คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สรุปสถานการณ์ภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน ครั้งที่ 22 ช่วงวันที่ 14-20 ตุลาคม 2551 ประกอบด้วย สถานการณ์อุทกภัย สถานการณ์น้ำ ผลกระทบด้านการเกษตร และการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร สรุปได้ดังนี้
สถานการณ์อุทกภัย
เนื่องจากเกิดร่องความกดอากาศต่ำกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคตะวันออกตอนบน ประกอบกับ มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้มีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลาย พื้นที่ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
พื้นที่ประสบอุทกภัยตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน — 17 ตุลาคม 2551 รวม 50 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน กำแพงเพชร น่าน แพร่ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ พะเยา ลำปาง ลำพูน อุตรดิตถ์ ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง ชัยนาท กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี เลย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา นครพนม บุรีรัมย์ มหาสารคาม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ ยโสธร สกลนคร สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อุดรธานี นครนายก สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด จันทบุรี สุราษฎร์ธานี และสตูล ปัจจุบันยังคงมีพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น และร้อยเอ็ด
1. จังหวัดขอนแก่น ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอเมือง (2 ตำบล) และอำเภอชนบท (2 ตำบล) ระดับน้ำท่วมสูง ประมาณ 0.20-0.40 เมตร แนวโน้มสถานการณ์ หากไม่มีฝนตกในพื้นที่ คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 2-4 วันนี้
2. จังหวัดร้อยเอ็ด ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ คือ อำเภอจังหาร (3 ตำบล) อำเภอเชียงขวัญ (1 ตำบล) ระดับน้ำท่วมสูง ประมาณ 0.20-0.50 เมตร แนวโน้มสถานการณ์ระดับน้ำลดลง
สถานการณ์น้ำ
1. สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่
สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งประเทศ (19 ตุลาคม 2551) มีปริมาณน้ำในอ่างฯทั้งหมด 54,670 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิด เป็นร้อยละ 80 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด (ปริมาณน้ำใช้การได้ 31,357 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 46 ของความจุอ่างฯ) น้อยกว่าปี 2550 (59,603 ล้านลูกบาศก์เมตร) จำนวน 4,933 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 7 ของความจุอ่างฯ ทั้งนี้ สามารถรับน้ำได้อีก 13,838 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 20 ของความจุอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั้งหมด ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เฉลี่ยทั้งปี 38,221 ล้านลูกบาศก์ เมตร ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ วันนี้ 126.1 ล้านลูกบาศก์เมตร (ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2551 ถึง วันนี้ จำนวน 37,088 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 97 ของค่าเฉลี่ยทั้งปี)
อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 8,327 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 62 ของความจุ อ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 4,527 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 33 ของความจุอ่างฯ และเมื่อเปรียบเทียบปริมาตรน้ำปัจจุบันกับปี 2550 (11,166 ล้าน ลบ.ม.) น้อยกว่า จำนวน 2,839 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 8,181 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 86 ของความจุ อ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 5,331 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 56 ของความจุอ่างฯ และเมื่อเปรียบเทียบปริมาตรน้ำปัจจุบันกับปี 2550 (7,352 ล้าน ลบ.ม.) มากกว่า จำนวน 829 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ 911 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 95 ของความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ 908 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 95 ของความจุอ่างฯ และเมื่อเปรียบเทียบปริมาตรน้ำปัจจุบันกับปี 2550 (894 ล้าน ลบ.ม.) มากกว่า จำนวน 17 ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในเกณฑ์น้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุอ่างฯ จำนวน 18 อ่าง ได้แก่
หน่วย : ล้านลูกบาศก์เมตร
