คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขออนุมัติเบิกจ่ายเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เสนอ แล้วมีมติอนุมัติให้เบิกจ่ายเบี้ยประชุมเป็นรายครั้ง ให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547
ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎหมายฯ) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานกรรมการในการประชุม ครั้งที่ 8/2548 วันที่ 6 กรกฎาคม 2548 มีประเด็นอภิปรายว่า
1. อำนาจหน้าที่ของเลขานุการ ก.ต.ร. ผู้ช่วยเลขานุการ ก.ตร. เลขานุการ ก.ต.ช. และผู้ช่วยเลขานุการ ก.ต.ช. ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับมีลักษณะเป็นเลขานุการของการประชุมซึ่งแตกต่างจากอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตัดสินใจของกรรมการ ดังนั้น การขอกำหนดให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการดังกล่าวได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือนในอัตราเทียบเท่ากับกรรมการและสูงกว่ากรรมการ จึงไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ
2. การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมของเลขานุการ ก.ตร. เป็นรายเดือนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2535 เป็นการเบิกจ่ายโดยอาศัยพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 ซึ่งคณะรัฐมนตรีอาจใช้ดุลยพินิจอนุมัติให้เบิกจ่ายได้ และปรากฏว่า คณะกรรมการต่าง ๆ จะขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเป็นรายกรณี โดยขอเทียบเคียงอัตราสูงสุดที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้วเสนอ ทำให้เกิดความลักลั่นและขออนุมัติเป็นรายกรณีตลอดมา คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติมอบให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาปรับปรุงการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นระบบ จึงได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 ใช้บังคับ
3. พระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 มาตรา 13 บัญญัติให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งตามอัตราที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และไม่มีบทบัญญัติให้คณะรัฐมนตรีกำหนดเบี้ยประชุมให้เลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการเป็นรายเดือนได้ ประกอบกับในการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมของคณะกรรมการข้าราชการอัยการ คณะกรรมการข้าราชการตุลาการ หรือคณะกรรมการข้าราชการอื่น ก็เบิกจ่ายเบี้ยประชุมของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการเป็นรายครั้งตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่เลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการเป็นกรรมการด้วย ก็จะเบิกจ่ายให้ในฐานะกรรมการ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายเป็นรายเดือนได้ การขออนุมัติให้เบิกจ่ายเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอจึงไม่อาจดำเนินการได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 สิงหาคม 2548--จบ--
ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6.2 (ฝ่ายกฎหมายฯ) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธานกรรมการในการประชุม ครั้งที่ 8/2548 วันที่ 6 กรกฎาคม 2548 มีประเด็นอภิปรายว่า
1. อำนาจหน้าที่ของเลขานุการ ก.ต.ร. ผู้ช่วยเลขานุการ ก.ตร. เลขานุการ ก.ต.ช. และผู้ช่วยเลขานุการ ก.ต.ช. ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายและข้อบังคับมีลักษณะเป็นเลขานุการของการประชุมซึ่งแตกต่างจากอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาตัดสินใจของกรรมการ ดังนั้น การขอกำหนดให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการดังกล่าวได้รับค่าตอบแทนเป็นรายเดือนในอัตราเทียบเท่ากับกรรมการและสูงกว่ากรรมการ จึงไม่สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ
2. การเบิกจ่ายเบี้ยประชุมของเลขานุการ ก.ตร. เป็นรายเดือนตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2535 เป็นการเบิกจ่ายโดยอาศัยพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2523 ซึ่งคณะรัฐมนตรีอาจใช้ดุลยพินิจอนุมัติให้เบิกจ่ายได้ และปรากฏว่า คณะกรรมการต่าง ๆ จะขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเป็นรายกรณี โดยขอเทียบเคียงอัตราสูงสุดที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไปแล้วเสนอ ทำให้เกิดความลักลั่นและขออนุมัติเป็นรายกรณีตลอดมา คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติมอบให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาปรับปรุงการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นระบบ จึงได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 ใช้บังคับ
3. พระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 มาตรา 13 บัญญัติให้เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งตามอัตราที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด และไม่มีบทบัญญัติให้คณะรัฐมนตรีกำหนดเบี้ยประชุมให้เลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมการเป็นรายเดือนได้ ประกอบกับในการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมของคณะกรรมการข้าราชการอัยการ คณะกรรมการข้าราชการตุลาการ หรือคณะกรรมการข้าราชการอื่น ก็เบิกจ่ายเบี้ยประชุมของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการเป็นรายครั้งตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่เลขานุการหรือผู้ช่วยเลขานุการเป็นกรรมการด้วย ก็จะเบิกจ่ายให้ในฐานะกรรมการ ซึ่งสามารถเบิกจ่ายเป็นรายเดือนได้ การขออนุมัติให้เบิกจ่ายเบี้ยประชุมเป็นรายเดือนของเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอจึงไม่อาจดำเนินการได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 9 สิงหาคม 2548--จบ--