คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (สป.กก.) ดำเนินการโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ จังหวัดเชียงใหม่ ภายในกรอบวงเงินงบประมาณ จำนวน 2,219,044,000 บาท ระยะเวลาดำเนินงาน 3 ปี (พ.ศ. 2551-2553) ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเตรียมการระยะแรกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงานอีกเพียง 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน 2551) จำนวน 2.0 ล้านบาท และค่าก่อสร้างที่จะเริ่มขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ให้ สป.กก.ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ได้รับการขยายระยะเวลากันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีถึงสิ้นเดือนกันยายน 2551 จำนวน 262.8132 ล้านบาท ไปดำเนินการ โดยขอให้ สป.กก. ขอขยายระยะเวลา กันเงินงบประมาณดังกล่าวจากกระทรวงการคลังต่อไปอีก เพื่อนำมาเป็นค่าก่อสร้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และหากไม่เพียงพอให้เสนอขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพิ่มเติมตามความจำเป็น ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้ สป.กก. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ทั้งนี้ ให้ สป.กก. จัดทำรายละเอียดแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ แล้วขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง
กรณีค่าก่อสร้างในส่วนอื่นที่มิใช่ค่าดำเนินงานโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติในหลักการไว้เดิม ซึ่ง สป.กก. จะขอดำเนินการเพิ่มเติม เห็นควรให้ชะลอไว้ก่อนจนกว่าการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ จะแล้วเสร็จ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในภาพรวม และหากเห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องดำเนินการ ขอให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายในการศึกษารูปแบบการบริหารโครงการ สำนักงบประมาณได้สนับสนุนงบประมาณให้กับสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 5.0 ล้านบาท และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 อีกจำนวน 5.0 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10.0 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษารูปแบบและวิธีการบริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ แล้ว ดังนั้น จึงเห็นควรนำผลการศึกษาของ สสปน. มาใช้ดำเนินการต่อไป
สำหรับการบริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ ในอนาคตนั้น สำนักงบประมาณเห็นว่าเพื่อให้การใช้ประโยชน์ของศูนย์การประชุมดังกล่าวเป็นไปอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด จึงสมควรจะได้วางแผนและกำหนดทางเลือกให้ภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการระดับนานาชาติเป็นผู้บริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ ดังกล่าวเช่นเดียวกับการบริหารจัดการศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ด้วย ทั้งนี้ เพื่อมิให้การบริหารจัดการเกิดภาระงบประมาณและก่อให้เกิดรายได้กลับคืนสู่รัฐได้โดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเตรียมการระยะแรกในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงานอีกเพียง 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน 2551) จำนวน 2.0 ล้านบาท และค่าก่อสร้างที่จะเริ่มขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 ให้ สป.กก.ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ที่ได้รับการขยายระยะเวลากันเงินไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีถึงสิ้นเดือนกันยายน 2551 จำนวน 262.8132 ล้านบาท ไปดำเนินการ โดยขอให้ สป.กก. ขอขยายระยะเวลา กันเงินงบประมาณดังกล่าวจากกระทรวงการคลังต่อไปอีก เพื่อนำมาเป็นค่าก่อสร้างในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 และหากไม่เพียงพอให้เสนอขอแปรญัตติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2552 เพิ่มเติมตามความจำเป็น ส่วนค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ให้ สป.กก. เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป ทั้งนี้ ให้ สป.กก. จัดทำรายละเอียดแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ แล้วขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง
กรณีค่าก่อสร้างในส่วนอื่นที่มิใช่ค่าดำเนินงานโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติในหลักการไว้เดิม ซึ่ง สป.กก. จะขอดำเนินการเพิ่มเติม เห็นควรให้ชะลอไว้ก่อนจนกว่าการดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมฯ จะแล้วเสร็จ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานในภาพรวม และหากเห็นว่ามีความจำเป็นจะต้องดำเนินการ ขอให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความเหมาะสมและจำเป็นต่อไป สำหรับค่าใช้จ่ายในการศึกษารูปแบบการบริหารโครงการ สำนักงบประมาณได้สนับสนุนงบประมาณให้กับสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 จำนวน 5.0 ล้านบาท และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 อีกจำนวน 5.0 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 10.0 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษารูปแบบและวิธีการบริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ แล้ว ดังนั้น จึงเห็นควรนำผลการศึกษาของ สสปน. มาใช้ดำเนินการต่อไป
สำหรับการบริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ ในอนาคตนั้น สำนักงบประมาณเห็นว่าเพื่อให้การใช้ประโยชน์ของศูนย์การประชุมดังกล่าวเป็นไปอย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด จึงสมควรจะได้วางแผนและกำหนดทางเลือกให้ภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการระดับนานาชาติเป็นผู้บริหารจัดการศูนย์ประชุมฯ ดังกล่าวเช่นเดียวกับการบริหารจัดการศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ด้วย ทั้งนี้ เพื่อมิให้การบริหารจัดการเกิดภาระงบประมาณและก่อให้เกิดรายได้กลับคืนสู่รัฐได้โดยเร็ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--