คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอการเปิดสำนักงาน Regional Disaster Response Advisor (RDRA) ภายใต้สำนักงานของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย ตาม ข้อเสนอของสำนักงานเพื่อการประสานกิจกรรมด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Naitons Office for the Coordination of Humanitarian Affairs — OCHA) และกระทรวงการต่างประเทศจะได้นำเสนอร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับ OCHA ในการจัดตั้งสำนักงาน RDRA ที่กรุงเทพฯ ให้คณะรัฐมนตรีได้พิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ด้วยนาย Jan Egeland รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเรื่องสำนักงานเพื่อการประสานกิจกรรมด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Naitons Office for the Coordination of Humanitarian Affairs — OCHA) มีความประสงค์จะขอเปิดสำนักงาน Regional Disaster Response Advisor (RDRA) ที่กรุงเทพฯ ในต้นปี 2548 เพื่อดูแลกิจกรรมมนุษยธรรมในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยจะแบ่งภารกิจจากสำนักงาน RDRA ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันดูแลภารกิจการตอบสนองต่อเหตุภัยพิบัติทั่วทั้งเอเชีย ในการนี้ เห็นว่ากรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของหน่วยงานของสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ จำนวนมาก และมีที่ตั้งสะดวกต่อการประสานงานบรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ OCHA ได้ส่งผู้แทนมาหารือรายละเอียดเรื่องข้างต้นกับกระทรวงการต่างประเทศด้วยแล้ว โดยแจ้งว่าในเบื้องต้นสำนักงาน RDRA ดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ต่างชาติ 3 คน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 1-2 คน และให้อยู่ภายใต้สำนักงานของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย เป็นการชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีการจัดทำความตกลงกับรัฐบาลไทยต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้ว มีความเห็นดังนี้
1. การเปิดสำนักงาน RDRA ของ OCHA ที่กรุงเทพฯ สอดคล้องกับท่าทีของไทยในการสนับสนุนบทบาทของสหประชาชาติด้านมนุษยธรรมและการปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาค ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือในภูมิภาคเกี่ยวกับการจัดการเพื่อเตือนภัยล่วงหน้าในกรณีคลื่นยักษ์ ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2548 นอกจากนั้น ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์ที่ตั้ง (hub) ขององค์การระหว่างประเทศในภูมิภาค
2. การเปิดสำนักงาน RDRA ของ OCHA ภายใต้ UNDP ประจำประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยอุปโภคเอกสิทธิและความคุ้มกันภายใต้กรอบและความยินยอมของ UNDP สามารถทำได้ เนื่องจากจะจัดตั้งขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ โดยมีพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของอค์การสหประชาชาติและทบวงชำนัญพิเศษใน ประเทศไทย พ.ศ.2504 รองรับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ด้วยนาย Jan Egeland รองเลขาธิการสหประชาชาติด้านกิจการมนุษยธรรมและผู้ประสานงานการบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินได้มีหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งเรื่องสำนักงานเพื่อการประสานกิจกรรมด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Naitons Office for the Coordination of Humanitarian Affairs — OCHA) มีความประสงค์จะขอเปิดสำนักงาน Regional Disaster Response Advisor (RDRA) ที่กรุงเทพฯ ในต้นปี 2548 เพื่อดูแลกิจกรรมมนุษยธรรมในภูมิภาคเอเชียใต้ โดยจะแบ่งภารกิจจากสำนักงาน RDRA ที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันดูแลภารกิจการตอบสนองต่อเหตุภัยพิบัติทั่วทั้งเอเชีย ในการนี้ เห็นว่ากรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของหน่วยงานของสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่น ๆ จำนวนมาก และมีที่ตั้งสะดวกต่อการประสานงานบรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาคนี้ ทั้งนี้ OCHA ได้ส่งผู้แทนมาหารือรายละเอียดเรื่องข้างต้นกับกระทรวงการต่างประเทศด้วยแล้ว โดยแจ้งว่าในเบื้องต้นสำนักงาน RDRA ดังกล่าวจะมีเจ้าหน้าที่ต่างชาติ 3 คน และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 1-2 คน และให้อยู่ภายใต้สำนักงานของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ประจำประเทศไทย เป็นการชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะมีการจัดทำความตกลงกับรัฐบาลไทยต่อไป
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้ว มีความเห็นดังนี้
1. การเปิดสำนักงาน RDRA ของ OCHA ที่กรุงเทพฯ สอดคล้องกับท่าทีของไทยในการสนับสนุนบทบาทของสหประชาชาติด้านมนุษยธรรมและการปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาค ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงต่อที่ประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยความร่วมมือในภูมิภาคเกี่ยวกับการจัดการเพื่อเตือนภัยล่วงหน้าในกรณีคลื่นยักษ์ ที่จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2548 นอกจากนั้น ยังสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมให้กรุงเทพฯ เป็นศูนย์ที่ตั้ง (hub) ขององค์การระหว่างประเทศในภูมิภาค
2. การเปิดสำนักงาน RDRA ของ OCHA ภายใต้ UNDP ประจำประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยอุปโภคเอกสิทธิและความคุ้มกันภายใต้กรอบและความยินยอมของ UNDP สามารถทำได้ เนื่องจากจะจัดตั้งขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของสหประชาชาติ โดยมีพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของอค์การสหประชาชาติและทบวงชำนัญพิเศษใน ประเทศไทย พ.ศ.2504 รองรับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--