คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 13 ตุลาคม 2551 ดังนี้
สภาพอากาศ
บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นแห่งๆ โดยมีอากาศเย็นในตอนเช้าในบริเวณภาคเหนือบางพื้นที่ ส่วนร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ ทำให้มีฝนตกกระจาย สำหรับในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนอาจมีฝนฟ้าคะนอง ในระยะนี้ (ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา)
พื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
พื้นที่ที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดภัยดินถล่มในระยะนี้ คือ
1. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ : อำเภอทับสะแก (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 23 คน)
อำเภอบางสะพาน (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 29 คน)
อำเภอบางสะพานน้อย (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 15 คน)
2. จังหวัดชุมพร : อำเภอพะโต๊ะ (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 171 คน)
อำเภอสวี (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 159 คน)
3. จังหวัดสุราษฏร์ธานี : อำเภอบ้านนาสาร (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 92 คน)
อำเภอคีรีรัฐนิคม (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 51 คน)
อำเภอวิภาวดี (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 49 คน)
4. จังหวัดนครศรีธรรมราช : อำเภอพิปูน (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 74 คน)
อำเภอร่อนพิบูลย์ (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 41 คน)
อำเภอลานสกา (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 154 คน)
อำเภอนบพิตำ (เครือข่ายฯ กรมทรัพยากรธรณี จำนวน 60 คน)
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรธรณี กำลังประสานงานโดยตรงกับเครือข่ายฯ ในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
การดำเนินการ
ด้วยปรากฏสภาพหลุมยุบ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.30 เมตร ลึก 10 เมตร บริเวณพื้นที่บ้านเขาแดง หมู่ที่ 7 ตำบลป่าแก่บ่อหิน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล กรมทรัพยากรธรณี ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบทางธรณีฟิสิกส์ พบว่า มีโพรงใต้ดินขนาดเล็กจำนวน 4 โพรง ทั้งนี้ ได้ประสานกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล ในการกำหนดมาตรการแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพธรณีวิทยาแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 ตุลาคม 2551--จบ--