คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัย ในห้วงวันที่ 11
กันยายน - 8 ตุลาคม 2551 สรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน (ข้อมูลถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2551) ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ(ระหว่างวันที่ 11 กันยายน-8 ตุลาคม 2551)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 31 จังหวัด 246 อำเภอ 1,566 ตำบล 12,092 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดตาก พิจิตร แม่ฮ่องสอน
พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พะเยา ลำปาง มหาสารคาม เลย พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี บุรีรัมย์ ขอนแก่น ชัยภูมิ
นครราชสีมา หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ยโสธรมุกดาหาร ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด และ
จังหวัดจันทบุรี ผู้เสียชีวิต 26 คน (จ.ปราจีนบุรี 3 คน สระบุรี 2 คน จ.ลพบุรี 3 คน จ.นครราชสีมา 2 คน จ.หนองบัวลำภู 4 คน จ.
แม่ฮ่องสอน 1 คน จ.พิษณุโลก 2 คน จ.นครสวรรค์ 2 คน จ.ขอนแก่น 2 คน จ.สระแก้ว 3 คน จ.สุรินทร์ 2 คน) สูญหาย 1 คน (จ.
พิษณุโลก) ราษฎรเดือดร้อน 454,304 ครัวเรือน 1,597,371 คน
พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย
ที่ ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด ครัวเรือน คน
1 เหนือ 9 45 191 871 ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ 58,269 194,873
พิจิตร สุโขทัย พะเยา ลำปาง
และแม่ฮ่องสอน
2 ตะวันออก 12 133 939 8,960 เลย ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี 318,974 1,194,706
เฉียงเหนือ หนองบัวลำภู ชัยภูมิ บุรีรัมย์ มุกดาหาร
มหาสารคาม ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์
3 กลาง 3 33 250 1,436 ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา 45,582 130,592
4 ตะวันออก 7 35 186 825 นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา 28,479 77,200
ตราด จันทบุรี สระแก้ว
รวมทั้งประเทศ 31 246 1,566 12,092 454,304 1,597,371
1.2 ความเสียหาย (เบื้องต้น) ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2551
ลำดับที่ ประเภทความเสียหาย จำนวนความเสียหาย
1 พื้นที่ประสบอุทกภัย 31 จังหวัด 246 อำเภอ 1,566 ตำบล 12,092 หมู่บ้าน
2 ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1,597,371 คน 454,304 ครัวเรือน
3 ผู้เสียชีวิต 26 คน
4 ผู้สูญหาย 1 คน
5 บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 8 หลัง
6 บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,704 หลัง
7 ถนนเสียหาย 3,404 สาย
8 สะพาน 98 สะพาน
9 พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเบื้องต้นประมาณ 547,121 ไร่
10 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 557,072,609 บาท
1.3 สถานการณ์ปัจจุบัน คลี่คลายแล้ว 28 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ตาก พะเยาลำปาง นครนายก เลย
สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด ชลบุรี พิจิตร สระบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ อุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ
มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน สระแก้ว จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปราจีนบุรี
ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี และจังหวัดขอนแก่น ในพื้นที่การเกษตร คาดว่า
สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วัน ยกเว้นอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี คาดว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน
ลำดับที่ จังหวัดที่ประสบภัย อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
1 พิษณุโลก 2 (เมืองฯ บางระกำ ) 7 21 2-3 วัน (ท่วมพื้นที่เกษตร)
2 ลพบุรี 1 (บ้านหมี่) 1 7 1-2 วัน
3 ขอนแก่น 2 (เมืองฯ ชนบท ) 4 12 2-3 วัน (ท่วมพื้นที่การเกษตร)
3 จังหวัด 5 อำเภอ 12 ตำบล 40 หมู่บ้าน
1.4 การให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 11 กันยายน 2551 - ปัจจุบัน)
1.4.1 สิ่งของพระราชทาน
1) มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย พิจิตร เพชรบูรณ์ ขอนแก่น หนอง
บัวลำภู อุดรธานี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ สระบุรี ปราจีนบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครราชสีมา มหาสารคาม และ
จังหวัดอุบลราชธานี รวม 25,050 ชุด
2) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงมอบให้สภากาชาดไทยนำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ขอนแก่น
พระนครศรีอยุธยา นครนายก สระบุรี ชัยภูมิ รวม 10,400 ชุด
และในวันที่ 9 ตุลาคม 2551 สภากาชาดไทยโดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ได้จัดส่งรถผลิตน้ำ
ดื่ม จำนวน 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อผลิตน้ำดื่มให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ ตำบลดินดำ และตำบลดงสิงห์ อำเภอจังหาร จังหวัด
