คณะรัฐมนตรีอนุมัติขยายระยะเวลาโครงการช่วยเหลือราคาน้ำมันให้ชาวประมงออกไปอีก 3 เดือน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยระยะเวลาการช่วยเหลือชดเชยราคาน้ำมันขยายตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2548 — 7 มกราคม 2549 ระยะเวลาโครงการขยายตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2548 — 7 กุมภาพันธ์ 2549 โดยใช้ภายในวงเงินที่เคยอนุมัติไว้เดิม (240 ล้านบาท) และหากไม่เพียงพอจะพิจารณาอนุมัติงบประมาณจากกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรเพิ่มตามความจำเป็น
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 5 เมษายน 2548 เกี่ยวกับการชดเชยราคาน้ำมันให้ชาวประมงในราคาลิตรละ 1 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน และอนุมัติเงินกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อดำเนินการชดเชยราคาน้ำมันเป็นระยะเวลา 7 เดือน วงเงิน 240 ล้านบาท นั้น การดำเนินการโครงการช่วยเหลือราคาน้ำมันให้ชาวประมงตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน — 20 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินการ ดังนี้
1. จำนวนเรือที่เข้าร่วมโครงการ 13,066 ลำ และสถานีบริการน้ำมัน 155 ปั๊ม
2. ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการติดตามกำกับดูแลการจำหน่ายน้ำมันให้ชาวประมงระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีชาวประมงเข้ามามีส่วนร่วมในองค์ประกอบคณะกรรมการดังกล่าว
3. การเปลี่ยนแปลงราคาสัตว์น้ำระหว่างสัปดาห์ที่ 1 ของเดือนเมษายน และสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน 2548
- สัตว์น้ำจากเรือประมงอวนลากเพิ่มร้อยละ 17.61 (ไม่รวมปลาเป็ด)
- สัตว์น้ำจากเรือประมงอวนล้อมเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.63
- สัตว์น้ำจากเรือประมงพื้นบ้านเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.88
- สัตว์น้ำจากปลาเป็ดลดลงร้อยละ 7.14
4. น้ำมันที่สั่งเข้ามาเพื่อจำหน่าย ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2548 จำนวน 65,821 ล้านลิตร
สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือความเดือดร้อนของชาวประมง เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสรุป ดังนี้
1. กรณีน้ำมันม่วง ขอให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันม่วงไม่เกินลิตรละ 16.19 บาท/ลิตร กรณีไม่สามารถตรึงราคาน้ำมันม่วงได้ขอให้รัฐบาลขยายเวลาการช่วยเหลือน้ำมันให้ชาวประมงมีส่วนต่างจากน้ำมันบนฝั่งที่ลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 — 6 เดือน
2. กรณีราคาสัตว์น้ำขอให้รัฐบาลนำเงินชดเชยในส่วนต่างของราคาปลาเป็ด — ปลาไก่ให้มีราคาขั้นต่ำ 7 บาทต่อกิโลกรัม
3. ขอให้รัฐบาล “ ทบทวนการนำกองทุนพัฒนาประมงซึ่งเป็นมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2539 ” โดยมีวงเงินทุนตั้งต้นที่ประมาณ 2,550 ล้านบาท กลับขึ้นมาใช้อย่างเป็นธรรม
4. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดตั้ง “สหกรณ์น้ำมันประมงแห่งประเทศไทย” เพื่อให้มีการร่วมกลุ่มกันจัดซื้อน้ำมันจากผู้ค้า
5. ขอให้รัฐบาลเร่งศึกษา “พลังงานทดแทนเพื่อทางเลือกใหม่ให้กับเรือประมงในการใช้ก๊าซ NGV”
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเนวิน ชิดชอบ) ได้เชิญผู้แทนชาวประมงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมปรึกษาหาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งสรุปได้ ดังนี้
1. น้ำมันม่วง : เนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นและราคาสัตว์น้ำขึ้นไม่เป็นสัดส่วนกับราคาน้ำมัน ให้กรมประมงขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเพื่อขยายเวลาการดำเนินโครงการช่วยเหลือราคาน้ำมันให้ชาวประมง (น้ำมันม่วง) เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 3 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2548 — 7 มกราคม 2549) ภายใต้วงเงินเดิม (240 ล้านบาท)
2. การใช้ก๊าซ NGV กับเรือประมง : ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง และองค์การสะพานปลา) กระทรวงพลังงาน และสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ดำเนินการศึกษา
1) ความเป็นไปได้ในการใช้ก๊าซ NGV กับการทำการประมง
2) ความเป็นไปได้ในการตั้งสถานีบริการก๊าซ NGV ให้แก่เรือประมง
3) ความเป็นไปได้ในการจัดหา Soft — Loan ให้แก่ชาวประมงในการเปลี่ยนแปลง
