การจัดหาเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลผลิตทางการเกษตร

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 5, 2008 11:14 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดหาเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการรับจำนำข้าวและผลผลิตทางการเกษตร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้

1. การกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามพระราชบัญญัติ ธ.ก.ส. พ.ศ. 2509 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 33 และมาตรา 34 ตรี ได้กำหนดให้ในการจัดหาเงินทุนเพื่อการดำเนินงานของธนาคารมีอำนาจกู้ยืมเงินตามที่คณะกรรมการ ธ.ก.ส. เห็นสมควร และในกรณีที่ธนาคารขอให้รัฐบาลค้ำประกันเงินกู้ธนาคารกู้ยืมจากแหล่งเงินในต่างประเทศหรือภายในประเทศ ให้รัฐบาลมีอำนาจค้ำประกันเงินกู้นั้นได้แต่ยอดรวมของเงินกู้ที่จะค้ำประกันเมื่อรวมกับต้นเงินที่การค้ำประกันของรัฐบาลยังค้างอยู่ต้องไม่เกินสิบสองเท่าของจำนวนมูลค่าหุ้นที่ชำระแล้ว นอกจากนี้ ภายใต้อำนาจการค้ำประกันเงินกู้ของกระทรวงการคลังตามพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551 มาตรา 27 กำหนดให้กระทรวงการคลังมีอำนาจค้ำประกันการชำระหนี้ของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือสถาบันการเงินภาครัฐ โดยจะค้ำประกันเต็มจำนวนหรือแต่บางส่วนก็ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไข ที่รัฐบาลกำหนดโดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี ประกอบกับมาตรา 35(2) กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะเสนอแผนการบริหารหนี้สาธารณะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ ดังนั้นการกู้เงินของ ธ.ก.ส. จึงต้องได้รับการบรรจุในแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2552 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการฯ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติการปรับปรุงแผนฯ ดังกล่าวก่อนจึงจะดำเนินการได้

2. ให้ ธ.ก.ส. กู้เงินจากธนาคารกรุงไทยฯ และธนาคารที่เข้าร่วมโครงการในวงเงินไม่เกิน 110,000 ล้านบาท โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยทั้งนี้ ให้รัฐบาลรับภาระต้นเงินและดอกเบี้ยจากการกู้เงินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจริงให้ใช้วงเงินดังกล่าวสำหรับโครงการรับจำนำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2551/52 โครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ปี 2551/52 และโครงการให้สิทธิขายข้าวเปลือกล่วงหน้าแก่เกษตรกรด้วย

3. ในการดำเนินงานตามข้อ 2 ธ.ก.ส. จะต้องมีแผนการทั้งในส่วนของการรับจำนำจัดทำกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายผลิตผลเพื่อปิดบัญชีโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี หลังจากสิ้นสุดระยะเวลารับจำนำ โดยมีกระทรวงการคลังเข้าร่วมพิจารณาด้วยอย่างใกล้ชิด และเมื่อปิดบัญชีแล้วมีผลขาดทุนเกิดขึ้นจากการดำเนินงานโครงการดังกล่าว ให้รัฐบาลรับภาระโดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อชดใช้ ธ.ก.ส.ทั้งนี้ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งระบายข้าวในสต๊อกเก่าออกและชำระเงินให้แก่ ธ.ก.ส.ด้วย

4. ให้ ธ.ก.ส.ดำเนินงานตามโครงการในลักษณะธุรกรรมตามนโยบายพิเศษของรัฐ (Public Service Obligation : PSO) โดยแยกบัญชีงบการเงินออกจากการดำเนินงานปกติของ ธ.ก.ส. และให้ผลการดำเนินโครงการดังกล่าวไม่นับรวมเป็นสินทรัพย์เสี่ยง ที่ใช้ในการคำนวณสัดส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR) ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงว่าด้วยการดำรงเงินกองทุนของ ธ.ก.ส.

5. มอบหมายให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาการกู้เงิน วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันในแต่ละครั้งได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นจากสถาบันการเงินจำนวน 4 แห่งที่กล่าวข้างต้น

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤศจิกายน 2551--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