คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน ครั้งที่ 12 ช่วงวันที่ 29 กรกฎาคม -
4 สิงหาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัย
เนื่องจากเกิดร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วม
ในพื้นที่ 3 จังหวัด ดังนี้
1. จังหวัดเชียงราย เกิดน้ำล้นตลิ่งลำน้ำแม่สาย ทำให้ท่วมในเขตเทศบาลแม่สายและชุมชนบ้านสายลมจอย ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่
สภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2551
2. จังหวัดสกลนคร เกิดน้ำไหลหลากจากเทือกเขาภูพานเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มลำห้วยต่างๆ และไหลเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลเมือง
สกลนคร จำนวน 25 ชุมชน (จากทั้งหมด 37 ชุมชน)โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร และกองกำกับตำรวจทางหลวง ทางจังหวัดได้ประกาศ
เป็นภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว และได้ดำเนินการเร่งระบายน้ำลงสู่บึงหนองหาร เพื่อให้ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ อีกทั้งได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ
พร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ประจำที่ศูนย์ช่วยเหลือฯ และจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 เครื่อง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 2
สิงหาคม 2551
3. จังหวัดเพชรบูรณ์ ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรอำเภอหล่มสัก ตำบลห้วยไร่ ระดับน้ำสูง 0.50-
0.80 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 2-3 วัน ส่วนในเขตเทศบาลหล่มสัก และตำบลตาลเดี่ยว ระดับน้ำท่วมสูง
0.50 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในเย็นวันที่ 3 สิงหาคม 2551
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ (4 สิงหาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 42,243 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิด
เป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 18,821 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ)
น้อยกว่าปี 2550 (44,827 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 2,732 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเฉลี่ย
ทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯวันนี้ 219.2 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551
ถึง วันนี้ จำนวน 15,363 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,352 และ
5,493 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 47 และ 58 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน
จำนวน 11,845 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 51ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 5,195 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อย
ละ 22 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 264 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ
ปริมาตรน้ำใช้การได้ 261 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัด
เชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี และอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ
คิดเป็นร้อยละ 15, 28,27 และ 28 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ (ล้าน ลบ.ม.)
ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสมตั้งแต่
น้ำ อ่างฯ น้ำ ความจุ ปี 1 ม.ค. 51
ล้าน ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 40 15 26 10 186 0.1 43
2) กิ่วลม ลำปาง 31 28 27 24 578 2 87
3) ป่าสักฯ ลพบุรี 264 27 261 27 2,200 12.3 576
3) บางพระ ชลบุรี 33 28 18 16 44 0.08 9
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มี
ปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ (ล้านลบ.ม) ปริมาณน้ำรับได้อีก
ปริมาตรน้ำ % ปริมาตรน้ำ % เฉลี่ยทั้งปี วันนี้ สะสมตั้งแต่
ล้าน ลบ.ม. ความจุ ล้าน ลบ.ม. ความจุ ล้าน ลบ.ม. . 1 ม.ค.51
อ่างฯ อ่างฯ
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,265 80 4,000 23 4,339 20.9 1,436 3,480
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น และ
สถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานี Y.4 สะพาน
ตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย
ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำน่าน สถานี N.64 บ้านผาขวาง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง สถานี N.1 หน้าสำนักงาน
ป่าไม้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานี N.5A สะพานเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำ
อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย
จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 629 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 10 ลบ.ม.ต่อวินาที)
ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 380 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 16 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา
+16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +8.80 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 188 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจาก
เมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 156 ลบ.ม. ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน
223 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ปัจจุบันได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ที่สะพานวัดสำโรง-ลานตากฟ้า จำนวน 20 เครื่อง พร้อมผลักดันใน
ช่วงน้ำมาก
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 186 ลบ.ม.ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 38 ลบ.ม.ต่อวินาที) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำ
ไหลผ่าน 188 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม —23 กรกฎาคม 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 41 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาค
ตะวันออก 8 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 38 จังหวัด เกษตรกร 98,897 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 803,380 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 588,072 ไร่ พืชไร่ 190,861
ไร่ พืชสวน 24,447 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,987 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 35,407 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,954 ตัว สุกร-แพะ-แกะ
1,784 ตัว สัตว์ปีก 26,669 ตัว
ด้านประมง 20 จังหวัด เกษตรกร 2,343 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 1,482 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 3,876 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 4,535
กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 70,605 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,200 เครื่อง
ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือไปแล้ว 12 จังหวัด จำนวน 86 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 36 เครื่อง ดังนี้ กำแพงเพชร 3 เครื่อง ชัยนาท
1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง น่าน 2 เครื่อง
นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง) สกลนคร 3 เครื่อง นครปฐม
เครื่องผลักดันน้ำ 20 เครื่อง
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อ
ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มี
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (8 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา และหน่วยฯ อุบลราชธานี
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 25-31 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 172 เที่ยวบิน มีฝนตกวัด
ปริมาณน้ำฝนได้ 321 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-118.2 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 52 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 173 วัน
3,787 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 837 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่
69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 สิงหาคม 2551--จบ--
4 สิงหาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัย
เนื่องจากเกิดร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้เกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วม
ในพื้นที่ 3 จังหวัด ดังนี้
1. จังหวัดเชียงราย เกิดน้ำล้นตลิ่งลำน้ำแม่สาย ทำให้ท่วมในเขตเทศบาลแม่สายและชุมชนบ้านสายลมจอย ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่
สภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2551
2. จังหวัดสกลนคร เกิดน้ำไหลหลากจากเทือกเขาภูพานเข้าท่วมพื้นที่ราบลุ่มลำห้วยต่างๆ และไหลเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลเมือง
สกลนคร จำนวน 25 ชุมชน (จากทั้งหมด 37 ชุมชน)โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร และกองกำกับตำรวจทางหลวง ทางจังหวัดได้ประกาศ
เป็นภัยพิบัติฉุกเฉินแล้ว และได้ดำเนินการเร่งระบายน้ำลงสู่บึงหนองหาร เพื่อให้ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ อีกทั้งได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือฯ
พร้อมทั้งจัดส่งเจ้าหน้าที่ประจำที่ศูนย์ช่วยเหลือฯ และจัดเตรียมเครื่องสูบน้ำจำนวน 3 เครื่อง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 2
สิงหาคม 2551
3. จังหวัดเพชรบูรณ์ ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักสูงขึ้นล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่การเกษตรอำเภอหล่มสัก ตำบลห้วยไร่ ระดับน้ำสูง 0.50-
0.80 เมตร หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายใน 2-3 วัน ส่วนในเขตเทศบาลหล่มสัก และตำบลตาลเดี่ยว ระดับน้ำท่วมสูง
0.50 เมตร แนวโน้มระดับน้ำทรงตัว หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มคาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติภายในเย็นวันที่ 3 สิงหาคม 2551
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ (4 สิงหาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 42,243 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิด
เป็นร้อยละ 62 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 18,821 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ)
น้อยกว่าปี 2550 (44,827 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 2,732 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่างฯ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯเฉลี่ย
ทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯวันนี้ 219.2 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551
ถึง วันนี้ จำนวน 15,363 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 40 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก และอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 6,352 และ
5,493 ล้านลูกบาศก์เมตรตามลำดับ หรือคิดเป็นร้อยละ 47 และ 58 ของความจุอ่างฯทั้งหมด ตามลำดับ โดยมีปริมาตรน้ำทั้งสองอ่างฯ รวมกัน
จำนวน 11,845 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 51ของความจุอ่างฯ ทั้งสอง ปริมาตรน้ำใช้การได้รวม 5,195 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อย
ละ 22 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 264 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ
ปริมาตรน้ำใช้การได้ 261 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 27 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ จำนวน 4 อ่างฯ คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จังหวัด
เชียงใหม่ อ่างเก็บน้ำกิ่วลม จังหวัดลำปาง อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี และอ่างเก็บน้ำบางพระ จังหวัดชลบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ
คิดเป็นร้อยละ 15, 28,27 และ 28 ของความจุอ่างฯ ตามลำดับ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ (ล้าน ลบ.ม.)
ปริมาตร % ความจุ ปริมาตร % เฉลี่ยทั้ง วันนี้ สะสมตั้งแต่
น้ำ อ่างฯ น้ำ ความจุ ปี 1 ม.ค. 51
ล้าน ล้าน ลบ.ม. อ่างฯ
ลบ.ม.
