คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงวัฒนธรรมรายงานสรุปผลการดำเนินงานกิจการฮัจย์ ประจำปี 2548 ดังนี้
1. ข้อเท็จจริงในการดำเนินงานเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการอัจย์ และการเช่าที่พักสำหรับผู้แสวงบุญชาวไทยของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
1.1 คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้คณะอนุกรรมการ จำนวน 8 คน เพื่อดำเนินการพิจารณาและดำเนินการจัดเช่าที่พัก ทั้งที่เมืองเมกกะห์และเมืองมะดีนะห์ โดยรวมถึงการเช่าที่พักเพิ่มเติมในกรณีเที่ยวบินเปลี่ยนกำหนดการบินตลอดเทศกาลฮัจย์ เป็นเงินประมาณ 267,222,978 บาท (สองร้อยหกสิบเจ็ดล้านสองแสนสองหมื่นสองพันเก้าร้อยเจ็ดสิบแปดบาทถ้วน) โดยรัฐบาลจัดสรรงบกลางกรณีจำเป็นและฉุกเฉินเพื่อสำรองจ่ายค่ามัดจำที่พัก จำนวน 100,000,000 บาท ซึ่งเงินในส่วนนี้กรมการศาสนาจะต้องเรียกเก็บจากผู้ประกอบกิจการฮัจย์ส่งคืนคลังอย่างครบถ้วน ส่วนที่เหลือจะต้องชำระให้กับเจ้าของที่พักอีกจำนวน 167,222,978 บาท กรมการศาสนาจะต้องเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบกิจการฮัจย์เพื่อนำไปชำระให้คู่สัญญา
1.2 ปัญหาเกี่ยวกับการจัดเช่าที่พักสำหรับผู้แสวงบุญมีสาเหตุหลายประการ โดยสรุปคือ (1) งบประมาณ (2) จำนวนผู้แสดงเจตจำนงเดินทางไปแสวงบุญชาวไทยมีมากกว่าโควตาที่กระทรวงฮัจย์จัดสรรให้ (3) ผู้ประกอบการชำระเงินค่าที่พักให้กรมการศาสนาล่าช้า (4) การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินและการยกเลิกเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญชาวไทย
1.3 แนวทางแก้ไข (กรณีที่จะให้รัฐดำเนินการต่อ)
(1) รัฐต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อสำรองจ่ายค่าที่พักให้กรมการศาสนา 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจะได้ดำเนินการเช่าอาคารที่เหมาะสมได้ทันการ
(2) มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการขนส่งผู้แสวงบุญประเภทเหมาลำที่กำหนดตารางบินสอดคล้องกับจำนวนและระบบที่พัก
(3) ตั้งคณะกรรมการร่วมทั้งฝ่ายราชการและผู้ประกอบกิจการฮัจย์ไปดำเนินการจัดเช่าที่พัก
(4) ปรับปรุงระบบการบริหารจัดการกิจการฮัจย์
2. หลักการในการดำเนินงานระยะต่อไปของของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย โดยจะยึดถือแนวทางการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานกิจการฮัจย์กับหน่วยงานผู้ประกอบกิจการฮัจย์ และผู้เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--
1. ข้อเท็จจริงในการดำเนินงานเกี่ยวกับการส่งเสริมกิจการอัจย์ และการเช่าที่พักสำหรับผู้แสวงบุญชาวไทยของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
1.1 คณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้คณะอนุกรรมการ จำนวน 8 คน เพื่อดำเนินการพิจารณาและดำเนินการจัดเช่าที่พัก ทั้งที่เมืองเมกกะห์และเมืองมะดีนะห์ โดยรวมถึงการเช่าที่พักเพิ่มเติมในกรณีเที่ยวบินเปลี่ยนกำหนดการบินตลอดเทศกาลฮัจย์ เป็นเงินประมาณ 267,222,978 บาท (สองร้อยหกสิบเจ็ดล้านสองแสนสองหมื่นสองพันเก้าร้อยเจ็ดสิบแปดบาทถ้วน) โดยรัฐบาลจัดสรรงบกลางกรณีจำเป็นและฉุกเฉินเพื่อสำรองจ่ายค่ามัดจำที่พัก จำนวน 100,000,000 บาท ซึ่งเงินในส่วนนี้กรมการศาสนาจะต้องเรียกเก็บจากผู้ประกอบกิจการฮัจย์ส่งคืนคลังอย่างครบถ้วน ส่วนที่เหลือจะต้องชำระให้กับเจ้าของที่พักอีกจำนวน 167,222,978 บาท กรมการศาสนาจะต้องเรียกเก็บเงินจากผู้ประกอบกิจการฮัจย์เพื่อนำไปชำระให้คู่สัญญา
1.2 ปัญหาเกี่ยวกับการจัดเช่าที่พักสำหรับผู้แสวงบุญมีสาเหตุหลายประการ โดยสรุปคือ (1) งบประมาณ (2) จำนวนผู้แสดงเจตจำนงเดินทางไปแสวงบุญชาวไทยมีมากกว่าโควตาที่กระทรวงฮัจย์จัดสรรให้ (3) ผู้ประกอบการชำระเงินค่าที่พักให้กรมการศาสนาล่าช้า (4) การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบินและการยกเลิกเที่ยวบินขนส่งผู้แสวงบุญชาวไทย
1.3 แนวทางแก้ไข (กรณีที่จะให้รัฐดำเนินการต่อ)
(1) รัฐต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อสำรองจ่ายค่าที่พักให้กรมการศาสนา 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อจะได้ดำเนินการเช่าอาคารที่เหมาะสมได้ทันการ
(2) มอบหมายให้กระทรวงคมนาคม โดยบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการขนส่งผู้แสวงบุญประเภทเหมาลำที่กำหนดตารางบินสอดคล้องกับจำนวนและระบบที่พัก
(3) ตั้งคณะกรรมการร่วมทั้งฝ่ายราชการและผู้ประกอบกิจการฮัจย์ไปดำเนินการจัดเช่าที่พัก
(4) ปรับปรุงระบบการบริหารจัดการกิจการฮัจย์
2. หลักการในการดำเนินงานระยะต่อไปของของคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย โดยจะยึดถือแนวทางการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานกิจการฮัจย์กับหน่วยงานผู้ประกอบกิจการฮัจย์ และผู้เกี่ยวข้องโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--