อ่างเก็บน้ำ ปริมาตรน้ำในอ่างฯ ปริมาตรน้ำใช้การได้ ไหลลงอ่างฯ ปริมาณน้ำรับ ปริมาตรน้ำ %ความจุอ่างฯ ปริมาตรน้ำ %ความจุอ่างฯ เฉลี่ยทั้งปี วันนี้ สะสม 1 ม.ค. ได้อีก 1.สิริกิติ์ 8,181 86 5,331 56 5,391 16.2 6,761 1,329 2.แม่งัดสมบูรณ์ชล 256 97 234 88 332 9 335 9 3.ห้วยหลวง 119 101 114 96 161 0.4 158 - 4.น้ำอูน 492 95 449 86 433 2.2 423 28 5.อุบลรัตน์ 2,204 97 1,794 79 2,271 17.8 3,530 60 6.ลำตะคอง 270 86 242 77 270 0.2 346 44 7.ลำปาว 1,229 86 1,144 80 1,985 2.8 1,913 201 8.ลำพระเพลิง 109 99 108 98 184 0.8 180 - 9.มูลบน 134 95 127 90 82 0.7 100 7 10.ลำแซะ 236 86 229 83 193 3.7 193 39 11.สิรินธร 1,699 86 868 44 1,664 1.1 1,815 267 12.ป่าสักชลสิทธิ์ 911 95 894 95 2,200 16.2 2,470 49 13.ศรีนครินทร์ 15,604 88 5,339 30 4,339 12 3,404 2,141 14.วชิราลงกรณ 7,205 81 4,193 47 5,369 9.6 5,468 1,655 15.ขุนด่านปราการชล 203 91 198 89 337 0.5 322 21 16.คลองสียัด 380 90 350 83 204 3.2 312 40 17.หนองปลาไหล 162 99 148 91 203 1 129 2 18.ประแสร์ 225 91 205 83 295 0 276 23
2. สภาพน้ำท่า
แม่น้ำปิง สถานี P.7A ที่สะพานบ้านห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และสถานี P.17 บ้านท่างิ้ว อ.บรรพตพิสัย จ. นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำวัง สถานี W.4A บ้านวังหมัน อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำยม สถานี Y.20 บ?นห?วยสัก อำเภอสอง และสถานี Y.1C สะพานบ้านน้ำโค้ง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ระดับน้ำอยู่ใน เกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง สถานี Y.4 สะพานตลาดธานี อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย และสถานี Y.17 บ้านสามง่าม อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง
แม่น้ำน่าน สถานี N.1 หน้าสำนักงานป่าไม้ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย แนวโน้มลดลง สถานี N.5A สะพาน เอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง สถานี N.67 สะพานบ้านเกศไชย อำเภอชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์มาก แนวโน้มลดลง
แม่น้ำชี สถานี E.23 บ้านค่าย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ แนวโน้มลดลง สถานี E.91 บ้านหนอง ขนอน อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สถานี E.8A บ้านดินดำ อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม สถานี E.18 บ้านท่าไคร้ อำเภอทุ่งเขา หลวง จังหวัดร้อยเอ็ด ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ล้นตลิ่ง แนวโน้มลดลง สถานี E.20A บ้านฟ้าหยาด อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ ล้นตลิ่ง แนวโน้มทรงตัว
แม่น้ำมูล สถานี M.6A บ้านสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ สถานี M.5 บ้านเมืองคง อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ สถานี M.7 สะพานเสรีประชาธิปไตย อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ล้นตลิ่ง แนวโน้มลดลง
แม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ (C.2) 1,542 ลบ.ม.ต่อวินาที อยู่ในเกณฑ์ปกติ ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อน เจ้าพระยา (C.13) 1,170 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน) โดยมีระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา +16.50 เมตร.(รทก.) ท้ายเขื่อนเจ้า พระยา +11.78 เมตร.(รทก.) ระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ รับน้ำเข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันออก 192 ลบ.ม.ต่อวินาที (เพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน) รับน้ำ เข้าระบบส่งน้ำทุ่งฝั่งตะวันตก 438 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน)
ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง รวมสูบและระบายทั้งหมด 9.37 ล้านลบ.ม. โดยได้เร่งระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา 0.72 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำลงแม่น้ำนครนายก วันละ 0.52 ล้าน ลบ.ม. ระบายลงอ่าวไทย 8.13 ล้าน ลบ.ม.
ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกตอนล่าง รวมสูบและระบายทั้งหมด 17.77 ล้าน ลบ.ม. โดยได้เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีนวันละ 5.37 ล้าน ลบ.ม. ระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา 12.40 ล้าน ลบ.ม.
สถานีบางไทร (C.29) อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปริมาณน้ำไหลผ่านเมื่อเวลา 6.00 น. มีปริมาณเฉลี่ย 1,433 ลบ.ม.ต่อวินาที (ลดลงจากเมื่อวาน)
อิทธิพลน้ำทะเลในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สะพานพุทธ (C.4) ระดับน้ำสูงสุดเมื่อวานนี้ +1.79 เมตร รทก. เวลา 9.30 น. คาดว่า ระดับน้ำสูงสุดวันนี้ อยู่ที่ระดับ +1.81 เมตร เวลา 11.30 น.
