คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญเข้าตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
สาระสำคัญ
หลักเกณฑ์และวิธีการในการปรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 เข้าตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 สรุปได้ดังนี้
1. หลักการ
1.1 หลักไม่กระทบสิทธิและประโยชน์ กำหนดให้สิทธิและประโยชน์ที่ข้าราชการพลเรือนผู้ใดได้รับอยู่ก่อนวันที่ ก.พ. ประกาศการจัดตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญตามมาตรา 131 ให้ข้าราชการพลเรือนผู้นั้นได้รับสิทธิและประโยชน์นั้นไม่น้อยกว่าเดิม
1.2 หลักไม่สร้างผลกระทบต่อภาระงบประมาณหรือกระทบน้อยที่สุด กำหนดให้การปรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญเข้าตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551ส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณน้อยที่สุด
2. หลักเกณฑ์และวิธีการปรับเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ดังนี้
2.1 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือนตามบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ตามประเภทตำแหน่ง สายงานและระดับตามที่ ก.พ.ประกาศการจัดตำแหน่ง และตามกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน ออกตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
2.2 ในกรณีผู้ใดได้รับเงินเดือนในอัตราที่สูงกว่าอัตราขั้นสูงของประเภทตำแหน่ง สายงาน และระดับที่กำหนดไว้ในกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน ให้ผู้นั้นได้รับเงินเดือนในอัตราที่ได้รับอยู่เดิมจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงประเภทตำแหน่ง สายงานหรือระดับ
2.3 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเข้าดำรงตำแหน่งประเภทใด สายงานใด ระดับใด หลังจากวันที่ ก.พ. ประกาศ ได้รับเงินเดือนยังไม่ถึงขั้นต่ำของระดับตามท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก็ให้ได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำชั่วคราวของบัญชีเงินเดือนขั้นต่ำขั้นสูงของข้าราชการพลเรือนสามัญตามที่กำหนดในกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญได้รับเงินเดือน ออกตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551
2.4 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญที่ได้รับเงินเดือนยังไม่ถึงขั้นต่ำของระดับตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ได้รับการปรับเงินเดือนปีละครั้งจนได้รับเงินเดือนถึงขั้นต่ำของระดับตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยให้เริ่มปรับครั้งแรกในวันที่ 1 ตุลาคม 2552 และให้ปรับเงินเดือนครั้งถัดไปในแต่ละปีในวันที่ 1 ตุลาคมเท่ากับครึ่งหนึ่งของความต่างระหว่างอัตราเงินเดือนของผู้นั้นกับอัตราเงินเดือนขั้นต่ำของระดับตำแหน่ง ทั้งนี้ การปรับแต่ละครั้ง ให้ปรับได้สูงสุดร้อยละ 10 ของเงินเดือนที่ผู้นั้นได้รับอยู่ ณ วันนั้น ในกรณีที่การปรับเงินเดือนดังกล่าว หากทำให้อัตราหนึ่งอัตราใดมีเศษไม่ถึงสิบบาท ให้ปรับตัวเลขเงินเดือนของอัตราดังกล่าวให้เพิ่มขึ้นเป็นสิบบาท และมิให้ถือว่าเป็นการปรับอัตราร้อยละที่แตกต่างกัน
สำหรับข้าราชการพลเรือนสามัญตามวรรคหนึ่ง แม้จะอยู่ในระหว่างช่วงเวลาที่ไม่สามารถเลื่อนขั้นเงินเดือนหรือเลื่อนเงินเดือน เช่น ลาประเภทต่างๆ สอบสวนวินัย ถูกฟ้องเป็นคดีอาญาหรือต้องหาว่ากระทำผิดทางอาญา พักราชการ เป็นต้น ก็ให้ดำเนินการปรับเงินเดือนจนได้รับเงินเดือนถึงขั้นต่ำของระดับตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติฯ เช่นเดียวกัน
2.5 ในกรณีที่มีการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งในวันเดียวกันกับวันที่ให้ได้รับการปรับเงินเดือนตามข้อ 2.4 ให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญผู้นั้นให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวก่อนแล้วจึงจะให้มีการปรับเงินเดือนตามข้อ 2.4
2.6 ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 ที่ได้รับเงินประจำตำแหน่งตามพระราชบัญญัติเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง พ.ศ. 2538 ซึ่งได้รับการจัดให้ดำรงตำแหน่งตามประเภทตำแหน่ง สายงานและระดับตามประกาศ ก.พ. และมีสิทธิได้รับเงินประจำตำแหน่งตามกฎ ก.พ. ที่ออกตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนสามัญ พ.ศ. 2551 คงได้รับเงินประจำตำแหน่งในอัตราที่ได้รับอยู่เดิมก่อนวันที่ ก.พ. ประกาศการจัดตำแหน่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551--จบ--