คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย โดย
ประสานการปฏิบัติงานกับจังหวัดที่มีสภาวะฝนตกหนัก และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในช่วงสัปดาห์
ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สรุปการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน
(ข้อมูลถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2551) ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม-1 สิงหาคม 2551)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 22 จังหวัด 152 อำเภอ 759 ตำบล 4,600 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี
เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แม่ฮ่องสอน พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สุพรรณบุรี จันทบุรี นครราชสีมา หนองคาย
อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา
พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย
ที่ ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด ครัวเรือน คน
1 เหนือ 9 67 286 1,001 น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี 63,012 257,499
เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน
ลำปาง พะเยา แม่ฮ่องสอน
2 ตะวันออก 5 53 324 2,843 นครราชสีมา หนองคาย 250,105 1,036,066
เฉียงเหนือ อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ
3 กลาง 4 18 98 467 พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง 15,444 56,390
ชัยนาท สุพรรณบุรี
4 ตะวันออก 1 2 2 2 จันทบุรี - -
5 ใต้ 3 12 49 287 สุราษฎร์ธานี ชุมพร พังงา 9,222 29,436
รวมทั้งประเทศ 22 152 759 4,600 337,783 1,379,391
1.2 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 1,379,391 คน 337,783 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 10 หลัง บางส่วน 123 หลัง ถนน 1,950 สาย สะพาน 134 แห่ง ฝาย 206 แห่ง ท่อระบายน้ำ 195 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ทำนบกั้นน้ำ 14 แห่ง เหมือง 8 แห่ง พนังกั้นน้ำ 4 แห่ง ยานยนต์ 1 คัน บ่อปลา 1,324 บ่อ ปศุสัตว์ 346 ตัว สัตว์ปีก 11,742 ตัว พื้นที่การเกษตร ถูกน้ำท่วม 470,265 ไร่
1.3 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 383,274,826 บาท
1.4 สถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายทุกพื้นที่แล้ว โดยจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 แล้ว
อนึ่ง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2551 ได้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร น้ำป่าจากเทือกเขาภูพานไหลหลากเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนหน้าค่าย ชุมชนหน้าเทศบาล และชุมชนหนองสนม ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2551 และจังหวัดเชียงราย ระดับน้ำในแม่น้ำแม่สายเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ตำบลเวียงพางคำ (หมู่ที่ 1) และตำบลแม่สาย (หมู่ที่ 7) อำเภอแม่สาย ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2551 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนครและจังหวัดเชียงราย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งระบายน้ำและระดับน้ำได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายเพี่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง (งบ 50 ล้านบาท) ต่อไป
1.5 การให้ความช่วยเหลือ จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ใช้จ่ายงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือไปแล้ว จำนวน 260,497,910.54 บาท แยกเป็น
1) เงินทดรองราชการฯ ของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 233,574,135.54 บาท
2) งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเงิน 26,923,775.00 บาท
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 3 - 9 สิงหาคม 2551
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตลอดสัปดาห์ ในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค.2551 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค. 2551 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นตลอดช่วงโดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนมากในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค.2551 จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิเช่น จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สกลนคร อุดรธานี และกาฬสินธุ์ ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค. 2551 ขอให้ชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยขอให้ระวังอันตรายในการเดินเรือ
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณ ที่ราบลุ่ม ริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และ ดินถล่มในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 สิงหาคม 2551--จบ--
ประสานการปฏิบัติงานกับจังหวัดที่มีสภาวะฝนตกหนัก และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในช่วงสัปดาห์
ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สรุปการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย และสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน
(ข้อมูลถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2551) ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 10 พฤษภาคม-1 สิงหาคม 2551)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 22 จังหวัด 152 อำเภอ 759 ตำบล 4,600 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดน่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี
เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา แม่ฮ่องสอน พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท สุพรรณบุรี จันทบุรี นครราชสีมา หนองคาย
อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ สุราษฎร์ธานี ชุมพร และจังหวัดพังงา
พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย
ที่ ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด ครัวเรือน คน
1 เหนือ 9 67 286 1,001 น่าน กำแพงเพชร อุทัยธานี 63,012 257,499
เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน
ลำปาง พะเยา แม่ฮ่องสอน
2 ตะวันออก 5 53 324 2,843 นครราชสีมา หนองคาย 250,105 1,036,066
เฉียงเหนือ อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ
3 กลาง 4 18 98 467 พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง 15,444 56,390
ชัยนาท สุพรรณบุรี
4 ตะวันออก 1 2 2 2 จันทบุรี - -
5 ใต้ 3 12 49 287 สุราษฎร์ธานี ชุมพร พังงา 9,222 29,436
รวมทั้งประเทศ 22 152 759 4,600 337,783 1,379,391
1.2 ความเสียหาย
1) ราษฎรเดือดร้อน 1,379,391 คน 337,783 ครัวเรือน
2) ด้านทรัพย์สิน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 10 หลัง บางส่วน 123 หลัง ถนน 1,950 สาย สะพาน 134 แห่ง ฝาย 206 แห่ง ท่อระบายน้ำ 195 แห่ง อ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ทำนบกั้นน้ำ 14 แห่ง เหมือง 8 แห่ง พนังกั้นน้ำ 4 แห่ง ยานยนต์ 1 คัน บ่อปลา 1,324 บ่อ ปศุสัตว์ 346 ตัว สัตว์ปีก 11,742 ตัว พื้นที่การเกษตร ถูกน้ำท่วม 470,265 ไร่
1.3 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 383,274,826 บาท
1.4 สถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยได้คลี่คลายทุกพื้นที่แล้ว โดยจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 แล้ว
อนึ่ง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2551 ได้เกิดฝนตกหนักและมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสกลนคร น้ำป่าจากเทือกเขาภูพานไหลหลากเข้าท่วมในเขตเทศบาลเมืองฯ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนหน้าค่าย ชุมชนหน้าเทศบาล และชุมชนหนองสนม ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2551 และจังหวัดเชียงราย ระดับน้ำในแม่น้ำแม่สายเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ตำบลเวียงพางคำ (หมู่ที่ 1) และตำบลแม่สาย (หมู่ที่ 7) อำเภอแม่สาย ระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้วเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2551 สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสกลนครและจังหวัดเชียงราย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เร่งระบายน้ำและระดับน้ำได้เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายเพี่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง (งบ 50 ล้านบาท) ต่อไป
1.5 การให้ความช่วยเหลือ จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ใช้จ่ายงบประมาณเพื่อให้ความช่วยเหลือไปแล้ว จำนวน 260,497,910.54 บาท แยกเป็น
1) เงินทดรองราชการฯ ของจังหวัด (งบ 50 ล้านบาท) เป็นเงิน 233,574,135.54 บาท
2) งบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเงิน 26,923,775.00 บาท
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 3 - 9 สิงหาคม 2551
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่า ร่องความกดอากาศต่ำกำลังค่อนข้างแรงจะพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตลอดสัปดาห์ ในช่วงวันที่ 3-4 ส.ค.2551 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค. 2551 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่นตลอดช่วงโดยมีฝนตกหนักบางพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนมากในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค.2551 จึงขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาทิเช่น จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ สกลนคร อุดรธานี และกาฬสินธุ์ ระวังอันตรายจากสภาวะฝนตกหนักที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ส่วนในช่วงวันที่ 5-9 ส.ค. 2551 ขอให้ชาวเรือในทะเลอันดามันและอ่าวไทยขอให้ระวังอันตรายในการเดินเรือ
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ และภาคตะวันออก เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มจากสภาวะฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้น โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และจังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณ ที่ราบลุ่ม ริมน้ำ ที่ลาดเชิงเขา และพื้นที่เสี่ยงภัย ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และ ดินถล่มในระยะนี้ และให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 5 สิงหาคม 2551--จบ--