1) แม่กวงฯ เชียงใหม่ 40 15 26 10 186 0.1 43
2) กิ่วลม ลำปาง 31 28 27 24 578 2 87
3) ป่าสักฯ ลพบุรี 264 27 261 27 2,200 12.3 576
3) บางพระ ชลบุรี 33 28 18 16 44 0.08 9
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 1 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี มี
ปริมาตรน้ำในอ่างฯ คิดเป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ
อ่างเก็บน้ำ จังหวัด ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ (ล้านลบ.ม) ปริมาณน้ำรับได้อีก
ปริมาตรน้ำ % ปริมาตรน้ำ % เฉลี่ยทั้งปี วันนี้ สะสมตั้งแต่
ล้าน ลบ.ม. ความจุ ล้าน ลบ.ม. ความจุ ล้าน ลบ.ม. . 1 ม.ค.51
อ่างฯ อ่างฯ
1) ศรีนครินทร์ กาญจนบุรี 14,265 80 4,000 23 4,339 20.9 1,436 3,480
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น และ
สถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำยม สถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานี Y.4 สะพาน
ตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดสุโขทัย
ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำน่าน สถานี N.64 บ้านผาขวาง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง สถานี N.1 หน้าสำนักงาน
ป่าไม้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น สถานี N.5A สะพานเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำ
อยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง และสถานี N.67 สะพานบ้านเกยไชย อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำชี สถานี K91 บ้านหนองขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม และสถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย
จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มเพิ่มขึ้น
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 629 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 10 ลบ.ม.ต่อวินาที)
ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 380 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 16 ลบ.ม.ต่อวินาที) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา
+16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา +8.80 เมตร.(รทก.) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 188 ลบ.ม. ต่อวินาที (ลดลงจาก
เมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที) รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 156 ลบ.ม. ต่อวินาที (เท่ากับเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม. ต่อวินาที) ปริมาณน้ำไหลผ่าน
223 ลบ.ม. ต่อวินาที ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ปัจจุบันได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ที่สะพานวัดสำโรง-ลานตากฟ้า จำนวน 20 เครื่อง พร้อมผลักดันใน
ช่วงน้ำมาก
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปริมาณน้ำระบาย 186 ลบ.ม.ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน 38 ลบ.ม.ต่อวินาที) เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำ
ไหลผ่าน 188 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน 1 ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร ช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม —23 กรกฎาคม 2551
อุทกภัย พื้นที่ประสบภัยรวม 41 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 12 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ภาคกลาง 5 จังหวัด ภาค
ตะวันออก 8 จังหวัด ภาคตะวันตก 4 จังหวัด และภาคใต้ 3 จังหวัด
ด้านพืช 38 จังหวัด เกษตรกร 98,897 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 803,380 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 588,072 ไร่ พืชไร่ 190,861
ไร่ พืชสวน 24,447 ไร่
ด้านปศุสัตว์ 7 จังหวัด เกษตรกร 1,987 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 35,407 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 6,954 ตัว สุกร-แพะ-แกะ
1,784 ตัว สัตว์ปีก 26,669 ตัว
ด้านประมง 20 จังหวัด เกษตรกร 2,343 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 1,482 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 3,876 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 4,535
กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 70,605 ตารางเมตร
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,200 เครื่อง
ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือไปแล้ว 12 จังหวัด จำนวน 86 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 36 เครื่อง ดังนี้ กำแพงเพชร 3 เครื่อง ชัยนาท
1 เครื่อง อุทัยธานี 3 เครื่อง ลพบุรี 2 เครื่อง สิงห์บุรี 4 เครื่อง พระนครศรีอยุธยา 1 เครื่อง อ่างทอง 37 เครื่อง น่าน 2 เครื่อง
นครราชสีมา 4 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 9 เครื่อง) สุพรรณบุรี 26 เครื่อง (เครื่องผลักดันน้ำ 7 เครื่อง) สกลนคร 3 เครื่อง นครปฐม
เครื่องผลักดันน้ำ 20 เครื่อง
2. การปฏิบัติการฝนหลวง
สำนักฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เริ่มตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2551 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา เพื่อ
ปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ในภาคต่างๆ รวมทั้งช่วยลดปริมาณการใช้น้ำจากเขื่อนต่างๆ ซึ่งขณะนี้มี
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้งหมด จำนวน 7 ศูนย์ (8 หน่วยปฏิบัติการ และ 2 ฐานเติมสารฝนหลวง) ดังนี้
1) ภาคเหนือตอนบน หน่วยฯ เชียงใหม่
2) ภาคเหนือตอนล่าง หน่วยฯ พิษณุโลก
3) ภาคกลาง หน่วยฯ ลพบุรี และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์
4) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน หน่วยฯ ขอนแก่น
5) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง หน่วยฯ นครราชสีมา และหน่วยฯ อุบลราชธานี
6) ภาคตะวันออก หน่วยฯ สระแก้ว และฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดระยอง
7) ภาคใต้ตอนบน หน่วยฯ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงในรอบสัปดาห์ (ช่วงวันที่ 25-31 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการจำนวน 7 วัน 172 เที่ยวบิน มีฝนตกวัด
ปริมาณน้ำฝนได้ 321 สถานี ปริมาณน้ำฝน 0.1-118.2 มิลลิเมตร ในพื้นที่ 52 จังหวัด
ผลการปฏิบัติการฝนหลวงสะสม ตั้งแต่ตั้งหน่วยฯ (ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.-31 ก.ค. 2551) ขึ้นบินปฏิบัติการรวม จำนวน 173 วัน
3,787 เที่ยวบิน มีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 837 สถานี (จากสถานีวัดฝนรวมทั้งหมด 1,149 สถานี) ปริมาณน้ำฝน 0.1-221.9 มิลลิเมตรในพื้นที่
69 จังหวัด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 สิงหาคม 2551--จบ--