คณะรัฐมนตรีรับทราบการรายงานสถานะการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2551 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมอบหมายให้กระทรวงที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจในสังกัดเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย และให้รัฐวิสาหกิจรายงานการเบิกจ่ายงบประมาณทุกสิ้นเดือนเสนอรัฐมนตรีที่ดูแลแล้วนำส่งสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกระทรวงการคลังนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
กระทรวงการคลังรายงานว่า ผลการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปี 2551 มีดังนี้
1. ภาพรวมการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2551
รัฐวิสาหกิจ จำนวน 46 แห่ง สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (เดือนตุลาคม 2550 — มิถุนายน 2551) จำนวน 132,214.90 ล้านบาท (หรือร้อยละ 40.18 ของวงเงินงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด) โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2551 ที่เบิกจ่ายสะสมได้จำนวน 116,044.39 ล้านบาท (หรือร้อยละ 35.27 ของวงเงินงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด) แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายสะสมที่กำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 56.70
2. สถานะการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ จำนวน 15 แห่ง
รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ จำนวน 15 แห่ง มีวงเงินงบลงทุนรวมกันทั้งสิ้น 317,403.27 ล้านบาท หรือร้อยละ 96.47 ของวงเงินงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด โดยสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม จำนวน 126,737.71 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.93 ของวงเงินงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ จำนวน 15 แห่ง ที่ได้รับการอนุมัติ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2551 ที่สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสมได้ จำนวน 111,356.63 ล้านบาท หรือร้อยละ 35.08 ของวงเงินงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจกลุ่มนี้ที่ได้รับอนุมัติ แต่ยังคงต่ำกว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายสะสมที่กำหนดไว้ในอัตราร้อยละ 55.25 ทั้งนี้ สามารถแยกประเภทรัฐวิสาหกิจตามปีบัญชี ดังนี้
2.1 รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีงบประมาณ จำนวน 7 แห่ง และมีวงเงินงบลงทุน จำนวน 130,189.90 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.57 ของวงเงินงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด
รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม จำนวน 64,761.20 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 49.74 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติสำหรับรัฐวิสาหกิจประเภทนี้ ซึ่งตามเป้าหมายรัฐวิสาหกิจควรเบิกจ่ายได้ร้อยละ 72.80 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติสำหรับรัฐวิสาหกิจประเภทนี้
ทั้งนี้ รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีงบประมาณมีเวลาเหลืออีกเพียง 3 เดือน ก่อนสิ้นปีงบประมาณในการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่เนื่องจากผลการเบิกจ่ายสะสม 9 เดือน (ตุลาคม 2550 — มิถุนายน 2551) อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าที่ประมาณการไว้มาก จึงเห็นสมควรมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายต่อไป
2.2 รัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีปฏิทิน จำนวน 8 แห่ง และมีวงเงินงบลงทุน จำนวน 187,213.37 ล้านบาท หรือร้อยละ 56.90 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด
รัฐวิสาหกิจสามารถเบิกจ่ายงบลงทุนสะสม จำนวน 61,976.51 ล้านบาท หรือร้อยละ 33.10 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติสำหรับรัฐวิสาหกิจประเภทนี้ ซึ่งตามเป้าหมายรัฐวิสาหกิจควรเบิกจ่ายได้ร้อยละ 43.04 ของวงเงินงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติสำหรับรัฐวิสาหกิจประเภทนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่ารัฐวิสาหกิจที่ใช้ปีปฏิทินจะมีเวลาอีก 6 เดือนก่อนสิ้นปีบัญชีในการเบิกจ่ายงบลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ แต่เนื่องจากผลการเบิกจ่ายสะสม 6 เดือน (มกราคม 2551 — มิถุนายน 2551) อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าที่ประมาณการ จึงเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงเจ้าสังกัดที่กำกับดูแลรัฐวิสาหกิจเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามเป้าหมายเช่นกัน
2.3 เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2551 กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจได้ประชุมร่วมกับรัฐวิสาหกิจที่มีงบลงทุนขนาดใหญ่ทั้ง 15 แห่ง และได้ร่วมกันจัดทำประมาณการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจในปี 2551 โดยคาดว่ารัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ทั้ง 15 แห่งจะสามารถเบิกจ่ายได้ทั้งสิ้น 248,517.13 ล้านบาท หรือร้อยละ 78.30 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ โดยรัฐวิสาหกิจปีงบประมาณจะสามารถเบิกจ่ายได้ 85,951.21 ล้านบาท หรือร้อยละ 66.02 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2551) และรัฐวิสาหกิจปีปฏิทินจะสามารถเบิกจ่ายได้ 162,565.92 ล้านบาท หรือร้อยละ 86.83 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ (ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2551)
3. รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ในปีงบประมาณ 2551 ที่เบิกจ่ายได้ต่ำกว่าแผนเป็นจำนวนมาก คือ
3.1 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 3,233.11 ล้านบาท จากยอดอนุมัติทั้งสิ้น 17,484.00 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 18.49 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติทั้งหมด เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่ — บางซื่อ อยู่ระหว่างการจ่ายชดเชยค่าเวนคืนที่ดินและโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง — บางแค และช่วงบางซื่อ — ท่าพระ อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาผู้รับเหมา ซึ่งคาดว่าจะดำเนินโครงการได้จริงในปีงบ ประมาณ 2552
3.2 การรถไฟแห่งประเทศไทย สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 6,917.39 ล้านบาท จากยอดอนุมัติทั้งสิ้น 20,230.03 ล้านบาท หรือเท่ากับร้อยละ 34.19 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงอยู่ระหว่างกระบวนการจัดหาบริษัทผู้ดำเนินการก่อสร้าง
3.3 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 3,257.40 ล้านบาท จากยอดอนุมัติทั้งสิ้น 12,906.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 25.24 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีการเปลี่ยนสัญญาจ้างในส่วนต่าง ๆ เช่น พื้นสนามบินและลานจอดเครื่องบินซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบความเหมาะสมของราคา
3.4 การเคหะแห่งชาติ สามารถเบิกจ่ายงบลงทุนได้ 22,176.57 ล้านบาท จากยอดอนุมัติทั้งสิ้น 40,739.55 ล้านบาท หรือร้อยละ 54.43 ของงบลงทุนที่ได้รับอนุมัติ เนื่องจากโครงการบ้านเอื้ออาทร ระยะที่ 3 — 5 เบิกจ่ายได้ล่าช้ากว่าเป้าหมายการเบิกจ่ายจริง 10,240.79 ล้านบาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 11 พฤศจิกายน 2551--จบ--