คณะรัฐมนตรีรับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการนโยบายแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนากฎหมายเสนอทั้ง 4 ข้อ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
1. ให้มีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนากฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติจากรัฐสภาตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้การพิจารณากฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติที่จะต้องเสนอต่อรัฐสภาจำนวนประมาณ 194 ฉบับ ดำเนินไปด้วยความรวดเร็วทันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
2.เห็นชอบแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติ ประจำปี 2548 และให้ส่งรัฐสภาเป็นเอกสารประกอบการรับฟังความคิดเห็นตามข้อ 1
3.ให้มีการรวบรวมบทบัญญัติกฎหมายเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกันเป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนากฎหมายของรัฐบาล โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือส่วนราชการที่เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการแต่ละเรื่อง และให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการประจำ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2548
4. เห็นชอบแนวทางการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ สรุปได้ดังนี้
1. บุคลากรทางกฎหมายที่อยู่ในข่ายการพัฒนา
นักกฎหมายภาครัฐที่จะเข้าพัฒนา หมายถึง นักกฎหมายกฤษฎีกา นิติกร และข้าราชการ หรือพนักงานราชการที่สำเร็จการศึกษานิติศาสตร์และปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องใช้ความรู้ทางกฎหมายเป็นหลักในการปฏิบัติงาน แยกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ (1) นักกฎหมายมหาชนภาครัฐ (2) นักกฎหมายเอกชนและกระบวนการยุติธรรม (3) นักกฎหมายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ
2. วัตถุประสงค์ของการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ
(1) ให้มีวิสัยทัศน์ทันการเปลี่ยนแปลงโลกและสังคมไทย
(2) ให้มีทัศนคติที่สร้างสรรค์ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม
(3) มีความรู้ความเข้าใจกฎหมายหลักที่นักกฎหมายมหาชนภาครัฐต้องรู้ รวมทั้งมีความรู้กฎหมายเฉพาะที่แต่ละกลุ่มต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละหน่วยงาน
(4) มีทักษะที่จะใช้ปฏิบัติงานในหน้าที่นักกฎหมายภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ระดับหลักสูตรมี 3 ระดับ
(1) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับแรกเข้าเป็นหลักสูตรสำหรับนักกฎหมายภาครัฐที่เพิ่งเข้ารับราชการไม่เกิน 2 ปี (ระดับ 3-4)
(2) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับต้นเป็นหลักสูตรสำหรับนักกฎหมายภาครัฐระดับ 5-6
(3) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับกลางเป็นหลักสูตรสำหรับนักกฎหมายภาครัฐระดับ 7-8
4. โครงสร้างหลักสูตร โครงสร้างหลักสูตรจะได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว ผู้เข้ารับการอบรมในแต่ละระดับหลักสูตรทั้ง 3 ระดับ จะต้องมี 1) วิสัยทัศน์และทัศนคติ (attitude) 2) ความรู้ความเข้าใจ (knowledge) และ 3) ทักษะ (skill) ที่เหมาะสมกับระดับตำแหน่งของตนในแต่ละกลุ่มเรียงลำดับ ดังนี้
(1) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับแรกเข้า (ระดับ 3-4) หลักสูตรจะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติ
(2) หลักสูตรการพัฒนากฎหมายรัฐระดับต้น (ระดับ 5-6) หลักสูตรจะเน้นการให้ทักษะ ความรู้ความเข้าใจ และทัศนคติ
(3) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับกลาง (ระดับ 7-8) หลักสูตรจะเน้นการให้ทัศนคติทักษะ และความรู้ความเข้าใจ
5. เป้าหมายการดำเนินการ การดำเนินการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ มีเป้าหมายการดำเนินงานในระยะเวลา 4 ปี (ปี 2548-2551) ตามตัวชี้วัดในแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนากฎหมายและส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ประเด็นการปรับปรุงกฎหมาย)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 กันยายน 2548--จบ--