3. สหกรณ์ประมง : ชาวประมงดำเนินการรวมตัวเป็นสหกรณ์ประมง เพื่อทำหน้าที่ในการซื้อขายสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิตต่าง ๆ อาทิเช่น น้ำมัน โดยเงินทุนให้ดำเนินการกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมสหกรณ์ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (องค์การสะพานปลา กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมประมง) และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ดำเนินการหารือแนวทางความเป็นไปได้ในการดำเนินการรวบรวม กระจายสินค้า (Logistic)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 5 เมษายน 2548 เกี่ยวกับการชดเชยราคาน้ำมันให้ชาวประมงในราคาลิตรละ 1 บาท เป็นระยะเวลา 3 เดือน และอนุมัติเงินกองทุนช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อดำเนินการชดเชยราคาน้ำมันเป็นระยะเวลา 7 เดือน วงเงิน 240 ล้านบาท นั้น การดำเนินการโครงการช่วยเหลือราคาน้ำมันให้ชาวประมงตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน — 20 มิถุนายน 2548 มีผลการดำเนินการ ดังนี้
1. จำนวนเรือที่เข้าร่วมโครงการ 13,066 ลำ และสถานีบริการน้ำมัน 155 ปั๊ม
2. ดำเนินการจัดตั้งคณะกรรมการติดตามกำกับดูแลการจำหน่ายน้ำมันให้ชาวประมงระดับจังหวัด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และมีชาวประมงเข้ามามีส่วนร่วมในองค์ประกอบคณะกรรมการดังกล่าว
3. การเปลี่ยนแปลงราคาสัตว์น้ำระหว่างสัปดาห์ที่ 1 ของเดือนเมษายน และสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน 2548
- สัตว์น้ำจากเรือประมงอวนลากเพิ่มร้อยละ 17.61 (ไม่รวมปลาเป็ด)
- สัตว์น้ำจากเรือประมงอวนล้อมเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.63
- สัตว์น้ำจากเรือประมงพื้นบ้านเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.88
- สัตว์น้ำจากปลาเป็ดลดลงร้อยละ 7.14
4. น้ำมันที่สั่งเข้ามาเพื่อจำหน่าย ณ วันที่ 17 มิถุนายน 2548 จำนวน 65,821 ล้านลิตร
สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอให้รัฐบาลช่วยเหลือความเดือดร้อนของชาวประมง เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยสรุป ดังนี้
1. กรณีน้ำมันม่วง ขอให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันม่วงไม่เกินลิตรละ 16.19 บาท/ลิตร กรณีไม่สามารถตรึงราคาน้ำมันม่วงได้ขอให้รัฐบาลขยายเวลาการช่วยเหลือน้ำมันให้ชาวประมงมีส่วนต่างจากน้ำมันบนฝั่งที่ลิตรละ 3 บาท เป็นเวลา 3 — 6 เดือน
2. กรณีราคาสัตว์น้ำขอให้รัฐบาลนำเงินชดเชยในส่วนต่างของราคาปลาเป็ด — ปลาไก่ให้มีราคาขั้นต่ำ 7 บาทต่อกิโลกรัม
3. ขอให้รัฐบาล “ ทบทวนการนำกองทุนพัฒนาประมงซึ่งเป็นมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2539 ” โดยมีวงเงินทุนตั้งต้นที่ประมาณ 2,550 ล้านบาท กลับขึ้นมาใช้อย่างเป็นธรรม
4. ขอให้รัฐบาลสนับสนุนการจัดตั้ง “สหกรณ์น้ำมันประมงแห่งประเทศไทย” เพื่อให้มีการร่วมกลุ่มกันจัดซื้อน้ำมันจากผู้ค้า
5. ขอให้รัฐบาลเร่งศึกษา “พลังงานทดแทนเพื่อทางเลือกใหม่ให้กับเรือประมงในการใช้ก๊าซ NGV”
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายเนวิน ชิดชอบ) ได้เชิญผู้แทนชาวประมงและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาร่วมปรึกษาหาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งสรุปได้ ดังนี้
1. น้ำมันม่วง : เนื่องจากราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้นและราคาสัตว์น้ำขึ้นไม่เป็นสัดส่วนกับราคาน้ำมัน ให้กรมประมงขออนุมัติคณะรัฐมนตรีเพื่อขยายเวลาการดำเนินโครงการช่วยเหลือราคาน้ำมันให้ชาวประมง (น้ำมันม่วง) เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 3 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2548 — 7 มกราคม 2549) ภายใต้วงเงินเดิม (240 ล้านบาท)
2. การใช้ก๊าซ NGV กับเรือประมง : ให้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง และองค์การสะพานปลา) กระทรวงพลังงาน และสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ดำเนินการศึกษา
1) ความเป็นไปได้ในการใช้ก๊าซ NGV กับการทำการประมง
2) ความเป็นไปได้ในการตั้งสถานีบริการก๊าซ NGV ให้แก่เรือประมง
3) ความเป็นไปได้ในการจัดหา Soft — Loan ให้แก่ชาวประมงในการเปลี่ยนแปลง
3. สหกรณ์ประมง : ชาวประมงดำเนินการรวมตัวเป็นสหกรณ์ประมง เพื่อทำหน้าที่ในการซื้อขายสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิตต่าง ๆ อาทิเช่น น้ำมัน โดยเงินทุนให้ดำเนินการกู้ยืมจากกองทุนส่งเสริมสหกรณ์ โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (องค์การสะพานปลา กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมประมง) และสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ดำเนินการหารือแนวทางความเป็นไปได้ในการดำเนินการรวบรวม กระจายสินค้า (Logistic)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--