คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา พ.ศ. .... ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแนวทางสำหรับผู้ประสานงาน คณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) แล้ว พบว่า ปคร.และผู้ช่วย ปคร. ของทุกส่วนราชการไม่มีปัญหาในการปฏิบัติตามแนวทาง ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการพัฒนาให้การประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาเป็นไปอย่างมีระบบ ชัดเจน สมควรนำแนวทางปฏิบัติสำหรับ ปคร. ไปกำหนดเป็นระเบียบโดยเร็ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงได้ยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา พ.ศ. .... ขึ้น และได้จัดรับฟังความคิดเห็นรวมทั้งออกแบบสอบถามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ทั้งนี้ ได้นำความเห็นและข้อเสนอแนะจากการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวมาปรับปรุงร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้แล้วส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ตรวจพิจารณา คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ได้ตรวจพิจารณาร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวเสร็จแล้ว มีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการกำหนดคุณสมบัติวาระการปฏิบัติงาน และกำหนดหน้าที่ของ ปคร. นอกจากนี้ได้ปรับปรุงถ้อยคำและรูปแบบของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามแบบการร่างกฎหมาย จึงได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยสาระสำคัญของร่างระเบียบ มีดังนี้
1. กำหนดนิยาม “ส่วนราชการ” และ “ผู้ประสานงาน” (ร่างข้อ 3)
2. ให้ส่วนราชการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จัดให้มีผู้ประสานงานเกี่ยวกับการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา เรียกว่า “ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา” เรียกโดยย่อว่า “ปคร.” และกำหนดเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ประสานงาน (ร่างข้อ 4-ร่างข้อ 5)
3. กำหนดหน้าที่ของผู้ประสานงาน และให้ผู้ประสานงานแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ประสานงาน เพื่อช่วยปฏิบัติงานหรือปฏิบัติงานอันเป็นการสนับสนุนหรือปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ประสานงาน (ร่างข้อ 6-ร่างข้อ 7)
4. ให้ส่วนราชการจัดให้มีกลุ่มผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา โดยมีสถานที่ปฏิบัติงานของกลุ่ม ผู้ประสานงาน รวมทั้งสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และสิ่งอื่น ๆ ที่จำเป็นอันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ (ร่างข้อ 8)
5. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นศูนย์กลางประสานงานของผู้ประสานงาน และวางระบบ แนวทางและวิธีปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 สิงหาคม 2551--จบ--
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ดำเนินการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตามแนวทางสำหรับผู้ประสานงาน คณะรัฐมนตรีและรัฐสภา (ปคร.) แล้ว พบว่า ปคร.และผู้ช่วย ปคร. ของทุกส่วนราชการไม่มีปัญหาในการปฏิบัติตามแนวทาง ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการพัฒนาให้การประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภาเป็นไปอย่างมีระบบ ชัดเจน สมควรนำแนวทางปฏิบัติสำหรับ ปคร. ไปกำหนดเป็นระเบียบโดยเร็ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจึงได้ยกร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา พ.ศ. .... ขึ้น และได้จัดรับฟังความคิดเห็นรวมทั้งออกแบบสอบถามผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ทั้งนี้ ได้นำความเห็นและข้อเสนอแนะจากการรับฟังความคิดเห็นดังกล่าวมาปรับปรุงร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้แล้วส่งให้คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ตรวจพิจารณา คณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ได้ตรวจพิจารณาร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวเสร็จแล้ว มีการแก้ไขเพิ่มเติมเรื่องการกำหนดคุณสมบัติวาระการปฏิบัติงาน และกำหนดหน้าที่ของ ปคร. นอกจากนี้ได้ปรับปรุงถ้อยคำและรูปแบบของร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามแบบการร่างกฎหมาย จึงได้เสนอร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ โดยสาระสำคัญของร่างระเบียบ มีดังนี้
1. กำหนดนิยาม “ส่วนราชการ” และ “ผู้ประสานงาน” (ร่างข้อ 3)
2. ให้ส่วนราชการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จัดให้มีผู้ประสานงานเกี่ยวกับการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา เรียกว่า “ผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา” เรียกโดยย่อว่า “ปคร.” และกำหนดเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้ประสานงาน (ร่างข้อ 4-ร่างข้อ 5)
3. กำหนดหน้าที่ของผู้ประสานงาน และให้ผู้ประสานงานแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ประสานงาน เพื่อช่วยปฏิบัติงานหรือปฏิบัติงานอันเป็นการสนับสนุนหรือปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ประสานงาน (ร่างข้อ 6-ร่างข้อ 7)
4. ให้ส่วนราชการจัดให้มีกลุ่มผู้ประสานงานคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา โดยมีสถานที่ปฏิบัติงานของกลุ่ม ผู้ประสานงาน รวมทั้งสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ และสิ่งอื่น ๆ ที่จำเป็นอันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ (ร่างข้อ 8)
5. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นศูนย์กลางประสานงานของผู้ประสานงาน และวางระบบ แนวทางและวิธีปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบนี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมัคร สุนทรเวช (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 สิงหาคม 2551--จบ--