เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อเวลา 08.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 2 ตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีหลังใหม่ ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ. ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี
ภายหลังการประชุมนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงคำปรารภของ รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์) รักษาการนายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
เร่งรณรงค์มาตรการประหยัดพลังงาน
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้สรุปสถานการณ์พลังงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ ว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นไปมาก อย่างเช่น ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 84 เหรียญ/บาร์เรล รวมทั้ง เหตุการณ์ที่เป็นสถานการณ์โลก โดยเฉพาะกรณีที่องค์การสหประชาชาติได้ขอให้ประเทศอิหร่านยกเลิกการทดสอบนิวเคลียร์ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นผลทำให้ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นในช่วงระยะเวลาปัจจุบัน โดย คณะรัฐมนตรีอภิปรายว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะส่งผลกระทบอย่างสูงต่อระบบเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากการใช้พลังงานทดแทนภายในประเทศยังไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องของไบโอดีเซล เอทานอล แก๊สโซฮอล์ เพราะกำลังผลิตยังไม่เพียงพอที่จะรองรับกับปริมาณการใช้น้ำมันภายในประเทศ ถึงแม้จะพยายามเพิ่มปริมาณสถานีแก๊ส NGV ให้เพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงเห็นว่า จะต้องเร่งรณรงค์มาตรการประหยัดพลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่สามารถหาได้อย่างจริงจังมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้แจ้งกับที่ประชุมว่า มาตรการประหยัดพลังงาน ในช่วงที่ผ่านมาได้ผลพอสมควร ทำให้อัตราการใช้พลังงานในปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วลดลงไปประมาณร้อยละ 5 แต่จะต้องมีการรณรงค์เรื่องนี้ให้กว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการขนส่งที่จะต้องส่งเสริมให้ใช้แก๊ส NGV เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงพลังงานรับที่จะไปเร่งให้ ปตท. ส่งเสริมการใช้แก๊ส NGV กับภาคการขนส่งให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งขอให้มีการพิจารณามาตรการลดผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องค่าไฟฟ้าว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มีผลกระทบต่อการขึ้นราคาค่าไฟฟ้า และค่าโดยสารต่างๆ ของรถที่ให้บริการกับประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของวิกฤตน้ำมัน โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเข้าไปเร่งรัดเรื่องการประหยัดพลังงาน เพราะมีตัวเลขออกมาว่า ถ้าดูจากรายได้สินค้าประเภทข้าวที่ผลิตได้ทั้งปีของประเทศไทย มูลค่าของข้าวที่ผลิตได้จะเท่ากับซื้อน้ำมันได้เพียง 2 เดือน มูลค่าของยางพาราที่ผลิตได้ใน 1 ปี จะเท่ากับมูลค่าของน้ำมันที่ใช้เพียง 2 เดือนครึ่ง มูลค่าของมันสำปะหลังที่ผลิตได้ใน 1 ปี จะเท่ากับน้ำมันที่ใช้ได้เพียง 3 สัปดาห์ มูลค่าของกุ้งที่ผลิตได้ใน 1 ปี จะเท่ากับน้ำมันที่ใช้ได้เพียง 5 สัปดาห์ ดังนั้น ถ้ารวมสินค้าเกษตรที่เป็นสินค้าหลักทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง กุ้ง รวมแล้วเราสามารถซื้อน้ำมันมาใช้ในประเทศได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น จะเห็นได้ว่าสินค้าต่าง ๆ ที่เป็นสินค้าหลักของประเทศไทยทางด้านเกษตรกรรมไม่สามารถจะรองรับการใช้น้ำมันได้ทั้งปี เพราะฉะนั้น การรณรงค์ประหยัดพลังงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เสนอคณะรัฐมนตรีขอเลื่อนเวลาการยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับโครงการเมกะโปรเจกต์ (Mega Projects) ภายใต้นโยบายสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาออกไปก่อนรอจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี
นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี และนายดนุพร ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. เรื่อง การขอขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงใน
พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
2. เรื่อง การเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการจัดกิจกรรม 100 ปี พุทธทาสภิกขุ
3. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธี-
ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พ.ศ. ....
4. เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดจำนวนคนต่างด้าว
ซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. 2549
5. เรื่อง ขออนุมัติเช่าที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทยที่บริเวณสถานีบ้านฉิมพลี
6. เรื่อง ความตกลงระหว่างรัฐบาลของประเทศสมาชิกสมาคมแห่งประชาชาติ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรัฐบาลของสหพันธ์รัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
7. เรื่อง การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสำนักงาน-
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคในประเทศไทย
8. เรื่อง โครงการจัดหาและดำเนินการระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศแรงงาน
9. เรื่อง นโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในเยาวชนระดับอุดมศึกษา (วันที่ 26 มกราคม 2549)
10.เรื่อง สรุปสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ (ครั้งที่ 14)
11.เรื่อง สรุปผลการดำเนินการตามมาตรการ และแผนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
12.เรื่อง ประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และประมาณการรายได้ล่วงหน้า 3 ปี (เบื้องต้น)
13.เรื่อง ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML)
14.เรื่อง แต่งตั้ง
1. การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งนักการข่าว 10 ชช
2. การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน
(เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช.) (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)
3. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข)
4. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงศึกษาธิการ)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 เมษายน 2549--จบ--
ภายหลังการประชุมนายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงคำปรารภของ รองนายกรัฐมนตรี (พลตำรวจเอกชิดชัย วรรณสถิตย์) รักษาการนายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
เร่งรณรงค์มาตรการประหยัดพลังงาน
นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้สรุปสถานการณ์พลังงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบ ว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นไปมาก อย่างเช่น ราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 84 เหรียญ/บาร์เรล รวมทั้ง เหตุการณ์ที่เป็นสถานการณ์โลก โดยเฉพาะกรณีที่องค์การสหประชาชาติได้ขอให้ประเทศอิหร่านยกเลิกการทดสอบนิวเคลียร์ ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่เป็นผลทำให้ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นในช่วงระยะเวลาปัจจุบัน โดย คณะรัฐมนตรีอภิปรายว่า ขณะนี้สถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะส่งผลกระทบอย่างสูงต่อระบบเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากการใช้พลังงานทดแทนภายในประเทศยังไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องของไบโอดีเซล เอทานอล แก๊สโซฮอล์ เพราะกำลังผลิตยังไม่เพียงพอที่จะรองรับกับปริมาณการใช้น้ำมันภายในประเทศ ถึงแม้จะพยายามเพิ่มปริมาณสถานีแก๊ส NGV ให้เพิ่มมากขึ้นก็ตาม แต่คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ดังนั้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีจึงเห็นว่า จะต้องเร่งรณรงค์มาตรการประหยัดพลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่สามารถหาได้อย่างจริงจังมากขึ้น ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้แจ้งกับที่ประชุมว่า มาตรการประหยัดพลังงาน ในช่วงที่ผ่านมาได้ผลพอสมควร ทำให้อัตราการใช้พลังงานในปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วลดลงไปประมาณร้อยละ 5 แต่จะต้องมีการรณรงค์เรื่องนี้ให้กว้างขวางมากขึ้น โดยเฉพาะภาคการขนส่งที่จะต้องส่งเสริมให้ใช้แก๊ส NGV เพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงพลังงานรับที่จะไปเร่งให้ ปตท. ส่งเสริมการใช้แก๊ส NGV กับภาคการขนส่งให้มากยิ่งขึ้น รวมทั้งขอให้มีการพิจารณามาตรการลดผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องค่าไฟฟ้าว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มีผลกระทบต่อการขึ้นราคาค่าไฟฟ้า และค่าโดยสารต่างๆ ของรถที่ให้บริการกับประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องของวิกฤตน้ำมัน โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานเข้าไปเร่งรัดเรื่องการประหยัดพลังงาน เพราะมีตัวเลขออกมาว่า ถ้าดูจากรายได้สินค้าประเภทข้าวที่ผลิตได้ทั้งปีของประเทศไทย มูลค่าของข้าวที่ผลิตได้จะเท่ากับซื้อน้ำมันได้เพียง 2 เดือน มูลค่าของยางพาราที่ผลิตได้ใน 1 ปี จะเท่ากับมูลค่าของน้ำมันที่ใช้เพียง 2 เดือนครึ่ง มูลค่าของมันสำปะหลังที่ผลิตได้ใน 1 ปี จะเท่ากับน้ำมันที่ใช้ได้เพียง 3 สัปดาห์ มูลค่าของกุ้งที่ผลิตได้ใน 1 ปี จะเท่ากับน้ำมันที่ใช้ได้เพียง 5 สัปดาห์ ดังนั้น ถ้ารวมสินค้าเกษตรที่เป็นสินค้าหลักทั้งข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง กุ้ง รวมแล้วเราสามารถซื้อน้ำมันมาใช้ในประเทศได้แค่ครึ่งปีเท่านั้น จะเห็นได้ว่าสินค้าต่าง ๆ ที่เป็นสินค้าหลักของประเทศไทยทางด้านเกษตรกรรมไม่สามารถจะรองรับการใช้น้ำมันได้ทั้งปี เพราะฉะนั้น การรณรงค์ประหยัดพลังงานจึงเป็นเรื่องสำคัญ
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เสนอคณะรัฐมนตรีขอเลื่อนเวลาการยื่นข้อเสนอเกี่ยวกับโครงการเมกะโปรเจกต์ (Mega Projects) ภายใต้นโยบายสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนาออกไปก่อนรอจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่
สรุปข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี
นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี และนายดนุพร ปุณณกันต์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกันแถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
1. เรื่อง การขอขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงใน
พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
2. เรื่อง การเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินการจัดกิจกรรม 100 ปี พุทธทาสภิกขุ
3. เรื่อง ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในพระราชพิธี-
ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี พ.ศ. ....
4. เรื่อง ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การกำหนดจำนวนคนต่างด้าว
ซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. 2549
5. เรื่อง ขออนุมัติเช่าที่ดินการรถไฟแห่งประเทศไทยที่บริเวณสถานีบ้านฉิมพลี
6. เรื่อง ความตกลงระหว่างรัฐบาลของประเทศสมาชิกสมาคมแห่งประชาชาติ
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรัฐบาลของสหพันธ์รัฐรัสเซียว่าด้วยความร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจและการพัฒนา
7. เรื่อง การลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสำนักงาน-
ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคในประเทศไทย
8. เรื่อง โครงการจัดหาและดำเนินการระบบงานเทคโนโลยีสารสนเทศแรงงาน
9. เรื่อง นโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ในเยาวชนระดับอุดมศึกษา (วันที่ 26 มกราคม 2549)
10.เรื่อง สรุปสถานการณ์ภัยแล้งและการให้ความช่วยเหลือ (ครั้งที่ 14)
11.เรื่อง สรุปผลการดำเนินการตามมาตรการ และแผนการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน
12.เรื่อง ประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 และประมาณการรายได้ล่วงหน้า 3 ปี (เบื้องต้น)
13.เรื่อง ผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน/ชุมชน (SML)
14.เรื่อง แต่งตั้ง
1. การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งนักการข่าว 10 ชช
2. การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน
(เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 10 ชช.) (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนา
การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)
3. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงสาธารณสุข)
4. แต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงศึกษาธิการ)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 เมษายน 2549--จบ--