โครงการลัดโพธิ์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เปิดการระบายน้ำในช่วงจังหวะน้ำทะเลลง ปริมาณไหลผ่านเฉลี่ย 206.84 ลบ. ม.ต่อวินาที จำนวน 11 ชั่วโมง คิดเป็นปริมาตรน้ำวันละ 17.87 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบายน้ำ 186.91 ลบ.ม.ต่อวินาที (เมื่อวาน 125 ลบ.ม.ต่อวินาที)
เขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำไหลผ่าน 87.88 ลบ.ม.ต่อวินาที (เมื่อวาน 150.14 ลบ.ม.ต่อวินาที)
แม่น้ำท่าจีน ที่สถานี T.1 หน้าที่ว่าการอำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม (ความจุ 440 ลบ.ม.ต่อวินาที) ระดับตลิ่ง +1.60 เมตร อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ผลกระทบด้านการเกษตร
อุทกภัยช่วงวันที่ 1 กันยายน — 17 ตุลาคม 2551 พื้นที่ประสบภัยรวม 50 จังหวัดได้แก่ ภาคเหนือ 16 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียง เหนือ 17 จังหวัด ภาคกลาง 8 จังหวัด ภาคตะวันออก 7 จังหวัด และภาคใต้ 2 จังหวัด
ด้านพืช 49 จังหวัด เกษตรกร 365,228 ราย พื้นที่คาดว่าจะเสียหาย 3,805,643 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 2,913,452 ไร่ พืชไร่ 789,589 ไร่ พืชสวน 102,593 ไร่ (ข้อมูล 17 ต.ค. 2551)
ด้านปศุสัตว์ 29 จังหวัด เกษตรกร 36,177 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 3,308,007 ตัว แบ่งเป็น โค-กระบือ 151,756 ตัว สุกร-แพะ-แกะ 32,460 ตัว สัตว์ปีก 3,123,791 ตัว แปลงหญ้า 3,110 ไร่ (ข้อมูล 20 ต.ค. 2551)
ด้านประมง 32 จังหวัด เกษตรกร 64,478 ราย บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำ 80,951 บ่อ คิดเป็นพื้นที่ 80,951 ไร่ กระชังเลี้ยงสัตว์น้ำ 658 กระชัง คิดเป็นพื้นที่ 16,506 ตารางเมตร (ข้อมูล 16 ต.ค. 2551)
การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
1. การสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ
กรมชลประทานได้เตรียมความพร้อมเครื่องสูบน้ำเพื่อช่วยเหลืออุทกภัยตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ จำนวน 1,200 เครื่อง ปัจจุบันได้ส่งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือไปแล้ว 22 จังหวัด จำนวน 347 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 38 เครื่อง ตามจังหวัดต่างๆ ดังนี้
ภาค จังหวัด เครื่องสูบน้ำ (เครื่อง) เครื่องผลักดันน้ำ (เครื่อง) เหนือ 5 32 - พิจิตร(4) กำแพงเพชร(3) พิษณุโลก(6)
เชียงราย(5) น่าน(14)
ต.อ.เฉียงเหนือ 8 167 11 นครราชสีมา(60,ผลักดันน้ำ(11) สกลนคร(5)
หนองคาย(18) ขอนแก่น(14) ชัยภูมิ(4)
มหาสารคาม(50) กาฬสินธุ์(13) นครพนม(3)
กลาง 8 140 27 ชัยนาท(1) อุทัยธานี(3) ลพบุรี(41) สิงห์บุรี(31)
พระนครศรีอยุธยา(1) อ่างทอง(37) นครปฐม
(ผลักดันน้ำ 20) สุพรรณบุรี(26,ผลักดันน้ำ 7)
ตะวันออก 1 9 - ปราจีนบุรี(9) รวม 22 348 38
2. การสนับสนุนเสบียงสัตว์และดูแลสุขภาพสัตว์
กรมปศุสัตว์สนับสนุนเสบียงสัตว์จำนวน 741,841 กิโลกรัม และดูแลสุขภาพสัตว์ 62,524 ตัว ทั้งนี้ ได้สำรองเสบียงสัตว์ไว้เพื่อ ช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยเพิ่มเติม โดยมีเสบียงสัตว์คงเหลือ 8,446 ตัน ประกอบด้วย หญ้าแห้ง 4,915 ตัน หญ้าหมัก 162 ตัน และหญ้าสด 3,369 ตัน คิดเป็นมูลค่า 18.44 ล้านบาท ซึ่งหากมีภัยพิบัติเกิดขึ้นอีกคาดว่าจะสามารถให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบได้นานถึงมกราคม 2552
3. สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก
กรมส่งเสริมการเกษตร โดยศูนย์ส่งเสริมพัฒนาอาชีพการเกษตร ศูนย์เพาะเลี้ยงพันธุ์พืช จำนวน 10 แห่ง ผลิตต้นกล้าพืชผักจำนวน 1 ล้านต้น แจกจ่ายให้เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแล้ว จำนวน 250,000 ต้น รวมทั้งได้จัดตั้งครัวสายใยรักแห่งครอบครัว เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดลพบุรีและปราจีนบุรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 21 ตุลาคม 2551--จบ--