สรุปสถานการณ์ภัยหนาวและอุทกภัย (ข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551)

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 20, 2008 13:56 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสรุปสถานการณ์อุทกภัย รวมทั้งภัยหนาวที่เกิดขึ้น และผลการปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชน ในห้วงวันที่ 8 - 18 พฤศจิกายน 2551 ดังนี้

1. สรุปสถานการณ์ภัยหนาวและการให้ความช่วยเหลือ (ข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551)

1.1 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ ประสบภัยหนาว ปี 2551- 2552 ณ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดแล้ว

1.2 จังหวัดที่ประสบภัยหนาว จำนวน 17 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพะเยา เชียงราย เชียงใหม่ น่าน แพร่ ลำปาง เลย กาฬสินธุ์ ขอนแก่น นครพนม มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร สกลนคร หนองคาย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ รายงานว่า ได้มอบเครื่องกันหนาวให้แก่ ประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนผ้าห่มกันหนาวจากบริษัทไทยเบฟเวอเรจจำกัด (มหาชน) สมาคม มูลนิธิ ไปแล้ว รวม 110,256 ชิ้น แยก เป็น ผ้าห่มนวม 109,256 ผืน เสื้อกันหนาว 1,000 ตัว

2. สรุปสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ (ระหว่างวันที่ 8 - 18 พฤศจิกายน 2551)

2.1 พื้นที่ประสบภัยรวม 5 จังหวัด 34 อำเภอ 203 ตำบล 1,334 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และจังหวัดพัทลุง มีผู้เสียชีวิต 3 คน (จ.สุราษฎร์ธานี 2 คน และ จ.นครศรีธรรมราช 1 คน) ราษฎรเดือดร้อน 56,975 ครัว เรือน 160,917 คน

ที่                          พื้นที่ประสบภัย                                             ราษฎรประสบภัย
       ภาค    จังหวัด    อำเภอ    ตำบล    หมู่บ้าน    รายชื่อจังหวัด                 ครัวเรือน            คน
1       ใต้        5       34     203    1,334    ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร            56,975       160,917

สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช

และพัทลุง

รวมทั้งประเทศ       5       34     203    1,334                                56,975       160,917

2.2 ความเสียหาย (เบื้องต้น) ข้อมูล ณ วันที่ 18 พฤศจิกายน 2551

                 ลำดับที่      ประเภทความเสียหาย                                  จำนวนความเสียหาย
                     1      พื้นที่ประสบอุทกภัย               5 จังหวัด 34 อำเภอ 203 ตำบล 1,334 หมู่บ้าน
                     2      ประชาชนได้รับความเดือดร้อน                  160,917 คน 56,975 ครัวเรือน
                     3      ผู้เสียชีวิต                                                      3 คน
                     4      บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง                                         23 หลัง
                     5      บ้านเรือนเสียหายบางส่วน                                        75 หลัง
                     6      ถนนเสียหาย                                               1,151 สาย
                     7      สะพาน                                                    87 สะพาน
                     8      บ่อปลา/กุ้ง                                                   298 บ่อ
                     9      ปศุสัตว์                                                   22,415 ตัว
                    10      สัตว์ปีก                                                   17,056 ตัว
                    11      พื้นที่การเกษตรถูกน้ำท่วมเบื้องต้นประมาณ                         244,778 ไร่
                    12      มูลค่าความเสียหายเบื้องต้น                             166,991,696  บาท

2.3 สถานการณ์ปัจจุบัน คลี่คลายแล้ว 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร

สุราษฎร์ธานี และจังหวัดพัทลุง ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ จำนวน 3 อำเภอ (อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ และ อ.ปากพนัง) แนวโน้มหากไม่มีฝนตกเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน

อนึ่ง พื้นที่ภาคกลางยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอ่างทอง และจังหวัดพระ นครศรีอยุธยา ดังนี้

1) จังหวัดอ่างทอง ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ของ อำเภอป่าโมก 2 ตำบล ได้แก่ ต.โผงเผง และ ต. บางเสด็จ

2) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางพื้นที่ใน 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอผักไห่ บางบาล เสนา บางไทร มหาราช นครหลวง พระนครศรีอยุธยา บ้านแพรก และอำเภอบางปะอิน

2.4 การให้ความช่วยเหลือ

2.4.1 สิ่งของพระราชทาน

1) มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ นำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา ตาก แพร่ สุโขทัย กำแพงเพชร สิงห์บุรี อ่างทอง และจังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่วันที่ 1-12 พฤศจิกายน 2551 รวม 17,250 ชุด และวันที่ 13-14 พฤศจิกายน 2551 พระราชทานเพิ่มที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และจังหวัดชุมพร ดังนี้

  • วันที่ 13 พฤศจิกายน 2551 จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อำเภอสิชล จำนวน 1,000 ชุด และจังหวัดสุราษฎร์
ธานี ที่โรงเรียนบ้านดินทอง ตำบลวัง อำเภอท่าชนะ จำนวน 1,000 ชุด
  • วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551 จังหวัดชุมพร ที่อำเภอสวี จำนวน 1,000 ชุด และอำเภอหลังสวน จำนวน
1,000 ชุด

2) สภากาชาดไทยโดยสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ ได้จัดส่งสิ่งของพระราชทานจากสมเด็จพระนาง เจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทองรวม 500 ชุด

3) กองงานพระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร นำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่ จังหวัดตาก รวม 1,200 ชุด

4) มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก นำถุงพระราชทานไปมอบให้ในพื้นที่จังหวัดตาก รวม 617 ชุด

2.5 การตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข) มอบหมายให้ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย (นายบัวสอน ประชามอญ) และคณะ ได้เดินทางไปตรวจราชการเพื่อเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยและมอบถุงยังชีพให้ความช่วยเหลือในพื้นที่จังหวัด ชัยนาท เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2551 ณ ที่ว่าการอำเภอหนองมะโมง จำนวน 3,500 ชุด ที่ว่าการอำเภอวัดสิงห์ จำนวน 2,120 ชุด และที่วัด กำแพง ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จำนวน 2,000 ชุด

3. การคาดหมายลักษณะอากาศระหว่างวันที่ 17-23 พฤศจิกายน 2551

3.1 กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายลักษณะอากาศว่าบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังอ่อนลง และมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลงด้วย ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเป็นแห่ง ๆ ถึงกระจาย สำหรับพายุโซนร้อน “นูล” (Noul) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศเวียดนามในวันที่ 18 พฤศจิกายน และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณอ่าวไทยในวันที่ 19 พฤศจิกายน ทำให้ระหว่างวันที่ 19-20 พฤศจิกายน บริเวณภาคใต้จะมีฝนเพิ่มมากขึ้น ในช่วงวันที่ 18-21 พฤศจิกายน 2551 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอน บนมีอุณหภูมิลดลง 3-5 องศาส่วนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และ อ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

3.2 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้แจ้งเตือนเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ดังนี้

1) แจ้งเตือนเพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาวะอากาศหนาวเย็นระหว่างวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2551

เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาวะอากาศหนาวเย็น อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและจังหวัดในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์

2) แจ้งเตือนเพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรงระหว่างวันที่ 18-20 พฤศจิกายน 2551 เนื่องจากพายุโซนร้อน “นูล (Noul)”

เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรงอันเกิดจากสภาวะอากาศ ฝนตกหนักและคลื่น ลมแรง อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสี่ยงภัยและชาวเรือ ให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขตและจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ ไว้ให้พร้อมเพื่อสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันต่อเหตุการณ์

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีชุดนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 พฤศจิกายน 2551--จบ--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