คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดยประสานการปฏิบัติงานกับจังหวัดที่มีสภาวะฝนตกหนัก และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สรุปการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน (ข้อมูลถึงวันที่ 27 มิถุนายน 2551) สรุปได้ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม - 27 มิถุนายน 2551)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 13 จังหวัด 58 อำเภอ 296 ตำบล 1,332 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สุพรรณบุรี จันทบุรี นครราชสีมา หนองคาย สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา
พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย
ที่ ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด ครัวเรือน คน
1 เหนือ 3 22 119 245 น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี 18,988 125,324
2 ตะวันออก 2 8 45 412 นครราชสีมา หนองคาย 31,445 119,463
เฉียงเหนือ
3 กลาง 4 15 83 388 พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง 12,109 49,578
ชัยนาท สุพรรณบุรี
4 ตะวันออก 1 2 2 2 จันทบุรี - -
5 ใต้ 3 11 47 285 สุราษฎร์ธานี ชุมพร พังงา 9,222 29,436
รวมทั้งประเทศ 13 58 296 1,332 71,764 323,801
1.2 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 323,801 คน 71,764 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 202 หลัง ถนน 656 สาย สะพาน 28 แห่ง ฝาย 34 แห่ง ท่อระบายน้ำ 83 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ทำนบกั้นน้ำ 15 แห่ง ยานยนต์ 1 คัน บ่อปลา 504 บ่อ ปศุสัตว์ 327 ตัว สัตว์ปีก 498 ตัว พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 394,467 ไร่
1.3 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 216,781,480 บาท
1.4 สถานการณ์ภัยปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท จันทบุรี นครราชสีมา หนองคาย สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสุพรรณบุรี สรุปได้ ดังนี้
1) จังหวัดอ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรในอำเภอโพธิ์ทอง อำเภอแสวงหา และอำเภอวิเศษชัยชาญ พื้นที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 25,500 ไร่ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.20 ม. คาดว่าสถานการณ์อุทกภัยจะคลี่คลายภายใน 1 สัปดาห์
การให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง
1) จังหวัด อำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท)
2) กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 32 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง
2) จังหวัดสุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้างใน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง อำเภออู่ทอง อำเภอเดิมบางนางบวช และอำเภอสามชุก พื้นที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 11,840 ไร่ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.40 ม. คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 1 สัปดาห์
การให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
1) กรมชลประทาน จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 80 เครื่อง และได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่อง บริเวณสะพานสำโรง-ลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เพื่อเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีนลงสู่ทะเลให้เร็วขึ้น รวมทั้งประตูระบายน้ำพระยาบรรลือ ได้รับน้ำจากแม่น้ำท่าจีนผ่านคลองพระยาบรรลือลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ประตูระบายน้ำสิงหนาท ซึ่งจะส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังพื้นที่การเกษตรในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่อยู่ตอนบนลดลงด้วย
2) จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้วางกระสอบทราย และทำคันดินเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท)
1.5 การให้ความช่วยเหลือของจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
2) กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยตามจังหวัด
ต่าง ๆ ดังนี้ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อ่างทอง 32 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 26 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง จังหวัดนครปฐม เครื่องผลักดันน้ำ 20 เครื่อง และจังหวัดนครราชสีมา เครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน — 2 กรกฎาคม 2551
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศในช่วงระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2551 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นมากกว่าภาคอื่น ๆ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2551 ร่องความกดอากาศต่ำจะพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มขึ้น สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลงด้วย ดังนั้นในช่วงวันที่ 26-27 มิถุนายน 2551 ขอให้ชาวเรือในทะเลอันดามันเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2551 ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กรกฎาคม 2551--จบ--
