คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ .) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (กพส.) โดยปรับปรุงให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ปรับปรุงคณะกรรมการบริหาร กพส. การดำรงตำแหน่งของกรรมการบริหาร กพส. ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพิ่มเติมลักษณะต้องห้ามของกรรมการหรือผู้จัดการ และแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (ร่างมาตรา 3 ร่างมาตรา 5 ร่างมาตรา 6 ร่างมาตรา 10 ร่างมาตรา 12 และร่างมาตรา 13)
2. แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียนสหกรณ์ในการแต่งตั้งรองนายทะเบียน สหกรณ์ โดยให้นายทะเบียนสามารถแต่งตั้งรองประธานจากข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ (ร่างมาตรา 4)
3. แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการใช้สิทธิเรียกร้องหรืออายัดค่าหุ้นในระหว่างที่สมาชิกภาพยังไม่สิ้นสุด เพื่อให้สหกรณ์ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษเหนือเงินค่าหุ้นที่สมาชิกได้ชำระแล้วก่อนเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ในกรณี ที่มีปัญหาในการบังคับคดี (ร่างมาตรา 7)
4. กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างสามารถหักเงินเดือนหรือค่าจ้างของสมาชิกเพื่อชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์เมื่อได้รับความยินยอม โดยการหักเงินดังกล่าวต้องหักให้สหกรณ์เป็นอันดับแรกถัดจากหนี้ภาษีอากรและการหักเงินเข้ากองทุนที่สมาชิกต้องถูกหักตามกฎหมายกำหนด และกำหนดให้สมาชิกสามารถตั้งผู้รับโอนประโยชน์ของตนเมื่อถึงแก่ความตายได้ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ (ร่างมาตรา 8)
5. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสหกรณ์ให้สามารถรับฝากเงินจากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ซึ่งมีสมาชิกเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งได้ (ร่างมาตรา 9)
6. แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการกำหนดอัตราการเก็บค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย โดยกำหนดให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงแทนการกำหนดโดยคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (ร่างมาตรา 10)
7. กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจเรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้ภายในสามสิบวันกรณีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเข้าชื่อกันร้องขอและกำหนดให้คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติเป็นผู้วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (ร่างมาตรา 14 และร่างมาตรา 15)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--
ร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ (ฉบับที่ .) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (กพส.) โดยปรับปรุงให้ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธานกรรมการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ปรับปรุงคณะกรรมการบริหาร กพส. การดำรงตำแหน่งของกรรมการบริหาร กพส. ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้ง เพิ่มเติมลักษณะต้องห้ามของกรรมการหรือผู้จัดการ และแก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบของคณะกรรมการดำเนินการสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (ร่างมาตรา 3 ร่างมาตรา 5 ร่างมาตรา 6 ร่างมาตรา 10 ร่างมาตรา 12 และร่างมาตรา 13)
2. แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียนสหกรณ์ในการแต่งตั้งรองนายทะเบียน สหกรณ์ โดยให้นายทะเบียนสามารถแต่งตั้งรองประธานจากข้าราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ (ร่างมาตรา 4)
3. แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการใช้สิทธิเรียกร้องหรืออายัดค่าหุ้นในระหว่างที่สมาชิกภาพยังไม่สิ้นสุด เพื่อให้สหกรณ์ในฐานะเจ้าหนี้บุริมสิทธิพิเศษเหนือเงินค่าหุ้นที่สมาชิกได้ชำระแล้วก่อนเจ้าหนี้สามัญรายอื่น ในกรณี ที่มีปัญหาในการบังคับคดี (ร่างมาตรา 7)
4. กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาหรือนายจ้างสามารถหักเงินเดือนหรือค่าจ้างของสมาชิกเพื่อชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์เมื่อได้รับความยินยอม โดยการหักเงินดังกล่าวต้องหักให้สหกรณ์เป็นอันดับแรกถัดจากหนี้ภาษีอากรและการหักเงินเข้ากองทุนที่สมาชิกต้องถูกหักตามกฎหมายกำหนด และกำหนดให้สมาชิกสามารถตั้งผู้รับโอนประโยชน์ของตนเมื่อถึงแก่ความตายได้ตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์ (ร่างมาตรา 8)
5. แก้ไขเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของสหกรณ์ให้สามารถรับฝากเงินจากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ซึ่งมีสมาชิกเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์นั้นไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งได้ (ร่างมาตรา 9)
6. แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการกำหนดอัตราการเก็บค่าบำรุงสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย โดยกำหนดให้เป็นไปตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงแทนการกำหนดโดยคณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติ (ร่างมาตรา 10)
7. กำหนดให้รัฐมนตรีมีอำนาจเรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้ภายในสามสิบวันกรณีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเข้าชื่อกันร้องขอและกำหนดให้คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติเป็นผู้วินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย (ร่างมาตรา 14 และร่างมาตรา 15)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--