คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติมีดังนี้
1. ปรับปรุงนิยามคำว่า “สถาบัน” โดยระบุให้ชัดเจนว่าเป็นสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขงที่จัดตั้งขึ้นตามกฎบัตรของสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขง ซึ่งทำขึ้นเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2546
2. ให้ยอมรับนับถือว่าสถาบันซึ่งเป็นองค์การระหว่างประเทศมีสถานะเป็นนิติบุคคล และให้ถือว่ามีภูมิลำเนาในประเทศไทย
3. ปรับปรุงบทบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิ์ของสถาบันและเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติของสถาบันให้สอดคล้องกับพันกรณีตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับสถาบันความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจลุ่มน้ำโขงที่ทำขึ้นเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2550 และได้รับความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติในคราวประชุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 โดยแยกบทบัญญัติว่าด้วยเอกสิทธิ์ของสถาบันและเจ้าหน้าที่ชาวต่างชาติออกจากกันเพื่อความชัดเจน พร้อมทั้งเพิ่มเติมเอกสิทธิ์ของสถาบันในการได้รับบริการด้านการสื่อสารและเงื่อนไขในการจำหน่ายและโอนทรัพย์สินที่ได้รับยกเว้นอากรเพื่อให้สอดคล้องกับ Article 4 และ Article 7ของความตกลงดังกล่าวด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤศจิกายน 2551--จบ--