คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพลังงานรายงานการตรวจสอบเพื่อป้องกันการกักตุนน้ำมันดีเซลหมุนเร็วอย่างต่อเนื่อง สรุปได้ดังนี้
1. ระบบการตรวจสอบปริมาณสำรองน้ำมันปัจจุบัน
กระทรวงพลังงานได้มีการติดตามตรวจสอบปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบมิให้เกิดการขาดแคลนและป้องกันการกักตุนน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ โดยผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ (ผู้ค้าตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543) ต้องรายงานข้อมูลให้กระทรวงพลังงาน (กรมธุรกิจ พลังงาน) ดังนี้
1.1 ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือของผู้ค้าแต่ละรายเป็นประจำทุกวัน และสรุปรวมปริมาณการผลิต การนำเข้า การจำหน่าย และการส่งออก ในแต่ละเดือนโดยให้จัดส่งภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
1.2 กระทรวงพลังงาน (กรมธุรกิจพลังงาน) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจสอบปริมาณน้ำมันคงเหลือของผู้ค้าเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำมันสำรองตามกฎหมายของประเทศ
2. การตรวจสอบปริมาณคงเหลือ (Stock) ก่อนและหลังการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
การปรับราคาน้ำมันครั้งนี้ไม่มีผู้ค้าน้ำมันกักตุนน้ำมันและได้รับประโยชน์ โดยกระทรวงพลังงานได้ทำการตรวจสอบข้อมูลปริมาณน้ำมันคงเหลือ ณ วันที่ 22 มีนาคม 2548 ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ที่ค้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วมีจำนวน 19 ราย มีปริมาณน้ำมันคงเหลือ จำนวน 965 ล้านลิตร ซึ่งเป็นปริมาณสำรองตามกฎหมาย จำนวน 955 ล้านลิตร และอยู่ในระดับปกติ โดยผู้ค้าน้ำมันทุกรายมีปริมาณจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคสูงขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 22 มีนาคม 2548 ส่งผลให้ผู้ค้ามีปริมาณ Working Stock อยู่ในระดับต่ำ (น้อยกว่า 3 วัน) ทำให้ผู้ค้ารายใหญ่ ได้แก่ ปตท. เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ ปิกนิก และปิโตรนาส ต้องขอใช้ปริมาณน้ำมันสำรองตามกฎหมายจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคเพื่อป้องกันการขาดแคลน และผู้ค้าจำเป็นต้องจัดซื้อมาใช้ทดแทนส่วนที่ขายไปในราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--
1. ระบบการตรวจสอบปริมาณสำรองน้ำมันปัจจุบัน
กระทรวงพลังงานได้มีการติดตามตรวจสอบปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบมิให้เกิดการขาดแคลนและป้องกันการกักตุนน้ำมันเชื้อเพลิงภายในประเทศ โดยผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ (ผู้ค้าตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ. การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2543) ต้องรายงานข้อมูลให้กระทรวงพลังงาน (กรมธุรกิจ พลังงาน) ดังนี้
1.1 ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือของผู้ค้าแต่ละรายเป็นประจำทุกวัน และสรุปรวมปริมาณการผลิต การนำเข้า การจำหน่าย และการส่งออก ในแต่ละเดือนโดยให้จัดส่งภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
1.2 กระทรวงพลังงาน (กรมธุรกิจพลังงาน) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจสอบปริมาณน้ำมันคงเหลือของผู้ค้าเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อตรวจสอบปริมาณน้ำมันสำรองตามกฎหมายของประเทศ
2. การตรวจสอบปริมาณคงเหลือ (Stock) ก่อนและหลังการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว
การปรับราคาน้ำมันครั้งนี้ไม่มีผู้ค้าน้ำมันกักตุนน้ำมันและได้รับประโยชน์ โดยกระทรวงพลังงานได้ทำการตรวจสอบข้อมูลปริมาณน้ำมันคงเหลือ ณ วันที่ 22 มีนาคม 2548 ผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ที่ค้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วมีจำนวน 19 ราย มีปริมาณน้ำมันคงเหลือ จำนวน 965 ล้านลิตร ซึ่งเป็นปริมาณสำรองตามกฎหมาย จำนวน 955 ล้านลิตร และอยู่ในระดับปกติ โดยผู้ค้าน้ำมันทุกรายมีปริมาณจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคสูงขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์จนถึงวันที่ 22 มีนาคม 2548 ส่งผลให้ผู้ค้ามีปริมาณ Working Stock อยู่ในระดับต่ำ (น้อยกว่า 3 วัน) ทำให้ผู้ค้ารายใหญ่ ได้แก่ ปตท. เชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ ปิกนิก และปิโตรนาส ต้องขอใช้ปริมาณน้ำมันสำรองตามกฎหมายจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคเพื่อป้องกันการขาดแคลน และผู้ค้าจำเป็นต้องจัดซื้อมาใช้ทดแทนส่วนที่ขายไปในราคาที่สูงกว่าราคาปัจจุบัน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 29 มีนาคม 2548--จบ--