คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงกลาโหมรายงานการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยของกระทรวงหลาโหม ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ตามที่ได้มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืองกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2548 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 14 ถึง 21 ธันวาคม 2548 ดังนี้ (ข้อมูลวันที่ 21 ธันวาคม 2548)
1. พื้นที่ประสบภัย รวม 8 จังหวัด 93 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 582 ตำบล 2,891 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดสงขลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง จังหวัดยะลา และจังหวัดสตูล ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสตูล
2. ความเสียหาย
2.1 ด้านชีวิต ราษฎรเสียชีวิต 16 ราย (จังหวัดสงขลา 8 คน จังหวัดพัทลุง 2 คน จังหวัดตรัง 2 คน จังหวัดปัตตานี 1 คน และจังหวัดยะลา 3 คน) ราษฎรเดือดร้อน 179,991 ครัวเรือน 671,347 คน สูญหาย 3 ราย
2.2 ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหาย ทั้งหลัง 3 หลัง เสียหายบางส่วน 224 หลัง ถนน 463 สาย สะพาน 14 แห่ง พื้นที่การเกษตร 85,562 ไร่
3. การให้ความช่วยเหลือของกระทรวงกลาโหม
3.1 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด สนับสนุนกำลังพล รถยนต์บรรทุก เรือท้องแบน รถแบคโฮ ให้กับส่วนราชการพลเรือน ภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพ ซึ่งหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 และ 46
3.2 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก สนับสนุนกำลังพล เฮลิคอปเตอร์ รถยนต์บรรทุก เรือท้องแบน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเรือติดเครื่องยนต์ ให้กับส่วนราชการพลเรือน ภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพ โดยหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ กองทัพภาค 4, มณฑลทหารบกที่ 41 , มณฑลทหารบกที่ 42 , กองบัญชาการช่วยรบที่ 4, กองพลทหารราบที่ 5 , กองพลพัฒนาที่ 4, จังหวัดทหารบกทุ่งสง , จังหวัดทหารบกปัตตานี , กรมการปืนใหญ่ที่ 5, กองพันทหารช่างที่ 402 , กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 , กองพันทหาราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5, กองพันทหารม้าที่ 16, กองพันทหารสื่อสารที่ 5 และกองพันทหารช่างที่ 5
3.3 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ สนับสนุนกำลังพล เฮลิคอปเตอร์ เรือท้องแบน ให้กับส่วนราชการพลเรือนภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพ โดยหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 2 และ 3 รวมทั้งหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้
3.4 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ สนับสนุนกำลังพล เครื่องบิน C-130 เฮลิคอปเตอร์ รถยนต์ขนาดใหญ่ ให้กับส่วนราชการพลเรือน ภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแจกจ่ายถุงยังชีพ โดยหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ กองบิน 56 และกองบิน 7 กองพลบินที่ 4 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ
4. กระทรวงกลาโหม ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยกองทัพไทย ขึ้นที่กองบัญชาการทหารสูงสุด โดยในวันที่ 22 ธันวาคม 2548 ผู้บัญชาการทหารสูงสุด / ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการทหารสูงสุด ได้เดินทางพร้อมคณะสื่อมวลชนไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี และนำสิ่งของและเงินที่ได้รับบริจาคมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ณ สนามบินบ่อทอง และที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี นอกจากนั้นกระทรวงกลาโหมยังได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ ได้ให้การช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ภายหลังน้ำลดด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 ธันวาคม 2548--จบ--
สถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ ตามที่ได้มีลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนืองกำลังแรงพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2548 เป็นต้นมา ส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ระหว่างวันที่ 14 ถึง 21 ธันวาคม 2548 ดังนี้ (ข้อมูลวันที่ 21 ธันวาคม 2548)
1. พื้นที่ประสบภัย รวม 8 จังหวัด 93 อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ 582 ตำบล 2,891 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดสงขลา จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดพัทลุง จังหวัดตรัง จังหวัดยะลา และจังหวัดสตูล ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดสตูล
2. ความเสียหาย
2.1 ด้านชีวิต ราษฎรเสียชีวิต 16 ราย (จังหวัดสงขลา 8 คน จังหวัดพัทลุง 2 คน จังหวัดตรัง 2 คน จังหวัดปัตตานี 1 คน และจังหวัดยะลา 3 คน) ราษฎรเดือดร้อน 179,991 ครัวเรือน 671,347 คน สูญหาย 3 ราย
2.2 ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหาย ทั้งหลัง 3 หลัง เสียหายบางส่วน 224 หลัง ถนน 463 สาย สะพาน 14 แห่ง พื้นที่การเกษตร 85,562 ไร่
3. การให้ความช่วยเหลือของกระทรวงกลาโหม
3.1 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด สนับสนุนกำลังพล รถยนต์บรรทุก เรือท้องแบน รถแบคโฮ ให้กับส่วนราชการพลเรือน ภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพ ซึ่งหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ สำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 41 และ 46
3.2 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก สนับสนุนกำลังพล เฮลิคอปเตอร์ รถยนต์บรรทุก เรือท้องแบน เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเรือติดเครื่องยนต์ ให้กับส่วนราชการพลเรือน ภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพ โดยหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ กองทัพภาค 4, มณฑลทหารบกที่ 41 , มณฑลทหารบกที่ 42 , กองบัญชาการช่วยรบที่ 4, กองพลทหารราบที่ 5 , กองพลพัฒนาที่ 4, จังหวัดทหารบกทุ่งสง , จังหวัดทหารบกปัตตานี , กรมการปืนใหญ่ที่ 5, กองพันทหารช่างที่ 402 , กองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 15 , กองพันทหาราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 5, กองพันทหารม้าที่ 16, กองพันทหารสื่อสารที่ 5 และกองพันทหารช่างที่ 5
3.3 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ สนับสนุนกำลังพล เฮลิคอปเตอร์ เรือท้องแบน ให้กับส่วนราชการพลเรือนภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งแจกจ่ายถุงยังชีพ โดยหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 2 และ 3 รวมทั้งหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินภาคใต้
3.4 ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพอากาศ สนับสนุนกำลังพล เครื่องบิน C-130 เฮลิคอปเตอร์ รถยนต์ขนาดใหญ่ ให้กับส่วนราชการพลเรือน ภาคเอกชน และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแจกจ่ายถุงยังชีพ โดยหน่วยที่เข้าให้การช่วยเหลือ ได้แก่ กองบิน 56 และกองบิน 7 กองพลบินที่ 4 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ
4. กระทรวงกลาโหม ได้จัดตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยกองทัพไทย ขึ้นที่กองบัญชาการทหารสูงสุด โดยในวันที่ 22 ธันวาคม 2548 ผู้บัญชาการทหารสูงสุด / ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการทหารสูงสุด ได้เดินทางพร้อมคณะสื่อมวลชนไปตรวจเยี่ยมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จังหวัดปัตตานี และนำสิ่งของและเงินที่ได้รับบริจาคมอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ ณ สนามบินบ่อทอง และที่อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี นอกจากนั้นกระทรวงกลาโหมยังได้สั่งการให้หน่วยทหารในพื้นที่ ได้ให้การช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ภายหลังน้ำลดด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 27 ธันวาคม 2548--จบ--