คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการพิจารณาการใช้อาร์เอฟไอดี (RFID) กับบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาการใช้ Radio Frequency Identification : RFID กับบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ปรารภในที่ประชุมหารือเรื่อง Smart Card ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสรอรรถ กลิ่นประทุม) คณะโฆษก รัฐบาล ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2549 ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และบัดนี้ คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ดังกล่าวได้ดำเนินการตามที่รับมอบหมายเรียบร้อยแล้ว โดยมีความเห็นว่า หากรัฐบาลมีมติเห็นชอบในการใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟ ไอดีร่วมกับบัตรประชาชน ก็ควรจะเริ่มหลังจาก พ.ศ. 2551 โดยจัดทำเป็นโครงการนำร่องกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็กก่อนประยุกต์ใช้ทั่วไป ดังนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจึงเห็นควรดำเนินการจัดซื้อบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ในงวดต่อไปจำนวน 13 ล้านบัตรในปี 2549 และอีก 26 ล้านบัตรในปี 2550 สำหรับประเด็นที่เป็นบทสรุปว่า ควรมีการจัดตั้งคณะทำงานศึกษาลักษณะบริการภาครัฐที่เหมาะสม ต่อการใช้งานเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี และดำเนินเป็นโครงการนำร่องก่อนใช้งานทั่วไปนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะได้พิจารณาดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 พฤษภาคม 2549--จบ--
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอว่า ได้แต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อพิจารณาการใช้ Radio Frequency Identification : RFID กับบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ปรารภในที่ประชุมหารือเรื่อง Smart Card ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นายสรอรรถ กลิ่นประทุม) คณะโฆษก รัฐบาล ปลัดกระทรวงมหาดไทย และผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2549 ณ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล และบัดนี้ คณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ดังกล่าวได้ดำเนินการตามที่รับมอบหมายเรียบร้อยแล้ว โดยมีความเห็นว่า หากรัฐบาลมีมติเห็นชอบในการใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟ ไอดีร่วมกับบัตรประชาชน ก็ควรจะเริ่มหลังจาก พ.ศ. 2551 โดยจัดทำเป็นโครงการนำร่องกับประชาชนกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็กก่อนประยุกต์ใช้ทั่วไป ดังนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจึงเห็นควรดำเนินการจัดซื้อบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ในงวดต่อไปจำนวน 13 ล้านบัตรในปี 2549 และอีก 26 ล้านบัตรในปี 2550 สำหรับประเด็นที่เป็นบทสรุปว่า ควรมีการจัดตั้งคณะทำงานศึกษาลักษณะบริการภาครัฐที่เหมาะสม ต่อการใช้งานเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี และดำเนินเป็นโครงการนำร่องก่อนใช้งานทั่วไปนั้น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารจะได้พิจารณาดำเนินการต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) (รักษาการนายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 พฤษภาคม 2549--จบ--