คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน ครั้งที่ 10 ช่วงวันที่ 15-21 กรกฎาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัย
จังหวัดน่าน ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 1 ตำบล คือ ตำบลในเวียง อำเภอท่าวังผา 1 ตำบล คือ ตำบลแสนทอง อำเภอภูเพียง 2 ตำบล คือ ตำบลฝายแก้ว และตำบลม่วงติ๊ด สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2551
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (21 กรกฎาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 41,323
ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 18,009 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2550 (44,921 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,598 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 5 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเฉลี่ยทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ วันนี้ 217.2 ล้านลูกบาศก์เมตร(ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง วันนี้ จำนวน 12,790 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 33 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,351 และ 4,761 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 47 และ 50 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 11,112 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 48ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 4,462 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 282 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 279 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี และอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 14, 26, 29 และ 29 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตรน้ำ % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสมตั้งแต่
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ ล้าน ลบ.ม. ความจุ ปี ล้าน ลบ.ม. 1 ม.ค. 51
อ่างฯ ล้าน
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 38 14 24 9 186 1 36
2) กิ่วลม ลำปาง 29 26 25 22 578 1.1 73
3) บางพระ ชลบุรี 34 29 19 16 44 0.37 7
4) ป่าสักฯ ลพบุรี 282 29 279 29 2,200 3.9 476
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
ได้ น้ำรับได้
ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสม อีก
น้ำ อ่างฯ น้ำ ความจุ ปี ล้าน ตั้งแต่
ล้าน ล้าน อ่างฯ ล้าน ลบ.ม. 1 ม.ค.
ลบ.ม. ลบ.ม. ลบ.ม. 51
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,196 80 3,931 22 4,339 11.6 1,207 3,549
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และสถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย
จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มทรงตัว สถานี Y.4 สะพานตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน สถานี N.64 บ้านผาขวาง และสถานี N.1 หน้าสำนักงานป่าไม้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์มาก แนวโน้มลดลง สถานี N.5A สะพานเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 462 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 11 ลบ.ม.ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 193 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 24 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.55 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +7.70 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 164 ลบ.ม. ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 154 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 2 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 206 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 51 ลบ.ม.ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 61 ลบ.ม.ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 17 ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม —10 กรกฎาคม 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 38 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ8 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 35 จังหวัด เกษตรกร 83,110 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย723,363 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว537,115 ไร่ พืชไร่ 165,936 ไร่ พืชสวน 20,312 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,909 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 33,877 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,931 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 1,777 ตัว สัตว์ปีก 25,169 ตัว
ด้านประมง 17 จังหวัด เกษตรกร 2,760 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,157 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 4,191 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,493 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 46,284 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่าง ๆ 9 จังหวัด จำนวน 83 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง น่าน 2 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง)
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (7 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 11-17 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 216 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 345 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-130.6 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 52 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-17 ก.ค. 2551)
ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 158 วัน 3,424 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 831 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 กรกฎาคม 2551--จบ--
สถานการณ์อุทกภัย
จังหวัดน่าน ตามที่ได้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม 2551 ทำให้เกิดน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง 1 ตำบล คือ ตำบลในเวียง อำเภอท่าวังผา 1 ตำบล คือ ตำบลแสนทอง อำเภอภูเพียง 2 ตำบล คือ ตำบลฝายแก้ว และตำบลม่วงติ๊ด สถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2551
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ (21 กรกฎาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 41,323
ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 60 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 18,009 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 26 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2550 (44,921 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,598 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 5 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเฉลี่ยทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ วันนี้ 217.2 ล้านลูกบาศก์เมตร(ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง วันนี้ จำนวน 12,790 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 33 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,351 และ 4,761 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 47 และ 50 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 11,112 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 48ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 4,462 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 19 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 282 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 279 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 29 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี และอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 14, 26, 29 และ 29 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตรน้ำ % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสมตั้งแต่
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ ล้าน ลบ.ม. ความจุ ปี ล้าน ลบ.ม. 1 ม.ค. 51
อ่างฯ ล้าน
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 38 14 24 9 186 1 36
2) กิ่วลม ลำปาง 29 26 25 22 578 1.1 73
3) บางพระ ชลบุรี 34 29 19 16 44 0.37 7
4) ป่าสักฯ ลพบุรี 282 29 279 29 2,200 3.9 476
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
ได้ น้ำรับได้
ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสม อีก
น้ำ อ่างฯ น้ำ ความจุ ปี ล้าน ตั้งแต่
ล้าน ล้าน อ่างฯ ล้าน ลบ.ม. 1 ม.ค.
ลบ.ม. ลบ.ม. ลบ.ม. 51
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,196 80 3,931 22 4,339 11.6 1,207 3,549
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และสถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย
จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มทรงตัว สถานี Y.4 สะพานตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน สถานี N.64 บ้านผาขวาง และสถานี N.1 หน้าสำนักงานป่าไม้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์มาก แนวโน้มลดลง สถานี N.5A สะพานเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 462 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 11 ลบ.ม.ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 193 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 24 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.55 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +7.70 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 164 ลบ.ม. ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 154 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 2 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 206 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 51 ลบ.ม.ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 61 ลบ.ม.ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 17 ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม —10 กรกฎาคม 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 38 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ8 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 35 จังหวัด เกษตรกร 83,110 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย723,363 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว537,115 ไร่ พืชไร่ 165,936 ไร่ พืชสวน 20,312 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,909 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 33,877 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,931 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 1,777 ตัว สัตว์ปีก 25,169 ตัว
ด้านประมง 17 จังหวัด เกษตรกร 2,760 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,157 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 4,191 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 2,493 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 46,284 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้ส่งเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่าง ๆ 9 จังหวัด จำนวน 83 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง น่าน 2 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง)
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (7 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 11-17 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 216 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 345 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-130.6 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 52 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-17 ก.ค. 2551)
ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 158 วัน 3,424 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 831 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 กรกฎาคม 2551--จบ--