คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกรอบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประนีประนอมยอมความในการดำเนินคดีกับลูกหนี้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรในคดีแพ่ง ตามแนวทางทั้ง 3 แนวทาง ตามนัยมติคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2551 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้หน่วยงานเจ้าของคดีคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญตามความเห็นของกระทรวงพาณิชย์
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2551 ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วมีมติให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบแนวทางปฏิบัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในการเจรจาประนีประนอมยอมความในการดำเนินคดีกับลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ดังนี้
1. ให้ใช้กรอบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง ตามแนวทางวิธีที่กระทรวงการคลังกำหนด ดังนี้
1.1 คดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000,000 บาท ไม่ว่าส่วนราชการจะเป็นโจทก์หรือจำเลย หากส่วนราชการเจ้าของคดีและพนักงานอัยการผู้ดำเนินคดีมีความเห็นสอดคล้องเป็นประการใด ให้พิจารณาดำเนินการตามความเห็นดังกล่าวได้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และไม่ต้องส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณา
1.2 คดีตามข้อ 1.1 หากส่วนราชการเจ้าของคดีและพนักงานอัยการผู้ดำเนินคดีมีความเห็นไม่ตรงกัน ให้ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังเพื่อพิจารณา
1.3 คดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์เกิน 2,000,000 บาท ให้ส่วนราชการเจ้าของคดีส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังเพื่อพิจารณา
2. การเจรจาประนีประนอมหนี้ ระหว่างส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระให้ใช้แนวทาง ดังนี้
2.1 เงินที่ค้างชำระให้ลูกหนี้ชำระหนี้เต็มตามจำนวนเงินที่ค้างชำระ
2.2 ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) ให้ยกเว้นการชำระดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) ในกรณีที่ลูกหนี้มีเจตนาจะชำระหนี้คืนทันทีหากลูกหนี้ไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้คืนทันที ให้อยู่ในดุลยพินิจของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ
3. ผลการเจรจาประนีประนอมยอมความในการดำเนินคดีสำหรับส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจกับลูกหนี้เป็นอย่างไร ให้คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรมีอำนาจพิจารณา โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกร ครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2551 ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วมีมติให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบกรอบแนวทางปฏิบัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจในการเจรจาประนีประนอมยอมความในการดำเนินคดีกับลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร ดังนี้
1. ให้ใช้กรอบแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประนีประนอมยอมความในคดีแพ่ง ตามแนวทางวิธีที่กระทรวงการคลังกำหนด ดังนี้
1.1 คดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์ไม่เกิน 2,000,000 บาท ไม่ว่าส่วนราชการจะเป็นโจทก์หรือจำเลย หากส่วนราชการเจ้าของคดีและพนักงานอัยการผู้ดำเนินคดีมีความเห็นสอดคล้องเป็นประการใด ให้พิจารณาดำเนินการตามความเห็นดังกล่าวได้ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของทางราชการเป็นสำคัญ และไม่ต้องส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังพิจารณา
1.2 คดีตามข้อ 1.1 หากส่วนราชการเจ้าของคดีและพนักงานอัยการผู้ดำเนินคดีมีความเห็นไม่ตรงกัน ให้ส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังเพื่อพิจารณา
1.3 คดีแพ่งที่มีทุนทรัพย์เกิน 2,000,000 บาท ให้ส่วนราชการเจ้าของคดีส่งเรื่องให้กระทรวงการคลังเพื่อพิจารณา
2. การเจรจาประนีประนอมหนี้ ระหว่างส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ กับลูกหนี้ที่มีหนี้ค้างชำระให้ใช้แนวทาง ดังนี้
2.1 เงินที่ค้างชำระให้ลูกหนี้ชำระหนี้เต็มตามจำนวนเงินที่ค้างชำระ
2.2 ดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) ให้ยกเว้นการชำระดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ (ถ้ามี) ในกรณีที่ลูกหนี้มีเจตนาจะชำระหนี้คืนทันทีหากลูกหนี้ไม่มีความสามารถที่จะชำระหนี้คืนทันที ให้อยู่ในดุลยพินิจของส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจ
3. ผลการเจรจาประนีประนอมยอมความในการดำเนินคดีสำหรับส่วนราชการ/รัฐวิสาหกิจกับลูกหนี้เป็นอย่างไร ให้คณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรมีอำนาจพิจารณา โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--