คณะรัฐมนตรีเห็นชอบท่าทีไทยสำหรับการประชุมระดับรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก (WTO) ระหว่างวันที่ 21-25 กรกฎาคม 2551 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
1. สินค้าเกษตร
1.1 ให้มีการลดภาษีนำเข้าและขยายโควตาให้มากที่สุด และให้มีข้อยืดหยุ่นที่น้อยที่สุดในเรื่องสินค้าอ่อนไหว (Sensitive Product) สินค้าพิเศษ (Special Product) โดยกำหนดมาตรการปกป้องพิเศษในสินค้าเกษตร (Special Safeguard) ที่เหมาะสม
1.2 ผลักดันประเทศพัฒนาแล้วให้ลดการอุดหนุนภายในลงมากที่สุด และให้ยกเลิกการอุดหนุนการส่งออก
1.3 ให้มีการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (Special and Differential Treatment) สำหรับประเทศกำลังพัฒนา
2. สินค้าอุตสาหกรรม
2.1 ลดภาษีสูง (Tariff Peaks) ของประเทศพัฒนาแล้วและการแสวงหาตลาดใหม่โดยลดภาษีอุตสาหกรรมของประเทศกำลังพัฒนาให้มากที่สุด
2.2 ให้มีการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (Special and Differential Treatment) สำหรับประเทศกำลังพัฒนา
3. ภาคบริการ
3.1 เปิดตลาดบริการในระดับที่มากขึ้นกว่ารอบอุรุกวัย แต่ไม่เกินขอบเขตที่กฎหมายปัจจุบันกำหนดไว้ โดยเลือกเปิดตลาดในสาขาบริการที่จะส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจหรือสาขาที่ไทยมีความพร้อมที่จะแข่งขัน
3.2 เปิดตลาดบริการบนพื้นฐานการเปิดเสรีอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคำนึงถึงระดับความพร้อมในการแข่งขันของผู้ประกอบการ
3.3 ผลักดันประเทศพัฒนาแล้วให้ผูกพันการเปิดตลาดบริการในสาขาและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ต่อไทย
3.4 สนับสนุนการจัดทำกฎเกณฑ์การค้าบริการให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประเทศกำลังพัฒนา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กรกฎาคม 2551--จบ--
1. สินค้าเกษตร
1.1 ให้มีการลดภาษีนำเข้าและขยายโควตาให้มากที่สุด และให้มีข้อยืดหยุ่นที่น้อยที่สุดในเรื่องสินค้าอ่อนไหว (Sensitive Product) สินค้าพิเศษ (Special Product) โดยกำหนดมาตรการปกป้องพิเศษในสินค้าเกษตร (Special Safeguard) ที่เหมาะสม
1.2 ผลักดันประเทศพัฒนาแล้วให้ลดการอุดหนุนภายในลงมากที่สุด และให้ยกเลิกการอุดหนุนการส่งออก
1.3 ให้มีการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (Special and Differential Treatment) สำหรับประเทศกำลังพัฒนา
2. สินค้าอุตสาหกรรม
2.1 ลดภาษีสูง (Tariff Peaks) ของประเทศพัฒนาแล้วและการแสวงหาตลาดใหม่โดยลดภาษีอุตสาหกรรมของประเทศกำลังพัฒนาให้มากที่สุด
2.2 ให้มีการปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (Special and Differential Treatment) สำหรับประเทศกำลังพัฒนา
3. ภาคบริการ
3.1 เปิดตลาดบริการในระดับที่มากขึ้นกว่ารอบอุรุกวัย แต่ไม่เกินขอบเขตที่กฎหมายปัจจุบันกำหนดไว้ โดยเลือกเปิดตลาดในสาขาบริการที่จะส่งผลให้เกิดการลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจหรือสาขาที่ไทยมีความพร้อมที่จะแข่งขัน
3.2 เปิดตลาดบริการบนพื้นฐานการเปิดเสรีอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคำนึงถึงระดับความพร้อมในการแข่งขันของผู้ประกอบการ
3.3 ผลักดันประเทศพัฒนาแล้วให้ผูกพันการเปิดตลาดบริการในสาขาและกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ ต่อไทย
3.4 สนับสนุนการจัดทำกฎเกณฑ์การค้าบริการให้เกิดความเป็นธรรมแก่ประเทศกำลังพัฒนา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 15 กรกฎาคม 2551--จบ--