คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน
ครั้งที่ 11 ช่วงวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัย
ขณะนี้ไม่มีรายงานพื้นที่ประสบอุทกภัย
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ (28 กรกฎาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 41,709 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 18,395 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2550 (44,771 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,062 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ยทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ วันนี้ 166.4 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง วันนี้จำนวน 13,998 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 37 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,339 และ 5,190 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 47 และ 55 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 11,529 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 4,879 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 294 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 291 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 3 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง และอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 16, 28 และ29 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ
(ล้าน ลบ.ม.)
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตร % ความจุ เฉลี่ย วันนี้ สะสมตั้งแต่
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ น้ำ อ่างฯ ทั้งปี 1 ม.ค. 51
ล้าน
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 41 16 27 10 186 0.5 41
2) กิ่วลม ลำปาง 31 28 27 24 578 0.6 81
3) บางพระ ชลบุรี 33 29 18 16 44 1.14 9
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อน ศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
การได้ (ล้าน ลบ.ม) น้ำรับได้
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตร % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสม อีก
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ น้ำ ล้าน ความจุ ปี ตั้งแต่
ลบ.ม. อ่างฯ ล้าน 1 ม.ค.
ลบ.ม. 51
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,181 80 3,916 22 4,339 8 1,283 3,564
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และสถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และสถานี Y.33 บ้านคลองตาล อำเภอ
ศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำน่าน สถานี N.64 บ้านผาขวาง และสถานี N.1 หน้าสำนักงานป่าไม้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์มาก แนวโน้มลดลง สถานี N.5A สะพานเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 813 ลบ.ม.ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 3 ลบ.ม.ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 575 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 32 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +9.70 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 200 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 147 ลบ.ม. ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 264.24 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 36 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 14 ลบ.ม.ต่อวินาที) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 38 ลบ.ม.ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม —23 กรกฎาคม 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 38 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 35 จังหวัด เกษตรกร 86,179 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 732,840 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว539,883 ไร่ พืชไร่ 169,999 ไร่ พืชสวน 22,958 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,987 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 35,407 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,954 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 1,784 ตัว สัตว์ปีก 26,669 ตัว
ด้านประมง 17 จังหวัด เกษตรกร 2,140 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 1,329 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 3,798 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 4,602 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 45,388 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,200 เครื่อง ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือไปแล้ว 10 จังหวัด จำนวน 83 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง น่าน 2 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง)
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่าง ๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (8 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา และหน่วยฯ อุบลราชธานี
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หมายเหตุ มีการปรับแผนปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยจัดตั้งหน่วยฯ อุบลราชธานี (เพิ่มเติม) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นมา เนื่องจากภาวะความแห้งแล้งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างด้านตะวันออก ขยายตัวเป็นบริเวณกว้างขึ้น ทำให้พื้นที่การเกษตรในบริเวณดังกล่าว มีความต้องการให้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 18-24 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 191 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 359 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-120.3 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 52 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-24 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 165 วัน 3,615 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 837 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--
ครั้งที่ 11 ช่วงวันที่ 22-28 กรกฎาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัย
ขณะนี้ไม่มีรายงานพื้นที่ประสบอุทกภัย
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ (28 กรกฎาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 41,709 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็นร้อยละ 61 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 18,395 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2550 (44,771 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 3,062 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ยทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ วันนี้ 166.4 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง วันนี้จำนวน 13,998 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 37 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,339 และ 5,190 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 47 และ 55 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน จำนวน 11,529 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 50 ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 4,879 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 21 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 294 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 31 ของความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 291 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 3 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัดเชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง และอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 16, 28 และ29 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ
(ล้าน ลบ.ม.)
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตร % ความจุ เฉลี่ย วันนี้ สะสมตั้งแต่
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ น้ำ อ่างฯ ทั้งปี 1 ม.ค. 51
ล้าน
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 41 16 27 10 186 0.5 41
2) กิ่วลม ลำปาง 31 28 27 24 578 0.6 81
3) บางพระ ชลบุรี 33 29 18 16 44 1.14 9
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อน ศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ปริมาณ
การได้ (ล้าน ลบ.ม) น้ำรับได้
ปริมาตรน้ำ % ความจุ ปริมาตร % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสม อีก
ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ น้ำ ล้าน ความจุ ปี ตั้งแต่
ลบ.ม. อ่างฯ ล้าน 1 ม.ค.
ลบ.ม. 51
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,181 80 3,916 22 4,339 8 1,283 3,564
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และสถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และสถานี Y.33 บ้านคลองตาล อำเภอ
ศรีสำโรง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำน่าน สถานี N.64 บ้านผาขวาง และสถานี N.1 หน้าสำนักงานป่าไม้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์มาก แนวโน้มลดลง สถานี N.5A สะพานเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 813 ลบ.ม.ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 3 ลบ.ม.ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 575 ลบ.ม.ต่อวินาที(ลดลงจากเมื่อวาน 32 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +9.70 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 200 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 147 ลบ.ม. ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน 264.24 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 36 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 14 ลบ.ม.ต่อวินาที) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 38 ลบ.ม.ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม —23 กรกฎาคม 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 38 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 35 จังหวัด เกษตรกร 86,179 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 732,840 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว539,883 ไร่ พืชไร่ 169,999 ไร่ พืชสวน 22,958 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,987 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 35,407 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,954 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 1,784 ตัว สัตว์ปีก 26,669 ตัว
ด้านประมง 17 จังหวัด เกษตรกร 2,140 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 1,329 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 3,798 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 4,602 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 45,388 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,200 เครื่อง ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือไปแล้ว 10 จังหวัด จำนวน 83 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 16 เครื่อง ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร 3 เครื่อง ชัยนาท 1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง น่าน 2 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง)
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่าง ๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (8 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา และหน่วยฯ อุบลราชธานี
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
หมายเหตุ มีการปรับแผนปฏิบัติการฝนหลวงของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง โดยจัดตั้งหน่วยฯ อุบลราชธานี (เพิ่มเติม) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2551 เป็นต้นมา เนื่องจากภาวะความแห้งแล้งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างด้านตะวันออก ขยายตัวเป็นบริเวณกว้างขึ้น ทำให้พื้นที่การเกษตรในบริเวณดังกล่าว มีความต้องการให้ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 18-24 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 191 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 359 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-120.3 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 52 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-24 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 165 วัน 3,615 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 837 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่ 69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 กรกฎาคม 2551--จบ--