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม - 27 มิถุนายน 2551)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 13 จังหวัด 58 อำเภอ 296 ตำบล 1,332 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สุพรรณบุรี จันทบุรี นครราชสีมา หนองคาย สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา
พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย
ที่ ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด ครัวเรือน คน
1 เหนือ 3 22 119 245 น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี 18,988 125,324
2 ตะวันออก 2 8 45 412 นครราชสีมา หนองคาย 31,445 119,463
เฉียงเหนือ
3 กลาง 4 15 83 388 พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง 12,109 49,578
ชัยนาท สุพรรณบุรี
4 ตะวันออก 1 2 2 2 จันทบุรี - -
5 ใต้ 3 11 47 285 สุราษฎร์ธานี ชุมพร พังงา 9,222 29,436
รวมทั้งประเทศ 13 58 296 1,332 71,764 323,801
1.2 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 323,801 คน 71,764 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 202 หลัง ถนน 656 สาย สะพาน 28 แห่ง ฝาย 34 แห่ง ท่อระบายน้ำ 83 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ทำนบกั้นน้ำ 15 แห่ง ยานยนต์ 1 คัน บ่อปลา 504 บ่อ ปศุสัตว์ 327 ตัว สัตว์ปีก 498 ตัว พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วม 394,467 ไร่
1.3 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 216,781,480 บาท
1.4 สถานการณ์ภัยปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายแล้ว 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท จันทบุรี นครราชสีมา หนองคาย สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดสุพรรณบุรี สรุปได้ ดังนี้
1) จังหวัดอ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรในอำเภอโพธิ์ทอง อำเภอแสวงหา และอำเภอวิเศษชัยชาญ พื้นที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 25,500 ไร่ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.10-0.20 ม. คาดว่าสถานการณ์อุทกภัยจะคลี่คลายภายใน 1 สัปดาห์
การให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง
1) จังหวัด อำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท)
2) กรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 32 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง
2) จังหวัดสุพรรณบุรี ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตรเป็นบริเวณกว้างใน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอบางปลาม้า อำเภอสองพี่น้อง อำเภออู่ทอง อำเภอเดิมบางนางบวช และอำเภอสามชุก พื้นที่ถูกน้ำท่วมประมาณ 11,840 ไร่ ระดับน้ำสูงประมาณ 0.20-0.40 ม. คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 1 สัปดาห์
การให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี
1) กรมชลประทาน จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 80 เครื่อง และได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 20 เครื่อง บริเวณสะพานสำโรง-ลานตากฟ้า อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เพื่อเร่งผลักดันน้ำในแม่น้ำท่าจีนลงสู่ทะเลให้เร็วขึ้น รวมทั้งประตูระบายน้ำพระยาบรรลือ ได้รับน้ำจากแม่น้ำท่าจีนผ่านคลองพระยาบรรลือลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ประตูระบายน้ำสิงหนาท ซึ่งจะส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังพื้นที่การเกษตรในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่อยู่ตอนบนลดลงด้วย
2) จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้วางกระสอบทราย และทำคันดินเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ
พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท)
1.5 การให้ความช่วยเหลือของจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1) สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 (งบ 50 ล้านบาท) แล้ว
2) กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบสถานการณ์อุทกภัยตามจังหวัด
ต่าง ๆ ดังนี้ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อ่างทอง 32 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง จังหวัดสุพรรณบุรี ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 26 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง จังหวัดนครปฐม เครื่องผลักดันน้ำ 20 เครื่อง และจังหวัดนครราชสีมา เครื่องสูบน้ำ 4 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 26 มิถุนายน — 2 กรกฎาคม 2551
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศในช่วงระหว่างวันที่ 26 - 27 มิถุนายน 2551 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นมากกว่าภาคอื่น ๆ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2551 ร่องความกดอากาศต่ำจะพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเพิ่มขึ้น สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลง และคลื่นลมจะมีกำลังอ่อนลงด้วย ดังนั้นในช่วงวันที่ 26-27 มิถุนายน 2551 ขอให้ชาวเรือในทะเลอันดามันเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ ส่วนในช่วงวันที่ 29 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2551 ขอให้ประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัย
เมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 กรกฎาคม 2551--จบ--