ญัตติด่วน เรื่อง ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงเป็นการด่วน

คณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินการตามญัตติด่วน เรื่อง ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงเป็นการด่วน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้แจ้งสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป

สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ส่งญัตติด่วน เรื่อง ขอให้เร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวประมงเป็นการด่วน (นายอรรถพร พลบุตร กับคณะ เป็นผู้เสนอ) มาเพื่อดำเนินการ ซึ่งมีสาระสำคัญในการพิจารณา หามาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะปัญหาราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและปัญหาหนี้สิน ซึ่งผู้ประกอบอาชีพการประมงทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดย่อม ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล 23 จังหวัด กำลังได้รับความเดือดร้อนโดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีราคาสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังประสบปัญหาหนี้สิน ทั้งจากหนี้นอกระบบและหนี้สินจากพ่อค้าคนกลาง กรณีดังกล่าวถือได้ว่าเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะรักษาความมั่นคงของประเทศในทางเศรษฐกิจและสังคม

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้แจ้งให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพลังงาน รับญัตติด่วนดังกล่าวไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมผลการดำเนินการ แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2551 แล้วจึงได้เสนอผลการดำเนินการดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีมาตรการเพื่อช่วยเหลือชาวประมงในปัจจุบันร่วมกับกระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังดังต่อไปนี้

1. โครงการจำหน่ายน้ำมันดีเซลสำหรับชาวประมงในเขตต่อเนื่องของราชอาณาจักร (น้ำมันเขียว) เป็นโครงการที่มีการจำหน่ายน้ำมันให้แก่ชาวประมงโดยการจำหน่ายน้ำมันในโครงการฯ ต้องดำเนินการจำหน่ายในเขตพื้นที่ต่อเนื่องราชอาณาจักร (ห่างฝั่ง 12 — 24 ไมล์ทะเล นับจากเส้นฐาน) โดยน้ำมันในโครงการจะไม่มีการเก็บภาษีน้ำมันดีเซล (อัตราลิตรละ 2.405 บาท) ตลอดจนยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม และเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันที่จำหน่ายมีราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันดีเซลที่จำหน่ายภายในประเทศโดยประมาณ 5-6 บาท

2. โครงการจำหน่ายน้ำมันในเขตทะเลอาณาเขตให้ชาวประมงชายฝั่ง (น้ำมันม่วง) เป็นโครงการจำหน่ายน้ำมันให้แก่ชาวประมงชายฝั่ง โดยการจำหน่ายน้ำมันในโครงการฯ สามารถจำหน่ายบริเวณใกล้ฝั่งหรือบนฝั่งสำหรับชาวประมงในราคาต่ำกว่าน้ำมันดีเซลปกติ 2 บาทต่อลิตร และให้สถานีบริการน้ำมันอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์การสะพานปลา

สรุปยอดรวมผลการดำเนินการ (ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน — 14 สิงหาคม 2551) จำนวน 2.094 ล้านลิตร และมีเรือประมงเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น 2,941 ลำ

3. คณะกรรมการนโยบายพลังงานได้มีมติเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2551 เห็นชอบในการจัดสรรน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ได้รับการช่วยเหลือจากโรงกลั่นจำหน่ายในราคาต่ำกว่าราคาน้ำมันดีเซลปกติ 3 บาทต่อลิตร ให้กับชาวประมงและเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง ในส่วนของชาวประมงได้เริ่มดำเนินการจำหน่ายน้ำมันตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2551 ซึ่งผลการจำหน่ายน้ำมันถึงปัจจุบัน (17 ตุลาคม 2551) เป็นจำนวน 4.154 ล้านลิตร และมีเรือประมงเข้าร่วมโครงการทั้งสิ้น จำนวน 3,317 ลำ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้ง จำนวน 685 ราย

4. สำหรับการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานในระยะยาว กระทรวงพลังงานจะดำเนินการสนับสนุนให้ใช้ LNG (Liquefied Natural Gas) สำหรับเรือประมงชายฝั่งเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำประมง โดยจะสร้างโรงงานผลิต LNG เพิ่มขึ้นที่จังหวัดสงขลา จากที่มีอยู่ในปัจจุบันที่จังหวัดระยอง

5. เพื่อให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวประมงสามารถดำเนินการได้ทันท่วงที กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการด้านการประมง โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานกรรมการฯ มีอำนาจหน้าที่ที่สำคัญคือ การกำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกอบการด้านการประมง และประสานงานกับหน่วยงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551--จบ--