบ--