การกำหนดกรอบและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเยียวยาผู้ประสบวิกฤตด้านการท่องเที่ยว

เรื่อง การกำหนดกรอบและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเยียวยาผู้ประสบวิกฤตด้านการท่องเที่ยวกรณีสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ

ไม่สามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้เพราะถูกปิดล้อม

คณะรัฐมนตรีเห็นชอบกรอบและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเยียวยาผู้ประสบวิกฤตด้านการท่องเที่ยวกรณีสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิไม่สามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้เพราะถูกปิดล้อม รวมทั้งเห็นชอบแนวทางปฏิบัติเพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติต่อไป ตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอ

ตามที่คณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2551 มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเป็นหัวหน้าคณะทำงานร่วมกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) ไปพิจารณากำหนดกรอบและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเยียวยาผู้ประสบวิกฤตด้านการท่องเที่ยวกรณีสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิไม่สามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้เพราะ ถูกปิดล้อม นั้น คณะทำงานฯ ได้มีการประชุมโดยเชิญผู้แทน สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมด้วย ซึ่งได้มีการพิจารณากำหนดกรอบและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเยียวยาผู้ประสบวิกฤตด้านการท่องเที่ยวกรณีสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิไม่สามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้เพราะถูกปิดล้อม ในกรณีที่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ และกรณีที่เป็นชาวไทยในต่างประเทศ โดยมีสาระสำคัญในการประชุมสรุปได้ ดังนี้

1. กลุ่มเป้าหมายที่ควรให้ความช่วยเหลือ แยกเป็น 2 กลุ่ม คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ตกค้างไม่สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้ และชาวไทยในต่างประเทศที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทย โดยภาครัฐจะให้ความช่วยเหลือเป็นค่าที่พักและค่าอาหาร 3 มื้อ ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 จนถึงวันที่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติและผู้ได้รับผลกระทบสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนา ทั้งนี้ไม่เกินเวลา 24.00 น. ของวันที่ 9 ธันวาคม 2551

2. กระบวนการตรวจสอบเอกสารหลักฐานและการเบิกจ่ายตามกรอบและหลักเกณฑ์ฯ ให้ดำเนินการ ดังนี้

2.1 กรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มิได้จ่ายเงินค่าเช่าที่พักและค่าอาหาร หรือจ่ายเงินเฉพาะ ส่วนที่เกิน 2,000 บาท เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ตามกำหนดการเดิม ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับรองเอกสารหลักฐานประกอบการขอรับความช่วยเหลือที่ผ่านการตรวจสอบจากสมาคมโรงแรมไทยแล้ว ประกอบด้วย สำเนาหนังสือเดินทาง (PASSPORT) ของผู้ที่เดินทางลงลายมือชื่อรับรอง สำเนาบัตรโดยสารเครื่องบินที่เดินทางขาออก และใบแจ้งรายการค่าเช่าที่พักและค่าอาหาร (FOLIO) เพื่อให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเบิกจ่ายเงินชดเชยให้กับโรงแรมโดยตรงต่อไป

2.2 กรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่จ่ายเงินค่าที่พักและค่าอาหารทั้งจำนวนไปแล้วตามอัตรา ที่โรงแรมเรียกเก็บและได้ขอรับความช่วยเหลือต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตรวจสอบและรับรองเอกสารหลักฐานประกอบการขอรับความช่วยเหลือประกอบด้วย สำเนาหนังสือเดินทาง (PASSPORT) ของผู้ที่เดินทางลงลายมือชื่อรับรอง สำเนาบัตรโดยสารเครื่องบินที่เดินทางขาออก และใบเสร็จหรือหลักฐานการจ่ายเงินค่าที่พักและค่าอาหาร เพื่อให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเบิกจ่ายเงินชดเชยให้กับนักท่องเที่ยวโดยตรงต่อไป

2.3 กรณีชาวไทยในต่างประเทศ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับรองเอกสารหลักฐานประกอบการขอรับความช่วยเหลือที่ผ่านการตรวจสอบจากสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวและกระทรวงการต่างประเทศ ประกอบด้วย สำเนาหนังสือเดินทาง (PASSPORT) ของผู้ที่เดินทางลงลายมือชื่อรับรอง สำเนาบัตรโดยสารเครื่องบินที่เดินทางขาออก และใบเสร็จรายการค่าเช่าที่พัก เพื่อให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเบิกจ่ายเงินชดเชยให้กับบริษัทท่องเที่ยวและชาวไทยที่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อไป

สำหรับกรณีชาวไทยในต่างประเทศตามกรอบและหลักเกณฑ์ฯ นี้จะไม่ใช้บังคับกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัดของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐที่เดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว รวมทั้งพนักงานบริษัทหรือห้างร้านที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง

3. ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้ หรือมีความจำเป็นต้องปฏิบัตินอกเหนือจากหลักเกณฑ์นี้ ให้ขอทำความตกลงกับคณะทำงานกำหนดกรอบและหลักเกณฑ์ในการดำเนินการเยียวยาผู้ประสบวิกฤตด้านการท่องเที่ยว กรณีสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิไม่สามารถให้บริการแก่ผู้โดยสารได้เพราะถูกปิดล้อม

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี วันที่ 9 ธันวาคม 2551--จบ--