ร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
3) กองงานพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯนำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร
ขอนแก่น ปราจีนบุรี พิษณุโลก และจังหวัดลพบุรี รวม 5,000 ชุด
4) มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก นำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หนองบัวลำภู รวม
1,500 ชุด
1.4.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 (ปทุมธานี) เขต 2
(สุพรรณบุรี) เขต 3 (ปราจีนบุรี) เขต 5 (นครราชสีมา) เขต 6 (ขอนแก่น) เขต 7 (สกลนคร) เขต 8 (กำแพงเพชร) เขต 9 (พิษณุโลก)
ได้จัดส่งวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องจักรกล เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดที่เกิดสถานการณ์ ดังนี้ เรือท้องแบน 128 ลำ รถ
บรรทุกติดตั้งเครน 11 คัน รถผลิตน้ำดื่ม 6 คัน รถกู้ภัยเล็ก 8 คัน รถยนต์ยูนิม็อค 4 คัน รถบรรทุก 9 คัน เครื่องสูบน้ำ 11 เครื่อง เต็นท์ที่พัก
อาศัย 70 หลัง ถุงยังชีพ 13,250 ถุง เสื้อชูชีพ 124 ตัว เจ้าหน้าที่ 442 คน บ้านน็อคดาวน์ (มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก) 10 หลัง
1.5. การตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ
1) ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) ในพื้นที่อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (17 ก.ย.2551) และ
ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมพระตำหนักสิริยาลัย และวัดไชยวัฒนาราม และประชุมติดตามสถานการณ์เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2551 ณ ศาลากลางจังหวัดพระ
นครศรีอยุธยา และตรวจเยี่ยมพื้นที่ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี (เมื่อ 26 ก.ย. 2551)
2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) ระหว่างวันที่ 17-20 ก.ย. 2551 ในพื้นที่จังหวัด
สระบุรี ลพบุรี พิษณุโลก พิจิตร พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา นครนายก ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา หนองบัวลำภู ขอนแก่น และวันที่ 27 ก.ย.
2551 ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดจันทบุรี
3) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประสงค์ โฆษิตานนท์) ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย. 2551 ในพื้นที่
จังหวัดลพบุรี พิษณุโลก และสุโขทัย
4) รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวง
ศึกษาธิการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย และดำเนินการให้ความช่วย
เหลือประชาชนในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง
5) อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายอนุชา โมกขะเวส) เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2551 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม
ผู้ประสบภัยเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 8 - 14 ตุลาคม 2551
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่าในช่วงวันที่ 8-11 ต.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจาก
ประเทศจีนแผ่ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ส่งผลให้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนน้อยลง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และในช่วง
วันที่ 12-14 ต.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยอีก ทำให้ภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทย
ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ในวันที่ 11-14 ต.ค. 2551 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางตอนล่าง
และภาคใต้ตอนบนโดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สร้าง
ความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยและชาวเรือ โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และ
จังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อ
สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 ตุลาคม 2551--จบ--
กันยายน - 8 ตุลาคม 2551 สรุปสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นรวมทั้งผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน (ข้อมูลถึงวันที่ 8 ตุลาคม 2551) ดังนี้
1. สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ(ระหว่างวันที่ 11 กันยายน-8 ตุลาคม 2551)
1.1 พื้นที่ประสบภัย รวม 31 จังหวัด 246 อำเภอ 1,566 ตำบล 12,092 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดตาก พิจิตร แม่ฮ่องสอน
พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พะเยา ลำปาง มหาสารคาม เลย พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี บุรีรัมย์ ขอนแก่น ชัยภูมิ
นครราชสีมา หนองบัวลำภู อุบลราชธานี ยโสธรมุกดาหาร ศรีสะเกษ สุรินทร์ สระแก้ว นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด และ
จังหวัดจันทบุรี ผู้เสียชีวิต 26 คน (จ.ปราจีนบุรี 3 คน สระบุรี 2 คน จ.ลพบุรี 3 คน จ.นครราชสีมา 2 คน จ.หนองบัวลำภู 4 คน จ.
