ขอความเห็นชอบในการเข้าเป็นภาคีกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 29, 2008 12:11 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งร่างกรอบความตกลงฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอรัฐสภาพิจารณาต่อไป โดยให้ส่งร่างกรอบความตกลงฯ ฉบับภาษาไทยให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบและให้ส่งฉบับภาษาอังกฤษเป็นเอกสารการประกอบการพิจารณาตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2540 และวันที่ 16 กันยายน 2546

ร่างกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดน มีสาระสำคัญ ดังนี้

1. กำหนดวัตถุประสงค์ของร่างความตกลงอาเซียนฯ เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งสินค้าข้ามแดนระหว่างและในกลุ่มประเทศภาคีคู่สัญญา เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของเขตการค้าเสรีอาเซียน และเพิ่มความเป็นเอกภาพของเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ยิ่งขึ้น (ร่างข้อ 1)

2. การกำหนดเส้นทางและสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งข้ามแดนตามความตกลงนี้ ให้เป็นไปตามพิธีสาร ฉบับที่ 1 : การกำหนดเส้นทางการขนส่งผ่านแดนและสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน พ.ศ. 2541 ลงนาม ณ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 (ร่างข้อ 6) และการกำหนดที่ทำการชายแดนและ สิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าข้ามแดน ให้เป็นไปตามพิธีสาร ฉบับที่ 2 : การกำหนดที่ทำการชายแดน ภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน (ร่างข้อ 7)

3. ภาคีคู่สัญญาตกลงจะจัดให้มีมาตรการเกี่ยวกับการตรวจโรคในคนและพืช ตามที่ระบุไว้พิธีสาร ฉบับที่ 8 : มาตรการเกี่ยวกับการตรวจโรคในคนและพืช ภายใต้กรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน พ.ศ. 2542 ลงนาม ณ กรุงพนมเปญ วันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2543 (ร่างข้อ 18)

4. ความตกลงนี้ไม่อนุญาตให้ทำการขนส่งสินค้าอันตรายข้ามแดนและสินค้าต้องห้ามหรือสินค้าที่ต้องกำกัดข้ามแดน (ร่างข้อ 19 และร่างข้อ 20)

5. ในการปฏิบัติตามความตกลงนี้ ภาคีคู่สัญญาที่มีความพร้อมตั้งแต่สองภาคีคู่สัญญาหรือมากกว่า สามารถเจรจาต่อรอง ตกลง และลงนามในข้อตกลง/ความตกลงในการใช้บังคับ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ ASEAN-X ได้ทั้งในรูปแบบความตกลงหลายฝ่ายในระดับพหุภาคี หรือในระดับภูมิภาค สำหรับประเทศภาคีคู่สัญญาที่เหลือสามารถจะปฏิบัติตามความตกลงเมื่อประเทศของตนมีความพร้อม (ร่างข้อ 30)

6. ความตกลงนี้จะต้องมีการให้สัตยาบันหรือสารยอมรับจากภาคีคู่สัญญา และจะมีผลใช้บังคับในวันที่สามสิบนับจากวันที่ได้มีการยื่นสัตยาบันหรือสารยอมรับฉบับที่สองแล้ว ซึ่งจะมีผลใช้บังคับระหว่างภาคีคู่สัญญาต่างๆ ที่ได้ยื่นสัตยาบันหรือสารยอมรับความตกลงนี้แล้วเท่านั้น (ร่างข้อ 31)

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 ตุลาคม 2551--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