แท็ก
คณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ดำเนินการตามแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ปรับใหม่) ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศจำนวนทั้งสิ้น 6,552 แห่ง
กรอบวงเงินลงทุนรวม 14,942 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (ปี 2552-2554) โดยในปี 2552 ดำเนินการฟื้นฟูแหล่งน้ำที่มีความเสื่อม
โทรมมากและมีความพร้อมจำนวน 1,013 แห่ง วงเงินลงทุน 4,477 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากร
น้ำและการชลประทาฯ ในการประชุมครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2551 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติเสนอ
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานว่า
1. คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ในการประชุมครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2551
ได้มีมติให้ทบทวนรายละเอียดของแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำขนาดเล็ก โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูหนองบึงขนาดใหญ่ ที่ประชาชนใช้ประโยชน์
ร่วมกันแต่มีสภาพตื้นเขินและเสื่อมโทรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งและสามารถรองรับน้ำท่วมในฤดูฝน
2. คณะกรรมการฯ ในการประชุมครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2551 ได้มีการพิจารณาแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำที่ปรับ
ใหม่ ตามที่มอบหมายให้ดำเนินการ ดังนี้
2.1 สาระสำคัญของแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ปรับใหม่)
2.1.1 สภาพความเสื่อมโทรมของแหล่งน้ำ ปัจจุบันแหล่งน้ำนอกเขตชลประทานที่ประชาชนใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำ
วันในพื้นที่ภาคต่าง ๆ ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติและที่ก่อสร้างขึ้น เช่น หนอง บึง ฝาย อ่างเก็บน้ำ ระบบส่งน้ำ ส่วนใหญ่มีสภาพเสื่อมโทรม ตื้นเขิน มี
วัชพืชปกคลุมหนาแน่น ทำให้การระเหยของน้ำมากกว่า ปกติ และลดความสามารถในการระบายน้ำ มีการรุกล้ำพื้นที่แหล่งน้ำโดยรอบมากขึ้นและ
แปรสภาพไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ เช่น อยู่อาศัย เกษตรกรรม ส่งผลให้คุณภาพน้ำและสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมลง รวมทั้งไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้
เพื่อการอุปโภคบริโภคและเสริมการเกษตรกรรมในฤดูแล้งได้พอเพียง
2.1.2 หลักการของแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ปรับใหม่)
1) ยึดกรอบวงเงินลงทุนและระยะเวลาดำเนินการที่ได้รับการอนุมัติเดิม จำนวน 14,942 ล้านบาท ระยะเวลา
ดำเนินการ 3 ปี (ปี 2552-2554)
2) แนวทางการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการฟื้นฟูแหล่งน้ำให้กลับคืนสภาพความสมบูรณ์ตาม
ธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่โดยรอบสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้ตลอดปีจากการมีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยใน
การรองรับปริมาณน้ำที่มากในฤดูฝนเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบ ประกอบด้วยแนวทางดำเนินการ ดังนี้
2.1) กำหนดขอบเขตแหล่งน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ แม่น้ำลำคลองที่จะทำการฟื้นฟูบูรณะให้เกิดความชัดเจน เพื่อป้องกันและ
แก้ไขปัญหาการรุกล้ำใช้ประโยชน์พื้นที่แหล่งน้ำ
2.2) เสริมสร้างความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการร่วมบริหารจัดการแหล่งน้ำตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่ม
กำหนดแนวทางและวิธีการฟื้นฟู การใช้ประโยชน์ จนถึงการดูแลรักษา เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่
2.3) พิจารณาดำเนินการอย่างเป็นระบบลุ่มน้ำ เพื่อให้การฟื้นฟูแหล่งน้ำแต่ละแห่งสามารถเกื้อหนุนกันโดยไม่ส่งผล
