แท็ก
มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี
กระทรวงพาณิชย์
ราคาข้าวเปลือก
กระทรวงการคลัง
นายกรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามผลการประชุมหารือร่วมกันระหว่างรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี) ผู้แทนภาคเอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวเปลือกเหนียวตกต่ำเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2551 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับจำนำข้าวเปลือกเหนียวจากโรงสีศิริภิญโญ โดยมีองค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้ออกใบประทวนสินค้าจำนวนประมาณ 32,000 ตัน (ความชื้นไม่เกิน 15%) ในราคาตันละ 9,000 บาท ซึ่งข้าวจำนวนดังกล่าวโรงสีได้รับซื้อจากเกษตรกรจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ในระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม-16 มิถุนายน 2551 และให้โรงสีมีสิทธิไถ่ถอนข้าวเปลือกเหนียวจำนวนดังกล่าวได้ภายใน 3 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับจำนำตามหลักเกณฑ์การรับจำนำใบประทวนของ ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้แก่เกษตรกร จำนวน 6,321 ราย
2. ให้ ธ.ก.ส.พิจารณาให้สินเชื่อแก่โรงสี โดยใช้ข้าวสารเหนียวที่มีอยู่ประมาณ 8,000 ตัน เป็นหลักประกันการให้สินเชื่อในระบบ Packing Stock เพื่อให้โรงสีมีเงินเพียงพอในการชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรทั้ง 2 จังหวัดให้ครบถ้วน
3. ให้ ธ.ก.ส.แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำตามข้อ 1 ประกอบด้วยผู้แทนกรมการค้าภายใน ผู้แทน ธ.ก.ส. ผู้แทน อคส. ผู้แทนเกษตรกรจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันตกลงจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นและสามารถจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ภายในวันที่ 16 กรกฎาคม 2551
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กรกฎาคม 2551--จบ--
1. ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รับจำนำข้าวเปลือกเหนียวจากโรงสีศิริภิญโญ โดยมีองค์การคลังสินค้า (อคส.) เป็นผู้ออกใบประทวนสินค้าจำนวนประมาณ 32,000 ตัน (ความชื้นไม่เกิน 15%) ในราคาตันละ 9,000 บาท ซึ่งข้าวจำนวนดังกล่าวโรงสีได้รับซื้อจากเกษตรกรจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ในระหว่างวันที่ 25 พฤษภาคม-16 มิถุนายน 2551 และให้โรงสีมีสิทธิไถ่ถอนข้าวเปลือกเหนียวจำนวนดังกล่าวได้ภายใน 3 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับจำนำตามหลักเกณฑ์การรับจำนำใบประทวนของ ธ.ก.ส. เป็นกรณีพิเศษ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้แก่เกษตรกร จำนวน 6,321 ราย
2. ให้ ธ.ก.ส.พิจารณาให้สินเชื่อแก่โรงสี โดยใช้ข้าวสารเหนียวที่มีอยู่ประมาณ 8,000 ตัน เป็นหลักประกันการให้สินเชื่อในระบบ Packing Stock เพื่อให้โรงสีมีเงินเพียงพอในการชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรทั้ง 2 จังหวัดให้ครบถ้วน
3. ให้ ธ.ก.ส.แต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการรับจำนำตามข้อ 1 ประกอบด้วยผู้แทนกรมการค้าภายใน ผู้แทน ธ.ก.ส. ผู้แทน อคส. ผู้แทนเกษตรกรจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันตกลงจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นและสามารถจ่ายเงินให้แก่เกษตรกรจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ภายในวันที่ 16 กรกฎาคม 2551
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กรกฎาคม 2551--จบ--