แม่ฮ่องสอน 1 คน จ.พิษณุโลก 2 คน จ.นครสวรรค์ 2 คน จ.ขอนแก่น 2 คน จ.สระแก้ว 3 คน จ.สุรินทร์ 2 คน) สูญหาย 1 คน (จ.
พิษณุโลก) ราษฎรเดือดร้อน 454,304 ครัวเรือน 1,597,371 คน
พื้นที่ประสบภัย ราษฎรประสบภัย
ที่ ภาค จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน รายชื่อจังหวัด ครัวเรือน คน
1 เหนือ 9 45 191 871 ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ 58,269 194,873
พิจิตร สุโขทัย พะเยา ลำปาง
และแม่ฮ่องสอน
2 ตะวันออก 12 133 939 8,960 เลย ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี 318,974 1,194,706
เฉียงเหนือ หนองบัวลำภู ชัยภูมิ บุรีรัมย์ มุกดาหาร
มหาสารคาม ยโสธร ศรีสะเกษ สุรินทร์
3 กลาง 3 33 250 1,436 ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา 45,582 130,592
4 ตะวันออก 7 35 186 825 นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา 28,479 77,200
ตราด จันทบุรี สระแก้ว
รวมทั้งประเทศ 31 246 1,566 12,092 454,304 1,597,371
1.2 ความเสียหาย (เบื้องต้น) ข้อมูล ณ วันที่ 8 ตุลาคม 2551
ลำดับที่ ประเภทความเสียหาย จำนวนความเสียหาย
1 พื้นที่ประสบอุทกภัย 31 จังหวัด 246 อำเภอ 1,566 ตำบล 12,092 หมู่บ้าน
2 ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1,597,371 คน 454,304 ครัวเรือน
3 ผู้เสียชีวิต 26 คน
4 ผู้สูญหาย 1 คน
5 บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 8 หลัง
6 บ้านเรือนเสียหายบางส่วน 2,704 หลัง
7 ถนนเสียหาย 3,404 สาย
8 สะพาน 98 สะพาน
9 พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเบื้องต้นประมาณ 547,121 ไร่
10 มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 557,072,609 บาท
1.3 สถานการณ์ปัจจุบัน คลี่คลายแล้ว 28 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเพชรบูรณ์ นครสวรรค์ ตาก พะเยาลำปาง นครนายก เลย
สุโขทัย ฉะเชิงเทรา ตราด ชลบุรี พิจิตร สระบุรี นครราชสีมา ชัยภูมิ อุบลราชธานี ยโสธร มุกดาหาร หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ
มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน สระแก้ว จันทบุรี พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดปราจีนบุรี
ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี และจังหวัดขอนแก่น ในพื้นที่การเกษตร คาดว่า
สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-3 วัน ยกเว้นอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี คาดว่าระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน
ลำดับที่ จังหวัดที่ประสบภัย อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ
1 พิษณุโลก 2 (เมืองฯ บางระกำ ) 7 21 2-3 วัน (ท่วมพื้นที่เกษตร)
2 ลพบุรี 1 (บ้านหมี่) 1 7 1-2 วัน
3 ขอนแก่น 2 (เมืองฯ ชนบท ) 4 12 2-3 วัน (ท่วมพื้นที่การเกษตร)
3 จังหวัด 5 อำเภอ 12 ตำบล 40 หมู่บ้าน
1.4 การให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 11 กันยายน 2551 - ปัจจุบัน)
1.4.1 สิ่งของพระราชทาน
1) มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย พิจิตร เพชรบูรณ์ ขอนแก่น หนอง
บัวลำภู อุดรธานี กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ นครสวรรค์ สระบุรี ปราจีนบุรี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี นครราชสีมา มหาสารคาม และ
จังหวัดอุบลราชธานี รวม 25,050 ชุด
2) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงมอบให้สภากาชาดไทยนำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร ขอนแก่น
พระนครศรีอยุธยา นครนายก สระบุรี ชัยภูมิ รวม 10,400 ชุด
และในวันที่ 9 ตุลาคม 2551 สภากาชาดไทยโดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ได้จัดส่งรถผลิตน้ำ
ดื่ม จำนวน 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่เพื่อผลิตน้ำดื่มให้แก่ประชาชนที่ประสบอุทกภัยในเขตพื้นที่ ตำบลดินดำ และตำบลดงสิงห์ อำเภอจังหาร จังหวัด
ร้อยเอ็ด ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม 2551 เป็นต้นไป
3) กองงานพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯนำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดพิจิตร
ขอนแก่น ปราจีนบุรี พิษณุโลก และจังหวัดลพบุรี รวม 5,000 ชุด
4) มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก นำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หนองบัวลำภู รวม
1,500 ชุด
