คณะรัฐมนตรีพิจารณาการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินกิจการขององค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแล้วมีมติอนุมัติดังนี้
1. อนุมัติกู้เงินฉุกเฉินเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 17 ล้านบาท ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2548 เพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน ร.ส.พ. ประจำเดือนกรกฎาคม 2548 และอนุมัติขยายวงเงินกู้เบิกเกินบัญชีจาก 30 ล้านบาท เป็น 60 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันทั้ง 2 รายการ และเมื่อวงเงินเบิกเกินบัญชีได้รับอนุมัติแล้ว ให้ ร.ส.พ. นำเงินไปชำระคืนและปิดบัญชีตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 17 ล้านบาท ดังกล่าวข้างต้น ส่วนจำนวนวงเงินที่เหลืออีก 13 ล้านบาท ให้ใช้หมุนเวียนในกิจการของ ร.ส.พ. ต่อไป
2. อนุมัติหลักการให้พนักงานและลูกจ้าง ร.ส.พ. ทั้งหมด ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แทนค่ารักษาพยาบาลที่เบิกจาก ร.ส.พ. โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสนับสนุน และให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
กระทรวงคมนาคมรายงานว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2548 อนุมัติให้องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) ต่ออายุสัญญากู้เงินเกินบัญชีจำนวน 30 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2548 — 13 พฤษภาคม 2549 โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน นั้น กระทรวงคมนาคมได้รับรายงานจาก ร.ส.พ. ว่า ขณะนี้ ร.ส.พ. ประสบปัญหาการขาดกระแสเงินสดหมุนเวียนระยะสั้นอย่างรุนแรง ทั้งนี้ เนื่องจากกรมบังคับคดีได้ออกหมายบังคับแล้วอายัดเงินจากแหล่งรายได้หลักของ ร.ส.พ. และธนาคารต่าง ๆ ซึ่งปัญหาดังกล่าว ร.ส.พ. คาดว่าจะไม่สามารถจ่ายเงินเดือน และสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่พนักงานได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2548 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อ ร.ส.พ. ลูกค้า ประชาชนผู้รับบริการ และสร้างความเดือดร้อนแก่พนักงาน ร.ส.พ. โดยรวมเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงาน ร.ส.พ. ที่มีอยู่ทั้งหมด 1,780 คน แยกเป็นพนักงาน 1,425 คน และลูกจ้าง 335 คน กระทรวงคมนาคมจึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 สิงหาคม 2548--จบ--
1. อนุมัติกู้เงินฉุกเฉินเป็นตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 17 ล้านบาท ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2548 เพื่อจ่ายเงินเดือนพนักงาน ร.ส.พ. ประจำเดือนกรกฎาคม 2548 และอนุมัติขยายวงเงินกู้เบิกเกินบัญชีจาก 30 ล้านบาท เป็น 60 ล้านบาท โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันทั้ง 2 รายการ และเมื่อวงเงินเบิกเกินบัญชีได้รับอนุมัติแล้ว ให้ ร.ส.พ. นำเงินไปชำระคืนและปิดบัญชีตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 17 ล้านบาท ดังกล่าวข้างต้น ส่วนจำนวนวงเงินที่เหลืออีก 13 ล้านบาท ให้ใช้หมุนเวียนในกิจการของ ร.ส.พ. ต่อไป
2. อนุมัติหลักการให้พนักงานและลูกจ้าง ร.ส.พ. ทั้งหมด ใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ แทนค่ารักษาพยาบาลที่เบิกจาก ร.ส.พ. โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสนับสนุน และให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
กระทรวงคมนาคมรายงานว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2548 อนุมัติให้องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.) ต่ออายุสัญญากู้เงินเกินบัญชีจำนวน 30 ล้านบาท ออกไปอีก 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม 2548 — 13 พฤษภาคม 2549 โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน นั้น กระทรวงคมนาคมได้รับรายงานจาก ร.ส.พ. ว่า ขณะนี้ ร.ส.พ. ประสบปัญหาการขาดกระแสเงินสดหมุนเวียนระยะสั้นอย่างรุนแรง ทั้งนี้ เนื่องจากกรมบังคับคดีได้ออกหมายบังคับแล้วอายัดเงินจากแหล่งรายได้หลักของ ร.ส.พ. และธนาคารต่าง ๆ ซึ่งปัญหาดังกล่าว ร.ส.พ. คาดว่าจะไม่สามารถจ่ายเงินเดือน และสวัสดิการต่าง ๆ ให้แก่พนักงานได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2548 เป็นต้นไป ซึ่งจะมีผลกระทบโดยตรงต่อ ร.ส.พ. ลูกค้า ประชาชนผู้รับบริการ และสร้างความเดือดร้อนแก่พนักงาน ร.ส.พ. โดยรวมเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และบรรเทาความเดือดร้อนของพนักงาน ร.ส.พ. ที่มีอยู่ทั้งหมด 1,780 คน แยกเป็นพนักงาน 1,425 คน และลูกจ้าง 335 คน กระทรวงคมนาคมจึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติดังกล่าว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 2 สิงหาคม 2548--จบ--