คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน ครั้งที่ 9 ช่วงวันที่ 7-14 กรกฎาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัย
ขณะนี้ไม่มีรายงานพื้นที่ประสบอุทกภัย
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (14 กรกฎาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 41,197 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 17,883 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2550 (44,891 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,694 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 5 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเฉลี่ยทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯวันนี้ 125.1 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง วันนี้ จำนวน 11,781 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,399 และ 4,511 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 48 และ 47 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 10,910 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 47ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 4,260 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 298 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 295 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 3 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อน
แม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง และอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 17 29 และ 28 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
น้ำรับได้
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตรน้ำ % ความจุ เฉลี่ย วันนี้ สะสมตั้งแต่ อีก
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ ทั้งปี ล้าน 1 ม.ค. 51
ล้าน ลบ.ม.
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 44 17 30 11 186 0.3 34 219
2) กิ่วลม ลำปาง 32 29 28 25 578 0.3 70 80
3) บางพระ ชลบุรี 33 28 18 16 44 0.07 6 84
สำหรับอ่างเก็บน้ำบางพระ บริษัท East Water ได้สูบน้ำจากแม่น้ำบางประกงมาลงอ่างเก็บน้ำบางพระ ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2551 รวมปริมาณน้ำสะสมทั้งหมด 417,493 ลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
น้ำรับได้
ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % ความจุ เฉลี่ย วันนี้ สะสมตั้งแต่ อีก
น้ำ อ่างฯ น้ำ อ่างฯ ทั้งปี ล้าน 1 ม.ค. 51
ล้าน ล้าน ล้าน ลบ.ม.
ลบ.ม. ลบ.ม. ลบ.ม.
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,199 80 3,934 22 4,339 7 1,123 3,546
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และสถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานี Y.4 สะพานตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน สถานี N.5A สะพาน เอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 464 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 8 ลบ.ม.ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 145 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 60 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +7.27 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 172 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 3 ลบ.ม.ต่อวินาที ) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 110 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 34 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 246 ลบ.ม. ต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 70 ลบ.ม.ต่อวินาที(เท่ากับเมื่อวาน) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 86 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 10 ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม — 28 มิถุนายน 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 38 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 35 จังหวัด เกษตรกร 79,950 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 502,818 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว336,913 ไร่ พืชไร่ 151,038 ไร่ พืชสวน 14,867 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,909 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 33,877 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,931 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 1,777 ตัว สัตว์ปีก 25,169 ตัว
ด้านประมง 17 จังหวัด เกษตรกร 2,572 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,014 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 4,052 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,038 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 39,183 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่างๆ 9 จังหวัด จำนวน 81 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง)
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (7 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 4-10 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 62 เที่ยวบิน มีฝนตก วัดปริมาณน้ำฝนได้ 288 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-131.9 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 42 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-10 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 151 วัน 3,208 เที่ยวบิน มีฝนตกรวม วัดปริมาณน้ำฝนได้ 826 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กรกฎาคม 2551--จบ--
สถานการณ์อุทกภัย
ขณะนี้ไม่มีรายงานพื้นที่ประสบอุทกภัย
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (14 กรกฎาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 41,197 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 17,883 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2550 (44,891 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,694 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 5 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเฉลี่ยทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯวันนี้ 125.1 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง วันนี้ จำนวน 11,781 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,399 และ 4,511 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 48 และ 47 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 10,910 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 47ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 4,260 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 298 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 295 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 3 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อน
แม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง และอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 17 29 และ 28 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
น้ำรับได้
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตรน้ำ % ความจุ เฉลี่ย วันนี้ สะสมตั้งแต่ อีก
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ ทั้งปี ล้าน 1 ม.ค. 51
ล้าน ลบ.ม.
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 44 17 30 11 186 0.3 34 219
2) กิ่วลม ลำปาง 32 29 28 25 578 0.3 70 80
3) บางพระ ชลบุรี 33 28 18 16 44 0.07 6 84
สำหรับอ่างเก็บน้ำบางพระ บริษัท East Water ได้สูบน้ำจากแม่น้ำบางประกงมาลงอ่างเก็บน้ำบางพระ ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2551 รวมปริมาณน้ำสะสมทั้งหมด 417,493 ลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
น้ำรับได้
ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % ความจุ เฉลี่ย วันนี้ สะสมตั้งแต่ อีก
น้ำ อ่างฯ น้ำ อ่างฯ ทั้งปี ล้าน 1 ม.ค. 51
ล้าน ล้าน ล้าน ลบ.ม.
ลบ.ม. ลบ.ม. ลบ.ม.
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,199 80 3,934 22 4,339 7 1,123 3,546
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และสถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานี Y.4 สะพานตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน สถานี N.5A สะพาน เอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 464 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 8 ลบ.ม.ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 145 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 60 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +7.27 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 172 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 3 ลบ.ม.ต่อวินาที ) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 110 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 34 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 246 ลบ.ม. ต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 70 ลบ.ม.ต่อวินาที(เท่ากับเมื่อวาน) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 86 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 10 ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม — 28 มิถุนายน 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 38 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 35 จังหวัด เกษตรกร 79,950 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 502,818 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว336,913 ไร่ พืชไร่ 151,038 ไร่ พืชสวน 14,867 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,909 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 33,877 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,931 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 1,777 ตัว สัตว์ปีก 25,169 ตัว
ด้านประมง 17 จังหวัด เกษตรกร 2,572 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,014 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 4,052 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,038 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 39,183 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่างๆ 9 จังหวัด จำนวน 81 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง)
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (7 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 4-10 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 62 เที่ยวบิน มีฝนตก วัดปริมาณน้ำฝนได้ 288 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-131.9 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 42 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-10 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 151 วัน 3,208 เที่ยวบิน มีฝนตกรวม วัดปริมาณน้ำฝนได้ 826 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กรกฎาคม 2551--จบ--