คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) รายงานสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดในเขตตรวจราชการที่ 1 ประกอบด้วยจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน พะเยา ลำปาง ลำพูน และแพร่ สรุปได้ดังนี้
1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีน้ำท่วมจำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และมีผู้เสียชีวิต 5 คน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการนำเครื่องจักรกลเข้าไปตักโคลนออกจากถนน และนำโคลนออกจากบ้านเรือนของราษฎร รวมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านการเงินโดยเร่งด่วนแก่ราษฎรอำเภอปายที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อนจากการเกิดอุทกภัยอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายภาคการเกษตรโดยเร่งด่วน เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว และให้จัดตั้งศูนย์อำนวยความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัด เพื่อสนธิกำลังทุก ๆ ภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะการระดมเครื่องจักรกลจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือ
2. จังหวัดเชียงใหม่ มีน้ำท่วมจำนวน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอพร้าว อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอชัยปราการ อำเภอแม่ริม อำเภอฝาง และอำเภอสารภี โดยรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ประสานเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์เครื่องจักรกลแก่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และให้เร่งรัดสำรวจความเสียหายทั้งภาคการเกษตรและ ภาคธุรกิจในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงจุดมากที่สุดและรวดเร็ว
3. จังหวัดเชียงราย มีน้ำท่วมจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพาน อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอเทิง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานและขอความร่วมมือองค์กรภาคเอกชนให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทางด้านเกษตรกรรม
4. จังหวัดน่าน มีน้ำท่วมจำนวน 5 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอเมืองน่าน และกิ่งอำเภอภูเพียง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดน่านพร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัด ปลัดจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด
จ่าจังหวัด หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน พัฒนาสังคมจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ตชด.324 นายอำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ศูนย์กู้ภัย อบจ. อส. และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) รวมทั้งสิ้น จำนวน 75 คน ออกตรวจเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งประสาน ส่วนราชการให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
5. จังหวัดพะเยา มีน้ำท่วมจำนวน 4 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอดอกคำใต้ อำเภอจุน อำเภอปง และ กิ่งอำเภอภูกาม จังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการสำรวจพื้นที่การเกษตรเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
6. จังหวัดลำปาง มีน้ำท่วมจำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอเมืองปาน โดยจังหวัด อำเภอ และ อบต. ได้นำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน และนำรถกู้ภัย เรือท้องแบน เข้าไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำรถกระเช้าและลวดสลิงมายึดเพื่อโยงเสาไฟฟ้ากับ คอสะพานกันเสาไฟฟ้าล้ม และนำรถฉีดน้ำล้างโคลน ทราย เพื่อทำความสะอาดถนน
7. จังหวัดลำพูน มีน้ำท่วมจำนวน 1 อำเภอ คือ อำเภอเมืองลำพูน ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยโดยด่วน รวมทั้งได้ออกตรวจสถานการณ์น้ำท่วมด้วย
8. จังหวัดแพร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมเพื่อให้ความช่วยเหลือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 สิงหาคม 2548--จบ--
1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีน้ำท่วมจำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปาย อำเภอปางมะผ้า อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และมีผู้เสียชีวิต 5 คน ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการนำเครื่องจักรกลเข้าไปตักโคลนออกจากถนน และนำโคลนออกจากบ้านเรือนของราษฎร รวมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านการเงินโดยเร่งด่วนแก่ราษฎรอำเภอปายที่บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนประสานงานกับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อนจากการเกิดอุทกภัยอย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้เร่งสำรวจพื้นที่ความเสียหายภาคการเกษตรโดยเร่งด่วน เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว และให้จัดตั้งศูนย์อำนวยความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินขึ้น ณ ศาลากลางจังหวัด เพื่อสนธิกำลังทุก ๆ ภาคส่วนในการให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะการระดมเครื่องจักรกลจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือ
2. จังหวัดเชียงใหม่ มีน้ำท่วมจำนวน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อำเภอพร้าว อำเภอแม่แตง อำเภอเชียงดาว อำเภอชัยปราการ อำเภอแม่ริม อำเภอฝาง และอำเภอสารภี โดยรองนายกรัฐมนตรี (นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ) ได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งรัดให้ความช่วยเหลือและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งให้ประสานเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านอุปกรณ์เครื่องจักรกลแก่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และให้เร่งรัดสำรวจความเสียหายทั้งภาคการเกษตรและ ภาคธุรกิจในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อให้สามารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงจุดมากที่สุดและรวดเร็ว
3. จังหวัดเชียงราย มีน้ำท่วมจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพาน อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอเทิง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานและขอความร่วมมือองค์กรภาคเอกชนให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายทางด้านเกษตรกรรม
4. จังหวัดน่าน มีน้ำท่วมจำนวน 5 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอท่าวังผา อำเภอปัว อำเภอเชียงกลาง อำเภอเมืองน่าน และกิ่งอำเภอภูเพียง ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดน่านพร้อมด้วยเหล่ากาชาดจังหวัด ปลัดจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด
จ่าจังหวัด หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน พัฒนาสังคมจังหวัด เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ตชด.324 นายอำเภอ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ศูนย์กู้ภัย อบจ. อส. และอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) รวมทั้งสิ้น จำนวน 75 คน ออกตรวจเยี่ยมและให้ความช่วยเหลือแจกข้าวกล่องและน้ำดื่มแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม พร้อมทั้งประสาน ส่วนราชการให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
5. จังหวัดพะเยา มีน้ำท่วมจำนวน 4 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพะเยา อำเภอดอกคำใต้ อำเภอจุน อำเภอปง และ กิ่งอำเภอภูกาม จังหวัดได้สั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการสำรวจพื้นที่การเกษตรเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว
6. จังหวัดลำปาง มีน้ำท่วมจำนวน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภอแจ้ห่ม และอำเภอเมืองปาน โดยจังหวัด อำเภอ และ อบต. ได้นำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อน และนำรถกู้ภัย เรือท้องแบน เข้าไปช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัย ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำรถกระเช้าและลวดสลิงมายึดเพื่อโยงเสาไฟฟ้ากับ คอสะพานกันเสาไฟฟ้าล้ม และนำรถฉีดน้ำล้างโคลน ทราย เพื่อทำความสะอาดถนน
7. จังหวัดลำพูน มีน้ำท่วมจำนวน 1 อำเภอ คือ อำเภอเมืองลำพูน ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้นำสิ่งของอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัยโดยด่วน รวมทั้งได้ออกตรวจสถานการณ์น้ำท่วมด้วย
8. จังหวัดแพร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สั่งการให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมเพื่อให้ความช่วยเหลือ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 16 สิงหาคม 2548--จบ--