1.4.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 (ปทุมธานี) เขต 2
(สุพรรณบุรี) เขต 3 (ปราจีนบุรี) เขต 5 (นครราชสีมา) เขต 6 (ขอนแก่น) เขต 7 (สกลนคร) เขต 8 (กำแพงเพชร) เขต 9 (พิษณุโลก)
ได้จัดส่งวัสดุอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องจักรกล เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดที่เกิดสถานการณ์ ดังนี้ เรือท้องแบน 128 ลำ รถ
บรรทุกติดตั้งเครน 11 คัน รถผลิตน้ำดื่ม 6 คัน รถกู้ภัยเล็ก 8 คัน รถยนต์ยูนิม็อค 4 คัน รถบรรทุก 9 คัน เครื่องสูบน้ำ 11 เครื่อง เต็นท์ที่พัก
อาศัย 70 หลัง ถุงยังชีพ 13,250 ถุง เสื้อชูชีพ 124 ตัว เจ้าหน้าที่ 442 คน บ้านน็อคดาวน์ (มูลนิธิเพื่อนพึ่ง(ภาฯ) ยามยาก) 10 หลัง
1.5. การตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ
1) ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) ในพื้นที่อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (17 ก.ย.2551) และ
ตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมพระตำหนักสิริยาลัย และวัดไชยวัฒนาราม และประชุมติดตามสถานการณ์เมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2551 ณ ศาลากลางจังหวัดพระ
นครศรีอยุธยา และตรวจเยี่ยมพื้นที่ อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี (เมื่อ 26 ก.ย. 2551)
2) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลตำรวจเอก โกวิท วัฒนะ) ระหว่างวันที่ 17-20 ก.ย. 2551 ในพื้นที่จังหวัด
สระบุรี ลพบุรี พิษณุโลก พิจิตร พระนครศรีอยุธยา นครราชสีมา นครนายก ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา หนองบัวลำภู ขอนแก่น และวันที่ 27 ก.ย.
2551 ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดจันทบุรี
3) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายประสงค์ โฆษิตานนท์) ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ย. 2551 ในพื้นที่
จังหวัดลพบุรี พิษณุโลก และสุโขทัย
4) รัฐมนตรีกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวง
ศึกษาธิการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม ได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย และดำเนินการให้ความช่วย
เหลือประชาชนในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง
5) อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (นายอนุชา โมกขะเวส) เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2551 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยม
ผู้ประสบภัยเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น
2. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 8 - 14 ตุลาคม 2551
2.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่าในช่วงวันที่ 8-11 ต.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจาก
ประเทศจีนแผ่ปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้ร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่าน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน ส่งผลให้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนน้อยลง ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองกระจาย และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และในช่วง
วันที่ 12-14 ต.ค. 2551 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยอีก ทำให้ภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนร่องความกดอากาศต่ำจะเลื่อนลงไปพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบนและอ่าวไทย
ส่งผลให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ในวันที่ 11-14 ต.ค. 2551 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคกลางตอนล่าง
และภาคใต้ตอนบนโดยเฉพาะจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก
2.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มซึ่งเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สร้าง
ความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยและชาวเรือ โดยให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และ
จังหวัดที่อาจจะได้รับผลกระทบ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อ
สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นได้อย่างทันต่อเหตุการณ์
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 ตุลาคม 2551--จบ--