1. ให้มีการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนากฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติจากรัฐสภาตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้การพิจารณากฎหมายตามแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติที่จะต้องเสนอต่อรัฐสภาจำนวนประมาณ 194 ฉบับ ดำเนินไปด้วยความรวดเร็วทันต่อสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
2.เห็นชอบแผนพัฒนากฎหมายแห่งชาติ ประจำปี 2548 และให้ส่งรัฐสภาเป็นเอกสารประกอบการรับฟังความคิดเห็นตามข้อ 1
3.ให้มีการรวบรวมบทบัญญัติกฎหมายเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกันเป็นนโยบายสำคัญในการพัฒนากฎหมายของรัฐบาล โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐทุกแห่งที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือส่วนราชการที่เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการแต่ละเรื่อง และให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติราชการประจำ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2548
4. เห็นชอบแนวทางการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ สรุปได้ดังนี้
1. บุคลากรทางกฎหมายที่อยู่ในข่ายการพัฒนา
นักกฎหมายภาครัฐที่จะเข้าพัฒนา หมายถึง นักกฎหมายกฤษฎีกา นิติกร และข้าราชการ หรือพนักงานราชการที่สำเร็จการศึกษานิติศาสตร์และปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องใช้ความรู้ทางกฎหมายเป็นหลักในการปฏิบัติงาน แยกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ (1) นักกฎหมายมหาชนภาครัฐ (2) นักกฎหมายเอกชนและกระบวนการยุติธรรม (3) นักกฎหมายเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศ
2. วัตถุประสงค์ของการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ
(1) ให้มีวิสัยทัศน์ทันการเปลี่ยนแปลงโลกและสังคมไทย
(2) ให้มีทัศนคติที่สร้างสรรค์ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้สอดคล้องกับหลักนิติธรรม
(3) มีความรู้ความเข้าใจกฎหมายหลักที่นักกฎหมายมหาชนภาครัฐต้องรู้ รวมทั้งมีความรู้กฎหมายเฉพาะที่แต่ละกลุ่มต้องใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละหน่วยงาน
(4) มีทักษะที่จะใช้ปฏิบัติงานในหน้าที่นักกฎหมายภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ
3. ระดับหลักสูตรมี 3 ระดับ
(1) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับแรกเข้าเป็นหลักสูตรสำหรับนักกฎหมายภาครัฐที่เพิ่งเข้ารับราชการไม่เกิน 2 ปี (ระดับ 3-4)
(2) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับต้นเป็นหลักสูตรสำหรับนักกฎหมายภาครัฐระดับ 5-6
(3) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับกลางเป็นหลักสูตรสำหรับนักกฎหมายภาครัฐระดับ 7-8
4. โครงสร้างหลักสูตร โครงสร้างหลักสูตรจะได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์โดยเมื่อผ่านการอบรมแล้ว ผู้เข้ารับการอบรมในแต่ละระดับหลักสูตรทั้ง 3 ระดับ จะต้องมี 1) วิสัยทัศน์และทัศนคติ (attitude) 2) ความรู้ความเข้าใจ (knowledge) และ 3) ทักษะ (skill) ที่เหมาะสมกับระดับตำแหน่งของตนในแต่ละกลุ่มเรียงลำดับ ดังนี้
(1) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับแรกเข้า (ระดับ 3-4) หลักสูตรจะเน้นการให้ความรู้ความเข้าใจ ทักษะ และทัศนคติ
(2) หลักสูตรการพัฒนากฎหมายรัฐระดับต้น (ระดับ 5-6) หลักสูตรจะเน้นการให้ทักษะ ความรู้ความเข้าใจ และทัศนคติ
(3) หลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับกลาง (ระดับ 7-8) หลักสูตรจะเน้นการให้ทัศนคติทักษะ และความรู้ความเข้าใจ
5. เป้าหมายการดำเนินการ การดำเนินการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐ มีเป้าหมายการดำเนินงานในระยะเวลา 4 ปี (ปี 2548-2551) ตามตัวชี้วัดในแผนการบริหารราชการแผ่นดิน ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนากฎหมายและส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ประเด็นการปรับปรุงกฎหมาย)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 กันยายน 2548--จบ--