คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดคำร้องขอ การส่งมอบตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ การส่งผู้ร้ายข้ามแดน
พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า
1. โดยที่พระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 9 สิงหาคม 2551 ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 8 มาตรา 22 และมาตรา 32 ให้การจัดทำคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน วิธีการส่งมอบตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
2. คณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งมีศาสตราจารย์ (พิเศษ) เรวัติ ฉ่ำเฉลิม เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยกร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ขึ้น โดยมีหลักการเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นไปอย่างสอดคล้อง มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานและทำให้การบังคับใช้ตามกฎหมายดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง มีดังนี้
1. กฎกระทรวงใช้บังคับแก่การส่งผู้ร้ายข้ามแดนเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับสนธิสัญญาเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ (ร่างข้อ 1)
2. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนของประเทศผู้ร้องขอที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทยให้จัดส่งไปยังผู้ประสานงานกลางหรือตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญา ในกรณีที่ประเทศผู้ร้องขอไม่ได้มีสนธิสัญญาฯ กับประเทศไทย ให้จัดส่งคำร้องขอโดยผ่านวิถีทางการทูต (ร่างข้อ 2)
3. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องแนบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับรายละเอียดของบุคคลที่ขอให้ส่งข้ามแดน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดี กฎหมายที่บัญญัติให้การกระทำนั้นเป็นความผิด และหากเป็นคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อไปดำเนินคดีอาญา หรือเป็นคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเกี่ยวกับบุคคลที่ถูกพิพากษาว่ากระทำผิดแล้วจะต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม (ร่างข้อ 3-5)
4. เอกสารหลักฐานที่นำส่งโดยประเทศผู้ร้องขอจะต้องได้รับการประทับตราหรือรับรองโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจพร้อมแนบคำแปลเป็นภาษาไทย ซึ่งรับรองความถูกต้องด้วย (ร่างข้อ 6)
5. กำหนดวิธีการดำเนินการส่งมอบตัวบุคคลซึ่งถูกร้องขอให้ส่งข้ามแดน (ร่างข้อ 8-11)
6. กำหนดวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน (ร่างข้อ 12-13)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 สิงหาคม 2551--จบ--
พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงยุติธรรมเสนอว่า
1. โดยที่พระราชบัญญัติส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ. 2551 ซึ่งจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 9 สิงหาคม 2551 ได้บัญญัติไว้ในมาตรา 8 มาตรา 22 และมาตรา 32 ให้การจัดทำคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดน วิธีการส่งมอบตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง
2. คณะอนุกรรมการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งมีศาสตราจารย์ (พิเศษ) เรวัติ ฉ่ำเฉลิม เป็นประธาน และคณะอนุกรรมการฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ยกร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้ขึ้น โดยมีหลักการเกี่ยวกับการดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเป็นไปอย่างสอดคล้อง มีมาตรฐานในการปฏิบัติงานและทำให้การบังคับใช้ตามกฎหมายดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง มีดังนี้
1. กฎกระทรวงใช้บังคับแก่การส่งผู้ร้ายข้ามแดนเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับสนธิสัญญาเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ (ร่างข้อ 1)
2. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนของประเทศผู้ร้องขอที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศไทยให้จัดส่งไปยังผู้ประสานงานกลางหรือตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญา ในกรณีที่ประเทศผู้ร้องขอไม่ได้มีสนธิสัญญาฯ กับประเทศไทย ให้จัดส่งคำร้องขอโดยผ่านวิถีทางการทูต (ร่างข้อ 2)
3. คำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้จัดทำเป็นลายลักษณ์อักษรและต้องแนบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับรายละเอียดของบุคคลที่ขอให้ส่งข้ามแดน ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดี กฎหมายที่บัญญัติให้การกระทำนั้นเป็นความผิด และหากเป็นคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อไปดำเนินคดีอาญา หรือเป็นคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนเกี่ยวกับบุคคลที่ถูกพิพากษาว่ากระทำผิดแล้วจะต้องแนบเอกสารเพิ่มเติม (ร่างข้อ 3-5)
4. เอกสารหลักฐานที่นำส่งโดยประเทศผู้ร้องขอจะต้องได้รับการประทับตราหรือรับรองโดยเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจพร้อมแนบคำแปลเป็นภาษาไทย ซึ่งรับรองความถูกต้องด้วย (ร่างข้อ 6)
5. กำหนดวิธีการดำเนินการส่งมอบตัวบุคคลซึ่งถูกร้องขอให้ส่งข้ามแดน (ร่างข้อ 8-11)
6. กำหนดวิธีการดำเนินการเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการส่งผู้ร้ายข้ามแดน (ร่างข้อ 12-13)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 สิงหาคม 2551--จบ--