คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. 2542 พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกามีดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ร่างมาตรา 2)
2. กำหนดคำนิยามการแพทย์แผนจีนให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น (ร่างมาตรา 3)
3. กำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามมาตรา 5 (5) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ
พ.ศ. 2542 (ร่างมาตรา 4)
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนประกอบด้วยกรรมการวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ และกรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสามคน และกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 5)
5. กำหนดคุณสมบัติผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 11)
6. กำหนดให้บุคคลที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ทำการประกอบโรคศิลปะ โดยอาศัยความรู้แบบแพทย์แผนจีนตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนได้ แต่ต้องผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนกำหนด (ร่างมาตรา 12)
7. ในระยะเริ่มแรกที่ยังมิได้มีการรับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน มิให้นำมาใช้บังคับกับกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน จนกว่าจะได้มีการขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะในสาขาดังกล่าวแล้ว (ร่างมาตรา 13)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 สิงหาคม 2551--จบ--
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกามีดังนี้
1. กำหนดให้พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ร่างมาตรา 2)
2. กำหนดคำนิยามการแพทย์แผนจีนให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น (ร่างมาตรา 3)
3. กำหนดให้สาขาการแพทย์แผนจีนเป็นสาขาการประกอบโรคศิลปะตามมาตรา 5 (5) แห่งพระราชบัญญัติการประกอบโรคศิลปะ
พ.ศ. 2542 (ร่างมาตรา 4)
4. กำหนดให้มีคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนประกอบด้วยกรรมการวิชาชีพ ซึ่งเป็นผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ และกรรมการวิชาชีพซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิไม่เกินสามคน และกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 5)
5. กำหนดคุณสมบัติผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน (ร่างมาตรา 11)
6. กำหนดให้บุคคลที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ทำการประกอบโรคศิลปะ โดยอาศัยความรู้แบบแพทย์แผนจีนตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข มีสิทธิขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีนได้ แต่ต้องผ่านการประเมินตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนจีนกำหนด (ร่างมาตรา 12)
7. ในระยะเริ่มแรกที่ยังมิได้มีการรับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน มิให้นำมาใช้บังคับกับกรรมการวิชาชีพซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยผู้ประกอบศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน จนกว่าจะได้มีการขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะในสาขาดังกล่าวแล้ว (ร่างมาตรา 13)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 สิงหาคม 2551--จบ--