กระทบทางลบต่อแหล่งน้ำใกล้เคียงที่อยู่ในระบบลุ่มน้ำเดียวกัน
2.4) คำนึงถึงการรักษาสมดุลระบบนิเวศ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการใช้ประโยชน์แหล่งน้ำ การดูแล
รักษาและการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ใช้สายน้ำ
2.5) กิจกรรมการฟื้นฟูแหล่งน้ำต้องไม่เป็นการบุกรุกพื้นที่แหล่งน้ำและไม่กีดขวางการไหลของน้ำเพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด
2.6) คำนึงถึงการเสริมสร้างให้เกิดภูมิทัศน์ที่กลมกลืนกับสภาพธรรมชาติโดยรอบ ขณะเดียวกันก็เกิดประโยชน์ใน
การลดการกัดเซาะและพังทลายของตลิ่ง เช่น การปลูกหญ้าแฝกและต้นไม้ริมตลิ่งและบริเวณใกล้เคียง
2.7) การเป็นแหล่งสันทนาการและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่
2.1.3 การจัดลำดับความสำคัญของโครงการ พิจารณาจากขนาดพื้นที่ลุ่มน้ำ จำนวนประชากร ความรุนแรงของปัญหาภัยแล้ง
และอุทกภัยในพื้นที่และระดับความยากจน
2.1.4 การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน พิจารณาโครงการที่ประชาชนได้เสนอความต้องการผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมในการ
บริหารจัดการน้ำของคณะกรรมการลุ่มน้ำซึ่งมีทุกลุ่มน้ำหลักทั่วประเทศ
2.2 สรุปแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ปรับใหม่)
2.2.1 แผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำนอกเขตชลประทานทั่วประเทศ (ปรับใหม่) ประกอบด้วย การฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ
ได้แก่ หนองบึงทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ การบูรณะฟื้นฟูฝายเสริมระบบนิเวศในพื้นที่ต้นน้ำ การปรับปรุงสิ่งก่อสร้างแหล่งน้ำ การปรับปรุงฝายน้ำล้น
ระบบส่งน้ำ และอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ที่ชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันในการดำรงชีวิตและมีสภาพเสื่อมโทรมมากจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูโดยเร็ว
จำนวนทั้งสิ้น 6,552 แห่ง ดำเนินการภายในเวลา 3 ปี (ปี 2552 — 2554) วงเงินลงทุนรวม 14,942 ล้านบาท
สรุปแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ปีงบประมาณ 2552-2554 (ปรับใหม่) จำแนกประเภทกิจกรรม : กรมทรัพยากรน้ำ
ประเภท ปี 2552-2554 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 พื้นที่รับ ผู้ได้รับ ความจุ
กิจกรรม ประโยชน์ ประโยชน์ เก็บกัก
(ล้านไร่) (ครัวเรือน) (ล้าน
จำนวน งบประมาณ ร้อยละ งบประมาณ งบประมาณ งบประมาณ ลบ.ม.)
(ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท)
อนุรักษ์ฟื้นฟู 590 4,290 28.7 2,313 1,142 835 0.205 94,824 382.57
แหล่งน้ำ
ฝ่ายเสริมระบบ 4,712 505 3.4 116 223 166 0.006 1,156 0.41
นิเวศ
ปรับปรุง 968 4,869 32.6 421 1,933 2,515 1.816 230,711 403.85
สิ่งก่อสร้าง
แหล่งน้ำ
ฝายน้ำล้น 189 3,711 24.8 1,132 1,515 1,063 0.103 18,347 3.6
ระบบส่งน้ำ 41 462 3.1 306 43 114 0.03 9,850 0
อ่างเก็บน้ำ 52 1,105 7.4 189 580 336 0.029 4,674 44.32
รวมทั้งประเทศ 6,552 14,942 100 4,477 5,436 5,029 2.19 359,562 834.76
การปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำตามแผน ส่วนใหญ่ดำเนินการเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและภัยแล้งในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อขาดแคลนน้ำมาก
กล่าวคือเป็นการลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มากที่สุด จำนวน 1,189 แห่ง วงเงินลงทุน 4,887 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.7 ของวงเงิน
ลงทุนรวม
สรุปแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ปีงบประมาณ 2552-2554 (ปรับใหม่) จำแนกรายภาค: กรมทรัพยากรน้ำ ความจุ
ภาค ปี 2552-2554 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 พื้นที่รับ ผู้ได้รับ
ประ ประโยชน์ เก็บกัก
โยชน์ (ครัว (ล้าน
จำนวน งบ ร้อยละ งบ งบ งบ (ล้านไร่) เรือน) ลบ.ม.)
