เรื่อง รายงานการส่งออก-นำเข้าสินค้าระหว่างไทย-จีน (1 ต.ค.46-31 ส.ค.48)
ไทย-อินเดีย (1 ก.ย.47-31 ส.ค.48) และไทย-ออสเตรเลีย (1 ม.ค.48-31 ส.ค.48)
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการส่งออก-นำเข้าสินค้าระหว่างไทย-จีน (1 ต.ค.46-31 ส.ค.48) ไทย-อินเดีย (1 ก.ย.47-31 ส.ค.48) และไทย-ออสเตรเลีย (1 ม.ค.48-31 ส.ค.48) สรุปได้ดังนี้
1. การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าสำหรับสินค้าส่งออกไปยังประเทศที่มีข้อตกลงฯ FTA ดังกล่าว ตั้งแต่ 1 ต.ค.46-31 ส.ค.48 รวมทั้งสิ้น 44,580 ฉบับ มูลค่า 2,174.18 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 86,344.16 ล้านบาท
2. การส่งออก-นำเข้าสินค้าตามข้อมูลสถิติกรมศุลกากร
ตั้งแต่ ต.ค.46-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ FTA ไปยังประเทศจีน อินเดีย และออสเตรเลีย รวมมูลค่า 4,189.73 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 168,407.35 ล้านบาท และนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ รวมมูลค่า 3,936.78 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 159,149.47 ล้านบาท แยกได้ดังนี้
2.1 ไทย-จีน
ตั้งแต่ ต.ค.46-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 1,915.49 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 78,332.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 48 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้น ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 1,551.13 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 64,367.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 31 สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักร
ตั้งแต่ ต.ค.46-ส.ค.48 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจีน จำนวน 364.36 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 13,964.80 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน (ต.ค.45-ส.ค.47) ได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 222
2.2 ไทย-อินเดีย
ตั้งแต่ ก.ย.47-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ (จำนวน 82 รายการ) มูลค่า 256.69 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 10,256.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 126 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์สี ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 66.61 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 2,669.68 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12 สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ กระปุกเกียร์
ตั้งแต่ ก.ย.47-ส.ค.48 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับอินเดีย จำนวน 190.08 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 7,587.01 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 399
2.3 ไทย-ออสเตรเลีย
ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ (จำนวน 5,505 รายการ) มูลค่า 2,0175.55 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 79,818.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 2,319.04 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 92,112.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 70 เนื่องจากได้มีการนำเข้าทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปและน้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันที่ได้จากแร่บิทูมินัสเพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค.48 ไทยขาดดุลการค้ากับออสเตรเลีย จำนวน 301.49 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 12,293.93 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนซึ่งได้ดุลการค้า 221.39 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 8,410.63 ล้านบาทขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 246 เนื่องจากมีการนำเข้าทองคำฯ เป็นมูลค่า 27,643.81 ล้านบาท และน้ำมันฯ มูลค่า 15,262.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 30 และ 17 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดอย่างไรก็ตามหากหักมูลค่าการส่งออกและนำเข้า ทองคำฯ และน้ำมันฯ แล้วไทยจะได้ดุลการค้าจำนวน 28,937.68 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนซึ่งได้ดุลการค้าจำนวน 18,181.65 ล้านบาทได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 59
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 ตุลาคม 2548--จบ--
ไทย-อินเดีย (1 ก.ย.47-31 ส.ค.48) และไทย-ออสเตรเลีย (1 ม.ค.48-31 ส.ค.48)
คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานการส่งออก-นำเข้าสินค้าระหว่างไทย-จีน (1 ต.ค.46-31 ส.ค.48) ไทย-อินเดีย (1 ก.ย.47-31 ส.ค.48) และไทย-ออสเตรเลีย (1 ม.ค.48-31 ส.ค.48) สรุปได้ดังนี้
1. การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าสำหรับสินค้าส่งออกไปยังประเทศที่มีข้อตกลงฯ FTA ดังกล่าว ตั้งแต่ 1 ต.ค.46-31 ส.ค.48 รวมทั้งสิ้น 44,580 ฉบับ มูลค่า 2,174.18 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 86,344.16 ล้านบาท
2. การส่งออก-นำเข้าสินค้าตามข้อมูลสถิติกรมศุลกากร
ตั้งแต่ ต.ค.46-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ FTA ไปยังประเทศจีน อินเดีย และออสเตรเลีย รวมมูลค่า 4,189.73 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 168,407.35 ล้านบาท และนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ รวมมูลค่า 3,936.78 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 159,149.47 ล้านบาท แยกได้ดังนี้
2.1 ไทย-จีน
ตั้งแต่ ต.ค.46-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 1,915.49 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 78,332.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 48 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้น ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 1,551.13 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 64,367.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 31 สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ส่วนประกอบและอุปกรณ์เครื่องจักร
ตั้งแต่ ต.ค.46-ส.ค.48 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าจีน จำนวน 364.36 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 13,964.80 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน (ต.ค.45-ส.ค.47) ได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 222
2.2 ไทย-อินเดีย
ตั้งแต่ ก.ย.47-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ (จำนวน 82 รายการ) มูลค่า 256.69 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 10,256.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 126 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์สี ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 66.61 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 2,669.68 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 12 สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ กระปุกเกียร์
ตั้งแต่ ก.ย.47-ส.ค.48 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับอินเดีย จำนวน 190.08 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 7,587.01 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 399
2.3 ไทย-ออสเตรเลีย
ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค.48 ไทยส่งออกสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ (จำนวน 5,505 รายการ) มูลค่า 2,0175.55 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 79,818.66 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 28 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าภายใต้ข้อตกลงฯ มูลค่า 2,319.04 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 92,112.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 70 เนื่องจากได้มีการนำเข้าทองคำยังไม่ได้ขึ้นรูปและน้ำมันปิโตรเลียมดิบและน้ำมันที่ได้จากแร่บิทูมินัสเพิ่มขึ้น
ตั้งแต่ ม.ค.-ส.ค.48 ไทยขาดดุลการค้ากับออสเตรเลีย จำนวน 301.49 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 12,293.93 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนซึ่งได้ดุลการค้า 221.39 ล้านเหรียญสหรัฐหรือ 8,410.63 ล้านบาทขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 246 เนื่องจากมีการนำเข้าทองคำฯ เป็นมูลค่า 27,643.81 ล้านบาท และน้ำมันฯ มูลค่า 15,262.69 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 30 และ 17 ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมดอย่างไรก็ตามหากหักมูลค่าการส่งออกและนำเข้า ทองคำฯ และน้ำมันฯ แล้วไทยจะได้ดุลการค้าจำนวน 28,937.68 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนซึ่งได้ดุลการค้าจำนวน 18,181.65 ล้านบาทได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 59
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 11 ตุลาคม 2548--จบ--