(แห่ง) ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ
(ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท)
เหนือ 2,011 4,527 30.3 1,226 1,851 1,449 0.99 93,739 251.56
ตะวันออกเฉียง เหนือ 1,189 4,887 32.7 1,451 1,782 1,653 0.53 148,837 339.43
กลาง 846 3,815 25.5 1,379 1,132 1,304 0.49 88,507 216.45
ใต้ 2,506 1,713 11.47 421 671 622 0.18 28,479 27.57
รวมทั้งประเทศ 6,552 14,942 100 4,477 5,436 5,029 2.19 359,562 834.76
2.2.2 ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนตามแผนฯ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามแผนในปี 2554 จะสามารถเพิ่ม
ประสิทธิภาพของแหล่งน้ำเพื่อการใช้ประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่ 2.19 ล้านไร่ ประชาชนรับประโยชน์ 359,562 ครัวเรือน โดยจะมีน้ำใช้ประโยชน์ใน
ฤดูแล้งเพื่อการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้นประมาณ 835 ล้าน ลบ.ม./ปี
2.3 ความเห็นของคณะกรรมการฯ
2.3.1 การปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำแต่ละแห่งต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุดตามความเหมาะสม
ของสภาพแหล่งน้ำ โดยคำนึงถึงระบบนิเวศเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้ตลอดปี
2.3.2 ในการปฏิบัติตามแผน ต้องมีการบริหารจัดการร่วมกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนในพื้นที่
โดยมีการวางแผนและวิธีการดำเนินการที่ครบถ้วน ครอบคลุมถึงการบริหารจัดการแหล่งรองรับดินจากการขุดลอกแหล่งน้ำ
2.3.3 เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ จึงจำเป็นต้องหาแหล่งเงินลงทุนอื่น ซึ่งอาจเป็นเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำในประเทศ
หรือต่างประเทศ เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินการได้ในปี 2552 โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงบประมาณรับไปดำเนินการหาแหล่ง
เงินลงทุนที่เหมาะสมต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--
กรอบวงเงินลงทุนรวม 14,942 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (ปี 2552-2554) โดยในปี 2552 ดำเนินการฟื้นฟูแหล่งน้ำที่มีความเสื่อม
โทรมมากและมีความพร้อมจำนวน 1,013 แห่ง วงเงินลงทุน 4,477 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามมติคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากร
น้ำและการชลประทาฯ ในการประชุมครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2551 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่ง
ชาติเสนอ
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรายงานว่า
1. คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและการชลประทาน ในการประชุมครั้งที่ 2/2551 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2551
ได้มีมติให้ทบทวนรายละเอียดของแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำขนาดเล็ก โดยให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูหนองบึงขนาดใหญ่ ที่ประชาชนใช้ประโยชน์
ร่วมกันแต่มีสภาพตื้นเขินและเสื่อมโทรม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งและสามารถรองรับน้ำท่วมในฤดูฝน
2. คณะกรรมการฯ ในการประชุมครั้งที่ 3/2551 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2551 ได้มีการพิจารณาแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำที่ปรับ
ใหม่ ตามที่มอบหมายให้ดำเนินการ ดังนี้
2.1 สาระสำคัญของแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ปรับใหม่)
2.1.1 สภาพความเสื่อมโทรมของแหล่งน้ำ ปัจจุบันแหล่งน้ำนอกเขตชลประทานที่ประชาชนใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตประจำ
วันในพื้นที่ภาคต่าง ๆ ทั้งแหล่งน้ำธรรมชาติและที่ก่อสร้างขึ้น เช่น หนอง บึง ฝาย อ่างเก็บน้ำ ระบบส่งน้ำ ส่วนใหญ่มีสภาพเสื่อมโทรม ตื้นเขิน มี
วัชพืชปกคลุมหนาแน่น ทำให้การระเหยของน้ำมากกว่า ปกติ และลดความสามารถในการระบายน้ำ มีการรุกล้ำพื้นที่แหล่งน้ำโดยรอบมากขึ้นและ
แปรสภาพไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ เช่น อยู่อาศัย เกษตรกรรม ส่งผลให้คุณภาพน้ำและสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมลง รวมทั้งไม่สามารถเก็บกักน้ำไว้ใช้
เพื่อการอุปโภคบริโภคและเสริมการเกษตรกรรมในฤดูแล้งได้พอเพียง
2.1.2 หลักการของแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ปรับใหม่)
1) ยึดกรอบวงเงินลงทุนและระยะเวลาดำเนินการที่ได้รับการอนุมัติเดิม จำนวน 14,942 ล้านบาท ระยะเวลา
ดำเนินการ 3 ปี (ปี 2552-2554)
2) แนวทางการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการฟื้นฟูแหล่งน้ำให้กลับคืนสภาพความสมบูรณ์ตาม
ธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่โดยรอบสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้ตลอดปีจากการมีปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยใน
การรองรับปริมาณน้ำที่มากในฤดูฝนเพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่โดยรอบ ประกอบด้วยแนวทางดำเนินการ ดังนี้
2.1) กำหนดขอบเขตแหล่งน้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ แม่น้ำลำคลองที่จะทำการฟื้นฟูบูรณะให้เกิดความชัดเจน เพื่อป้องกันและ
แก้ไขปัญหาการรุกล้ำใช้ประโยชน์พื้นที่แหล่งน้ำ
2.2) เสริมสร้างความร่วมมือของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการร่วมบริหารจัดการแหล่งน้ำตั้งแต่ขั้นตอนการเริ่ม
กำหนดแนวทางและวิธีการฟื้นฟู การใช้ประโยชน์ จนถึงการดูแลรักษา เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่
2.3) พิจารณาดำเนินการอย่างเป็นระบบลุ่มน้ำ เพื่อให้การฟื้นฟูแหล่งน้ำแต่ละแห่งสามารถเกื้อหนุนกันโดยไม่ส่งผล
กระทบทางลบต่อแหล่งน้ำใกล้เคียงที่อยู่ในระบบลุ่มน้ำเดียวกัน
2.4) คำนึงถึงการรักษาสมดุลระบบนิเวศ วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ในการใช้ประโยชน์แหล่งน้ำ การดูแล
รักษาและการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ใช้สายน้ำ
2.5) กิจกรรมการฟื้นฟูแหล่งน้ำต้องไม่เป็นการบุกรุกพื้นที่แหล่งน้ำและไม่กีดขวางการไหลของน้ำเพื่อเพิ่ม
ประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุด
2.6) คำนึงถึงการเสริมสร้างให้เกิดภูมิทัศน์ที่กลมกลืนกับสภาพธรรมชาติโดยรอบ ขณะเดียวกันก็เกิดประโยชน์ใน
การลดการกัดเซาะและพังทลายของตลิ่ง เช่น การปลูกหญ้าแฝกและต้นไม้ริมตลิ่งและบริเวณใกล้เคียง
2.7) การเป็นแหล่งสันทนาการและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนในพื้นที่
2.1.3 การจัดลำดับความสำคัญของโครงการ พิจารณาจากขนาดพื้นที่ลุ่มน้ำ จำนวนประชากร ความรุนแรงของปัญหาภัยแล้ง
และอุทกภัยในพื้นที่และระดับความยากจน
2.1.4 การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน พิจารณาโครงการที่ประชาชนได้เสนอความต้องการผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมในการ
บริหารจัดการน้ำของคณะกรรมการลุ่มน้ำซึ่งมีทุกลุ่มน้ำหลักทั่วประเทศ
2.2 สรุปแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ (ปรับใหม่)
2.2.1 แผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำนอกเขตชลประทานทั่วประเทศ (ปรับใหม่) ประกอบด้วย การฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ
ได้แก่ หนองบึงทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ การบูรณะฟื้นฟูฝายเสริมระบบนิเวศในพื้นที่ต้นน้ำ การปรับปรุงสิ่งก่อสร้างแหล่งน้ำ การปรับปรุงฝายน้ำล้น
ระบบส่งน้ำ และอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ที่ชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันในการดำรงชีวิตและมีสภาพเสื่อมโทรมมากจำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูโดยเร็ว
จำนวนทั้งสิ้น 6,552 แห่ง ดำเนินการภายในเวลา 3 ปี (ปี 2552 — 2554) วงเงินลงทุนรวม 14,942 ล้านบาท
สรุปแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ปีงบประมาณ 2552-2554 (ปรับใหม่) จำแนกประเภทกิจกรรม : กรมทรัพยากรน้ำ
ประเภท ปี 2552-2554 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 พื้นที่รับ ผู้ได้รับ ความจุ
กิจกรรม ประโยชน์ ประโยชน์ เก็บกัก
(ล้านไร่) (ครัวเรือน) (ล้าน
จำนวน งบประมาณ ร้อยละ งบประมาณ งบประมาณ งบประมาณ ลบ.ม.)
(ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท)
อนุรักษ์ฟื้นฟู 590 4,290 28.7 2,313 1,142 835 0.205 94,824 382.57
แหล่งน้ำ
ฝ่ายเสริมระบบ 4,712 505 3.4 116 223 166 0.006 1,156 0.41
นิเวศ
ปรับปรุง 968 4,869 32.6 421 1,933 2,515 1.816 230,711 403.85
สิ่งก่อสร้าง
แหล่งน้ำ
ฝายน้ำล้น 189 3,711 24.8 1,132 1,515 1,063 0.103 18,347 3.6
ระบบส่งน้ำ 41 462 3.1 306 43 114 0.03 9,850 0
อ่างเก็บน้ำ 52 1,105 7.4 189 580 336 0.029 4,674 44.32
รวมทั้งประเทศ 6,552 14,942 100 4,477 5,436 5,029 2.19 359,562 834.76
การปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำตามแผน ส่วนใหญ่ดำเนินการเพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและภัยแล้งในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อขาดแคลนน้ำมาก
กล่าวคือเป็นการลงทุนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มากที่สุด จำนวน 1,189 แห่ง วงเงินลงทุน 4,887 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 32.7 ของวงเงิน
ลงทุนรวม
สรุปแผนการปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำ ปีงบประมาณ 2552-2554 (ปรับใหม่) จำแนกรายภาค: กรมทรัพยากรน้ำ ความจุ
ภาค ปี 2552-2554 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 พื้นที่รับ ผู้ได้รับ
ประ ประโยชน์ เก็บกัก
โยชน์ (ครัว (ล้าน
จำนวน งบ ร้อยละ งบ งบ งบ (ล้านไร่) เรือน) ลบ.ม.)
(แห่ง) ประมาณ ประมาณ ประมาณ ประมาณ
(ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท) (ล้านบาท)
เหนือ 2,011 4,527 30.3 1,226 1,851 1,449 0.99 93,739 251.56
ตะวันออกเฉียง เหนือ 1,189 4,887 32.7 1,451 1,782 1,653 0.53 148,837 339.43
กลาง 846 3,815 25.5 1,379 1,132 1,304 0.49 88,507 216.45
ใต้ 2,506 1,713 11.47 421 671 622 0.18 28,479 27.57
รวมทั้งประเทศ 6,552 14,942 100 4,477 5,436 5,029 2.19 359,562 834.76
2.2.2 ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการลงทุนตามแผนฯ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์ตามแผนในปี 2554 จะสามารถเพิ่ม
ประสิทธิภาพของแหล่งน้ำเพื่อการใช้ประโยชน์ครอบคลุมพื้นที่ 2.19 ล้านไร่ ประชาชนรับประโยชน์ 359,562 ครัวเรือน โดยจะมีน้ำใช้ประโยชน์ใน
ฤดูแล้งเพื่อการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้นประมาณ 835 ล้าน ลบ.ม./ปี
2.3 ความเห็นของคณะกรรมการฯ
2.3.1 การปรับปรุงฟื้นฟูแหล่งน้ำแต่ละแห่งต้องให้ความสำคัญกับการเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำให้ได้มากที่สุดตามความเหมาะสม
ของสภาพแหล่งน้ำ โดยคำนึงถึงระบบนิเวศเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้ตลอดปี
2.3.2 ในการปฏิบัติตามแผน ต้องมีการบริหารจัดการร่วมกับจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชนในพื้นที่
โดยมีการวางแผนและวิธีการดำเนินการที่ครบถ้วน ครอบคลุมถึงการบริหารจัดการแหล่งรองรับดินจากการขุดลอกแหล่งน้ำ
2.3.3 เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ จึงจำเป็นต้องหาแหล่งเงินลงทุนอื่น ซึ่งอาจเป็นเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำในประเทศ
หรือต่างประเทศ เพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินการได้ในปี 2552 โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังร่วมกับสำนักงบประมาณรับไปดำเนินการหาแหล่ง
เงินลงทุนที่เหมาะสมต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--